‘สธ.’ เตือน ระวังติดเชื้อ เลเซอร์อวัยวะเพศชายให้ขาวใส

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี เทคนิคเลเซอร์ลดการสร้างเม็ดสีผิวบริเวณอวัยวะเพศชาย ให้ขาวขึ้น ของสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง นั้นว่า การใช้เลเซอร์เพื่อทำให้ผิวขาวขึ้นนั้น หากนำมาใช้กับอวัยวะเพศชาย อาจจะส่งผลกระทบต่อผู้รับบริการ ทั้งเกิดอาการเจ็บปวดขณะทำ การระคายเคืองได้ง่ายกว่าก่อนทำ ผิวหนังอักเสบ เกิดรอยแผลเป็น และอาจส่งผลกระทบถึงระบบสืบพันธุ์ และการมีเพศสัมพันธ์ได้ รวมทั้ง เมื่อหยุดทำเลเซอร์ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศชายก็จะกลับมาดำเหมือนเดิม หรืออาจจะเป็นจุดด่างดำดูน่าเกลียด เพราะการทำเลเซอร์ไม่ได้ให้ผลถาวร จึงมองว่าการทำเลเซอร์ให้อวัยวะเพศขาวขึ้นนั้นไม่ใช่สิ่งจำเป็น เป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ และอาจจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีอีกด้วย

ในขณะเดียวกัน นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าการทำเลเซอร์จะมีประโยชน์ในการช่วยรักษาโรคหรือลดความผิดปกติของเม็ดสีได้ แต่อาจเกิดผลข้างเคียงตามมา ดังนั้น การเลือกชนิดของเลเซอร์ที่ถูกต้องควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาและลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำเลเซอร์อวัยวะเพศชายเป็นการทำเลเซอร์ประเภทที่มีความจำเพาะเจาะจงในการทำลายเม็ดสี จึงมีข้อควรระวังในการทำเลเซอร์อวัยวะเพศชายซึ่งอาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ทำให้เกิดความเจ็บปวดระหว่างทำการรักษา การอักเสบของแผล การตกสะเก็ด รอยคล้ำ หรือแผลเป็น ซึ่งอวัยวะเพศชายเป็นจุดอับชื้น หากดูแลแผลไม่ดีอาจเกิดการติดเชื้อได้ ดังนั้น ควรสอบถามรายละเอียด ขั้นตอนในการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการดูแลตนเองก่อนและหลังการรักษา พร้อมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์โดยเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงดังกล่าว

ทั้งนี้ หากผู้ใดพบเบาะแสการโฆษณาโอ้อวด เกินจริง หรือมีเนื้อหาล่อแหลมสื่อไปในทางลามก โดยสถานพยาบาลเอกชน หากอยู่ในเขตกรุงเทพฯ สามารถแจ้งได้ที่กรม สบส.ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 ต่อ 18618 หรือ 18830 แต่หากอยู่ในส่วนภูมิภาคสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ ในวันและเวลาราชการ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยไม่มีการละเว้นแต่อย่างใด


 

กรุงเทพฯ ยังหนาว ตอนบนมีฝนเล็กน้อย

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศในช่วงวันที่ 4 ม.ค. – 5 ม.ค. สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑลว่าจะมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยจะมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางเกิดขึ้นได้บริเวณภาคเหนือขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก และชาวเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับภาคใต้มีฝนบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง


 

‘มาร์ค’ ชี้ ‘บิ๊กตู่’ ยอมรับเป็นนักการเมือง คือเรื่องดี

นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ออกมายอมรับว่าตนเองนั้นเป็นนักการเมือง ว่าไม่ว่าผู้นำประเทศจะเป็นใครมาก่อน แต่เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ในการดูแลบ้านเมือง บริหารการเมืองได้และทำประโยชน์สร้างคุณค่าให้เกิดแก่ประเทศชาติก็ไม่ได้รังเกียจ ถึงแม้ว่าอดีตจะเคยเป็นทหารมาก่อนก็ตาม เป็นคนดีก็สามารถอยู่ในทุกอาชีพได้ ซึ่งคำพูดของท่านตามที่นายกฯ ได้กล่าว นายอภิสิทธิเห็นว่าถูกต้องแล้วในอาชีพการเป็นนักการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ แม้ว่าจะมีใครมากล่าวถึงดวงของคสช.ดวงตกอะไรก็อยากให้กำลังใจ ซึ่ง คสช.นั้นพร้อมยืนยันในโรดแม็ปให้ทุกคนมีความมั่นใจหากไม่เกิดเหตุการณ์สุดวิสัยตามที่ได้กล่าวไว้


 

‘ดอน’ ขอตรวจสอบข้อมูลกรณีสถานทูตฯ ฟินแลนด์ประกาศเตรียมพร้อมเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร

ณ ทําเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัติวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า รัฐบาลไม่ได้สั่งการให้สถานทูตไทย ณ กรุงเฮลซิงกิ ออกประกาศเรื่องการเตรียมการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ในปี 2561 ตามประเด็นดังกล่าว ซึ่งตนกล่าวไม่แน่ใจว่าเกิดจากความผิดพลาดของสถานเอกอัครราชทูต หรือ ถูกแฮ็คข้อมูลหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นจะทำการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงภายหลังจากที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุง เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ได้โพสต์ประกาศผ่านทางเฟซบุ๊ค Royal Thai Embassy, Helsinki เรื่องการเตรียมการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ในปี 2561 โดยมีใจความว่า “ด้วยขณะนี้รัฐบาลไทยกําลังเตรียมการจัดการเลือกตั้งทั่วไป โดยคาดว่าการจัดการเลือกตั้งดังกล่าวในระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2561 ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ เรียนเชิญบุคคลสัญชาติไทยที่มีถิ่นพํานักในฟินแลนด์และเอสโตรเนีย ที่ประสงค์จะใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร โปรดเตรียมเอกสารประจําตัวเพือใช้ สําหรับการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตังนอกราชอาณาจักร และสําหรับการใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราช อาณาจักรได้แก่ บัตรประจําตัวประชาชน และหนังสือเดินทางไทยทีมีอายุการใช้งาน และมีข้อมูลตรงตาม ทะเบียนราษฎร์ หากท่านพบว่าเอกสารดังกล่าวหมดอายุหรือมีการเปลียนแปลงข้อมูลทางทะเบียนราษฎร์ขอให้ติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ เพือดําเนินการให้ถูกต้องในโอกาสแรก จึงขอประกาศมาเพือทราบโดย ทัวกัน นั้น”


 

‘คุณหญิงกัลยา’ แนะ นายกฯ แก้ปัญหาเกษตรด่วน พร้อมวางมือตามสัญญา

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แนะนำให้นายรัฐมนตรี หันมาให้ความสําคัญและช่วยเหลือปัญหาของเกษตรกรอย่างจริงจัง โดยกล่าวว่าการบริหารบ้านเมืองภายใต้อํานาจของคสช.ช่วงที่ผ่านมาจะต้องสินสุดลงภายในปี 2561 ตามสัญญาทีได้ให้ไว้กับสังคม โดยเฉพาะการเลือกตั้ง ที่เคยประกาศไว้บนเวทีโลก รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าถึงแม้หลายประเทศจะมีความสัมพันธ์กับประเทศไทยดีมากขึ้นแต่ก็มีเงื่อนไข และจะเป็นแรงผลักดันเข้ามาภายในมากขึ้น ขณะที่ประชาชนจะแสดงออกทางด้านการเมือง และเรียกร้อง ตามสิทธิและเสรีภาพกันมากขึ้นจากปัญหาปากท้องและประชาธิปไตยเป็นหลัก

สุดท้ายรองหัวหน้าพรรคฯ ทิ้งท้ายถึงนายกฯ ว่า สิ่งสําคัญที่รัฐบาลควรปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม คือใส่ใจต่อการแก้ไขปัญหาด้านผลผลิตการเกษตรและทรัพยากรสิ่ง แวดล้อมที่จะช่วยให้เกษตรกรไทยหลุดพ้นจากภาวะขาดทุน โดยชี้แนะให้นําเอาศาสตร์พระราชามาเป็น แนวทางปฏิบัติในการแก้สถานการณ์เช่นเรื่อง ดิน นํ้า ป่า “จัดการระบบชลประทานมีที่ให้น้าอยู่มีทางให้น้าไหล นําศาสตร์เรืองการกักเก็บนําใต้ดินมาใช้เพิมเติม ทังนี้ เพือความยั่งยืนของเกษตรกรซึงเป็นคนส่วนใหญ่ จุดนี้ไม่เพียงเป็นทางรอดของเกษตรกรและรัฐบาลแต่จะ เป็นทางรอดของประเทศชาติอย่างยั่งยืนด้วย” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว


 

‘บิ๊กอู๋’ ตั้งเป้า ล้างปัญหาค้ามนุษย์ให้หมด!

พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และแรงงานผิดกฎหมายเปิดเผยว่า ได้มีการติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดการดำเนินงานของ 10 หน่วยงาน ในประเด็นที่สำคัญ อาทิ ความคืบหน้าในการสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมือง การเร่งรัดการดำเนินคดีค้ามนุษย์และเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำผิด การจัดระเบียบและจัดเก็บอัตลักษณ์แรงงานต่างด้าว การแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และการแก้ไขปัญหาการจ่ายเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารให้กับแรงงานประมง และที่ประชุมได้มีประเด็นพิจารณาโดยเห็นชอบให้ปรับปรุงแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนและปฏิรูปการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และแรงงานผิดกฎหมาย ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การจัดระเบียบและการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว การเร่งรัดและติดตามคดีค้ามนุษย์และคดีที่เกี่ยวข้อง การเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจแรงงานตามมาตรฐานสากล รวมถึงการสร้างกลไกการคุ้มครอง ช่วยเหลือ เยียวยา ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์และแรงงานผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าวว่า ที่ประชุมฯ ยังมีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงแผนปฏิบัติการอันเนื่องมาจากผลการหารือระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (ด้านแรงงาน) ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหาแรงงานในภาคประมง และมีผลต่อการพิจารณาปลดใบเหลืองของสหภาพยุโรป โดยมีประเด็นขับเคลื่อนที่สำคัญ ได้แก่ การขยายความร่วมมือและการเจรจาด้านแรงงานไปสู่รูปแบบทวิภาคีร่วมกับสหภาพยุโรป การพัฒนากฎหมายเพื่อรองรับอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 188 ว่าด้วยการทำงานในภาคประมง การบังคับใช้กฎหมายและมาตรการปกครองกับผู้กระทำผิดในภาคประมง การเสริมสร้างการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างปลอดภัย และช่องทางการคุ้มครองดูแลแรงงานกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าว

พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวต่อว่า แผนปฏิบัติการฯ ทั้ง 2 ฉบับ ดังกล่าว จะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนและติดตามงานเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งกระทรวงแรงงาน ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการปฏิบัติตามแผนฯ และเห็นความสำคัญของนโยบายรัฐบาลที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดไปจากประเทศไทยอย่างยั่งยืน


 

แชร์กระหน่ำ ตำรวจยิงผิดคน!

จากประเด็นที่แชร์กันอย่างล้นหลามในเฟสบุ๊คเมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊ค Nudee Tato โพส์แชร์ข้อความจากกรณีเเฟนพี่สาวถูกตำรวจยิงระหว่างเดินทางจากเชียงรายเพื่อมุ่งหน้าไปเชียงใหม่ โดยผู้โพสต์กล่าวว่าระหว่างทางมีด่านตำรวจตั้งอยู่ โดยชายหนุ่มผู้ขับซึ่งเป็นแฟนพี่สาวของผู้โพสต์ก็ได้ขับผ่านด่านตรวจไปโดยปกติ เนื่องจากไม่มีสัญญาณจากทางด่านตรวจให้หยุด อย่างไรก็ตามขณะขับผ่านออกมาได้ประมาณ 10 เมตรได้มีเสียงปืนดังขึ้นสองนัด โดยเจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจบอกให้เเฟนสาวที่นั่งมาด้วยออกมาจากรถยนต์และชูมือ ภายหลังพบว่าชายหนุ่มผู้ขับได้เสียชีวิตจากการถูกยิงแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าหรือรายงานทางการจากเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

 

fb

 

‘กรณ์’ คนไทยเป็นที่ชื่นชมของชาวต่างชาติทั่วโลก-แต่ต้องยอมรับข้อบกพร่อง

นาย กรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเขียนอวยพรสวัสดีปีใหม่ 2561 ว่า “คนไทยกันเองก็ต้องอยากเห็นสังคมไทยเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี แต่เราต้องอย่าลืมว่าสังคมและความเป็นอยู่ของคนไทยนั้นเป็นที่ชื่นชมของชาวต่างชาติทั่วโลกในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นความสงบสุข ความร่มเย็น ความอุดมสมบูรณ์ ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรมอันดีงาม และชีวิตที่มีความเป็นอิสระเสรีภาพที่สูงมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศต่างๆในภูมิภาคเราเอง”

โดยอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคคลังเขียนอธิบายต่อว่า “ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่ายังมีข้อบกพร่องอยู่อีกมากที่คนไทยเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้า และคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งหลายเรื่องมีจุดเริ่มต้นจากการรวมศูนย์อำนาจรัฐอยู่ส่วนกลางมากเกินไป โรงเรียนไทย และโรงพยาบาลไทย ควรต้องมีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการด้วยตนเองมากกว่าปัจจุบัน ทั้งทางด้านนโยบาย ด้านงบประมาณ ด้านบริหาร และด้านการกำกับดูแล รัฐควรมีความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในภาคประชาชนมากขึ้น ซึ่งการพัฒนาทางเทคโนโลยีเอื้อต่อการบริหารแนวนี้มากขึ้นจากแต่ก่อน และผมหวังว่าเราจะเห็นนโยบายแนวนี้ปรากฏในปี ๒๕๖๑ ที่กำลังมาเยือน”


 

‘ปลอดประสพ’ ชี้รัฐบาลทำตัวเป็น ‘กุ๊ยแผลงฤทธิ์’

ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่ พลเอกประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีหลังกลับมาจากประชุม ครม.สัญจรที่สงขลาว่า พลเอกประวิตรก็โพร่งออกมาว่าจะไม่ปลดล็อกพรรคการเมืองแล้ว เพราะมีขบวนการต่อต้านรัฐบาล คสช. มีการเดินขบวน มีการโจมตีกล่าวให้ร้าย แถมลูกน้องยังช่วยนำอาวุธโบราณสารพัดมาแสดงสำทับว่าเป็นเรื่องจริง

ดร.ปลอดประสพ กล่าวต่อว่า คณะรัฐบาลไปปักษ์ใต้ ชาวสวนยางมาพบ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนราคายางมันตก ชาวสวนยางอยู่ไม่ได้และรัฐบาลก็ช่วยอะไรไม่ได้ อย่างนี้เรียกว่ากล่าวร้ายหรือเปล่า เมื่อชาวประมงพูดกับนายกฯ ว่าเดือดร้อนออกจับปลาไม่ได้เพราะมาตรการของรัฐบาล อย่างนี้เรียกว่ามาหาเรื่องไม่แสดงความเคารพหรือ ชาวบ้านกลัวควันพิษจากถ่านหินโรงไฟฟ้าจึงรวมตัวกันมาคัดค้าน อย่างนี้เรียกว่าต่อต้านหรือแล้รัฐบาลตอบสนองเขาแบบไหน โดยนายกฯ ตะโกนด่าชาวประมงหาว่ามาขึ้นเสียง รัฐบาลจับพวกไม่อยากได้ถ่านหินโรงไฟฟ้าเข้าคุก รัฐบาลไม่ยอมพบชาวสวนยาง บอกให้ไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดแทนทั้งๆ ที่ก็เจอกันอยู่แล้วทุกวัน รัฐบาลนั้นแหละที่รวนเขา

ความไม่สงบตามที่รัฐบาลอ้างมันล้วนเกิดจากตัวรัฐบาลเองทั้งสิ้น คณะรัฐมนตรีลงใต้ไปประชุมเองมิใช่หรือ มาตรการหรือโครงการต่างๆที่ประชาชนไม่เอาล้วนมาจากรัฐบาลทั้งนั้น โดยเฉพาะกำหนดให้พรรคการเมืองต้องดำเนินการให้เรียบร้อยภายใน 180 วัน ก็มาจากรัฐธรรมนูญที่คณะรัฐบาลเขียนมาเอง เพื่อบีบบังคับทำลายพรรคเพื่อไทย จะเห็นว่าที่รัฐบาลอ้างเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อเลื่อนการปลดล็อกนั้นมันเลื่อนลอยไร้สาระทั้งสิ้น

หากรัฐบาลอยากอยู่ต่อไปอีกนานๆน่าจะหาอะไรที่มันแนบเนียนกว่านี้ การสร้างเรื่องพูดส่งเดชแสดงความใหญ่โตว่าสามารถลิขิตชีวิตคนอื่นได้นั้น เป็นนักเลงที่โบราณเขาเรียกว่ากุ๊ยแผลงฤทธิ์


 

‘บิ๊กตู่’ ยันเลือกตั้ง ยังเป็นไปตามโรดแมป

ณ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการประกาศความชัดเจนในการเลือกตั้งว่า ทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้ ซึ่งตนก็จะพูดกับต่างประเทศเหมือนเดิม โดยต่างประเทศก็มีความเข้าใจ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกฎหมายลูก กฎหมายลูกเสร็จเมื่อไหร่ก็จะสามารถประกาศได้เมื่อนั้น และที่ผ่านมาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้ร่างฯ ออกมาจากความคิดเห็นของ กรธ. ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่เข้าไปยุ่งกับการทำงาน ต่างคนต่างทำหน้าที่ ไม่มีการก้าวก่ายหน้าที่ของกัน แต่ต้องรับผิดชอบร่วมกันเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข จึงขอให้ประชาชนเข้าใจตามนี้ด้วย ส่วนการเตรียมส่งศาลรัฐธรรมตีความนั้น เป็นเรื่องของกระบวนการ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลรัฐธรรม