คำกล่าวของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับไปนานแล้ว ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่มีเนื้อหาเป็นอมตะใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะกับการบริหารและการปกครองในประเทศของเรา
อาจารย์หม่อม กล่าวไว้ว่า ” อำนาจนั้นเปรียบเหมือนยาเสพติด ใครได้มาแล้ว ย่อมวางไม่ลง ไม่มีวันพอได้ ฉะนั้นจะเห็นว่า นักการเมือง การทหาร บำเพ็ญกรณีการแสวงหาอำนาจ เมื่อได้มาแล้ว ก็อยากได้ต่อไปอีกในที่สุดอำนาจนั้น ก็จะทำลายตนลงไป เฉกเช่น ยาเสพติด ย่อมทำลายผู้เสพฉันใด ? ฉันนั้น “
คำกล่าวนี้จริงแท้แน่นอน กับบทบาทการเมืองการปกครองในประเทศไทย ที่สามารถนำมาใช้เปรียบเทียบกับผู้มีอำนาจในสายงานราชการต่างๆ
โดยเฉพาะผู้รักษากฎหมาย ตำรวจก็เป็นส่วนหนึ่งของอาชีพตามระบบราชการ ที่ต้องดูแลบังคับใช้กฎหมาย เป็นลำดับต้นๆเช่นกันในยุคปัจจุบัน องค์กรตำรวจมีผู้นำ คือพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา หรือบิ๊กแป๊ะ กุมบังเหียน ปกครองตำรวจกว่า 2 แสนชีวิต บนเก้าอี้ ผบ.ตร. ยื่นหยัดอยู่ในตำแหน่ง ครบ 4 ปีเต็มๆ ก้าวสู่ปีที่ 5 อย่างมั่นคง
แม้จะมีอุปสรรคต่อการบริหารงานอย่างมากมาย ต้องขานรับนโยบาย บิ๊กทางการเมือง ที่ถูกมองกันว่า พล.ต.ต และพล.ต.ท.ใหญ่กว่า ผบ.ตร.ล้วงลูกการแต่งตั้งโยกย้ายแทบทุกคำสั่ง เกิดกระแส ผบ.ตร.น้อยที่ปกครองหลังม่าน ปัจจุบันปัญหานี้หมดไปเพราะ “ฟ้ามีตา ” อำนาจเบ็ดเสร็จ ที่เคยใช้ ถูกจัดสรรแบ่งปันไปให้นักการเมืองอาชีพ เข้ามาช่วยบริหารงานประเทศในตำแหน่งรัฐมนตรี
การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจทุกระดับ หนีไม่พ้น “ตั๋วฝาก” ที่อาจเปลี่ยนรูปแบบ จากหนังสือกำกับการขอตำแหน่ง เป็นการหารือโดยตรง โดยวาจา หรือทางโทรศัพท์ อำนาจขั้วเดิม นายทหารใหญ่ พ่วงด้วยนักการเมืองระดับสูงถูกใช้สุด
โดยเพื่อคนของกู ไม่คำนึงถึงผลงาน เป็นความหนักใจอีกครั้งของผู้นำตำรวจ อย่าง ” บิ๊กแป๊ะ ” ที่ต้องใช้ความลงตัวทุกด้าน มาไกลเกลี่ยตำแหน่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชา คนมีผลงานอาจโดนลืม แต่ความอาวุโสที่เข้าหลักเกณฑ์ 33 เปอร์เซ็นต์
ยังคงใช้ได้ตามกฎกติกาการแต่งตั้งที่บังคับไว้ การซื้อขายตำแหน่งนั้น มีแน่ แต่ซื้อกับใคร ?? ยากที่จะมีหลักฐาน
การแต่งตั้งระดับ รองผู้บังคับการลงไปถึงสารวัตร ที่กำลังเข้ม และงวดเข้ามาทุกขณะ ที่คาดการว่า สิ้นเดือนนีพฤศจิกายน จะแล้วเสร็จ มีผลภายในต้นเดือนหน้า ธันวาคม กำลังเป็นที่จุดจ้อง ในสายตาสื่อ และประชาชนภายนอก รวมทั้งข้าราชการตำรวจทั่วไป
คำว่า อำนาจต่างๆ ที่น่าจะมาจากนอกระบบ จะแทรกแชงมากน้อยแค่ไหน ?
การซื้อขายตำแหน่งที่เคยโจษขานกันมาก่อนๆ มีมากหรือไม่.?
ทั้งหมดทั้งปวงอยู่ในความรับผิดชอบของ ผบ.ตร.แต่เพียงผู้เดียว
คงยากจะปฏิเสธ กลิ่นไอความหอมหวล ในอำนาจ ที่ต้องใช้ ต่อไปอย่างแน่นอน.