ธนชาตเปิดตัว Thanachart Academy (T-Academy) ศูนย์กลางการบริหารจัดการหลักสูตรพัฒนาบุคลากร ด้วยการสร้างกระบวนการเรียนรู้แบบใหม่ที่แตกต่าง หลากหลายและน่าสนใจ เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าของพนักงานสู่ยุคดิจิทัล และสามารถรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารฯได้จัดตั้ง Thanachart Academy (T-Academy) ศูนย์การเรียนรู้เชิงบูรณาการแบบองค์รวม เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างทักษะให้พนักงานธนชาตทุกระดับอย่างรอบด้าน ทั้งความรู้และทักษะที่จำเป็นเพื่อสร้างความเป็นมืออาชีพในสายงานที่ทำอยู่ รวมถึงเปิดโอกาสให้พนักงานได้เลือกศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่สนใจ ซึ่งทำให้พนักงานมีความพร้อมที่จะเติบโตในอนาคตและก้าวทันยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง สอดคล้องกับกระบวนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของธนชาตที่เป็นแบบ Blended Learning คือ ผสมผสานทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ และมีทิศทางแบบ Reskill การพัฒนาทักษะที่มีอยู่ และ Upskill การเสริมทักษะใหม่
นางวิจิตรา ธรรมโพธิทอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ทรัพยากรบุคคลกลาง กล่าวว่า โครงสร้างหลักสูตร T-Academy ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1) หลักสูตรพื้นฐานสำหรับพนักงานทุกคน อาทิ ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับธุรกิจการเงินการธนาคาร ผลิตภัณฑ์ การให้บริการ วัฒนธรรมองค์กร ค่านิยมหลัก ความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล 2) ความรู้เฉพาะทาง พัฒนาทักษะจำเป็นเพื่อการปฏิบัติงาน ทักษะจำเป็นสำหรับโลกในปัจจุบันและอนาคต 3) เทรนด์ใหม่ในโลกปัจจุบัน อัพเดตเทรนด์ล่าสุดและความรู้ใหม่ ตอบโจทย์และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล ซึ่งทั้งหมดนี้จะผสมผสานรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลายให้เลือกเรียนได้ตามต้องการ เช่น การเรียนในห้องเรียน, การสอนแบบ Live สดดูผ่าน PacD Mobile Application, การเรียนด้วยตนเอง, คอร์สออนไลน์, ดูการสอนย้อนหลัง, กรณีศึกษา ฯลฯ

“พนักงานทุกคนต้องได้เรียนรู้ เรามีโปรแกรมที่เหมาะสมกับกลุ่มคนในทุกระดับ ทุกตำแหน่ง เพื่อสร้างทักษะที่ทำให้ทุกคนสามารถเติบโตได้ในอนาคต รวมถึงขยายความรู้ในงานด้านต่างๆ โดยพนักงานสามารถเลือกเรียนทักษะที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายงานอื่นได้ตามความสนใจ เพื่อทำให้ทุกคนเห็นโอกาสเติบโต และสามารถก้าวไปกับองค์กรในทุกสถานการณ์ เมื่อพนักงานรู้สึกว่าได้ก้าวหน้าไปพร้อมกับองค์กร ก็จะรู้สึกเป็นเจ้าของธุรกิจ และอยากอยู่กับองค์กรไปนานๆ” นางวิจิตรากล่าว
ทั้งนี้ ธนชาตได้มีการปูพื้นฐานพัฒนาพนักงานใน 4 ด้านคือ เก่งงาน, สร้างนวัตกรรม, คิดอย่างสร้างสรรค์ และการสื่อสาร ซึ่งหลักสูตร T-Academy ที่เพิ่มขึ้นจะช่วยส่งเสริมและพัฒนาพนักงานให้มีทักษะที่เรียกว่า “POWER” มากขึ้น ซึ่งประกอบด้วย P-Proactive กระตือรือร้น คิด และทำแบบเชิงรุก O-Ownership เข้าใจและมีความรู้สึกร่วมกับผู้อื่น W-Welcoming สร้างความรู้สึกดีให้แก่ทุกคน ด้วยความใส่ใจและการมีปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นมิตร E-Energize มีพลังเพื่อขับเคลื่อนตนเอง องค์กร และลูกค้า และ R-Reliability มุ่งเน้นความพึงพอใจและความก้าวหน้าของลูกค้า เพื่อสร้างความไว้วางใจในระยะยาว




พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ผลการตรวจค้นพบว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่เก็บและจําหน่ายผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสําหรับ รถจักรยานยนต์ (ท่อไอเสีย) ซึ่งไม่มีเครื่องหมาย มอก. ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงได้ตรวจยึดไว้ รวมจํานวน 37 หน่วย (อัน) และอายัดเคร่ืองมือผลิตท่อไอเสีย รถจักรยานยนต์รวมท้ังสิ้น 11 หน่วย (ช้ิน) เพื่อตรวจสอบและดําเนินการตามกฎหมายต่อไป

สํานักงานตํารวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ และขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนหากพบเห็น หรือมีเบาะแสเก่ียวกับการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมในลักษณะหรือพฤติการณ์ท่ีน่าจะเป็นการนําไปสู่การแข่งรถในทางหรือความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือการสนับสนุนให้มีการกระทําความผิดดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสได้ทางสายด่วน 1599 ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 หรือ ส่งคลิปวิดีโอแจ้งข้อมูลเบาะแสท่ีเก่ียวข้องให้ตํารวจทราบ ในช่องทางเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์โซเซียล มีเดีย ศปก.ตร. ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งเบาะแสการผลิต จําหน่าย ท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ไม่มี มอก.) ได้ท่ีสายด่วน บก.ปคบ. 1135 เพ่ือเป็นการป้องกันและปราบปรามให้การกระทําความผิดแข่งรถในทาง และความผิดอื่นท่ีเกี่ยวข้องหมดไปจากสังคมไทยอย่างยั่งยืน “พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าว”




ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากปัจจัยการเปลี่ยนแปลงของภาคสถาบันการเงินหลายด้าน โดยเฉพาะความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ที่ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมทางการเงินและการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางธุรกิจ ผนวกกับพฤติกรรมของลูกค้าหรือผู้บริโภคมีการ Internet เพิ่มสูงขึ้น และใช้บริการ Mobile Banking แทนการผ่านเคาน์เตอร์ รวมถึงเกณฑ์การกำกับใหม่ที่เอื้อให้การแข่งขันรุนแรง โดยมีการนำเทคโนโลยีทางการเงินเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น มีการจับมือกับ Partner เพื่อเชื่อมโยงบริหารจัดการข้อมูลไปสู่การสร้าง Platform เพื่อสร้างธุรกิจใหม่ๆ โดยจากปัจจัยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้ธนาคารออมสินได้มีการปรับกลยุทธ์การให้บริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าด้วยเช่นกัน โดยให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง หรือ Customer Centric โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจ หรือ SMEs Startup ที่รัฐบาลเองได้มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยกลุ่มผู้ประกอบการ ซึ่งธนาคารออมสินได้นำนโยบายมาร่วมผลักดันและสนับสนุน SMEs และ SMEs Startup อย่างต่อเนื่อง ทั้งการฝึกอบรม การให้คำปรึกษาผ่านกิจกรรมโครงการต่างๆ การให้สินเชื่อ รวมถึงการร่วมลงทุนในรูปแบบการจัดตั้งกองทุน SMEs Private Equity Trust Fund
“งาน GSB VC DAY 2019 ต่อยอดธุรกิจ เชื่อมโยงทุกกิจการด้วย Startup Ecosystem” ที่ธนาคารออมสินจัดขึ้นครั้งนี้ ถือเป็นบทบาทสำคัญของธนาคารออมสินในฐานะ Best Brotherhood of the year ที่ (Prime Minister Awards : Nation Startup 2019) ซึ่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพ มีส่วนส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศของสตาร์ทอัพในประเทศไทย สามารถยกระดับการเติมโบสู่ระดับโลกต่อไป” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าว


