ตำรวจสอบสวนกลาง โดยตำรวจทางหลวง รวบรถกระบะตู้ทึบขนมอเตอร์ไซค์ 7 คัน กลางถนนยโสธร คนขับสารภาพรับงานผ่านไลน์ ค่าจ้างเที่ยวละ 8,000 บาท พบรถส่วนใหญ่อยู่ระหว่างเช่าซื้อ เตรียมลำเลียงออกนอกประเทศ เชื่อมโยงขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล. และ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สิทธิใหญ่ รอง ผบก.ทล. สั่งการให้ กองกำกับการ 6 บก.ทล. เข้มงวดตรวจสอบเส้นทางต้องสงสัย หลังได้รับเบาะแสขบวนการลักลอบขนย้ายรถจักรยานยนต์ออกนอกราชอาณาจักร
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.5 กก.6 บก.ทล. นำโดย พ.ต.ท.กีรติ เหิมศรีชาติ สว.ทล.5 ฯ ตั้งจุดตรวจบริเวณหน้าปั๊ม ปตท.ป่าติ้ว ถนนทางหลวงหมายเลข 202 กม.289–290 ต.โพธิ์ไทร อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. พบรถกระบะตู้ทึบ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีลักษณะต้องสงสัย จึงเรียกตรวจสอบ

จากการตรวจค้นพบผู้ขับขี่คือ นายณัฐพงษ์ อายุ 30 ปี และมีหญิงสาวสัญชาติ สปป.ลาว อายุ 19 ปี นั่งโดยสารมาด้วย อ้างเป็นภรรยา ภายในรถพบรถจักรยานยนต์จำนวนหลายคัน เจ้าหน้าที่จึงเชิญไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงยโสธร
ผลการตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ รวม 7 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถใหม่ ผู้ขับขี่ไม่สามารถแสดงเอกสารแหล่งที่มา ไม่ทราบชื่อผู้รับปลายทาง และไม่สามารถติดต่อผู้ว่าจ้างได้ โดยให้การว่า รับงานขนส่งผ่านแอปพลิเคชัน LINE จากบุคคลใช้นามว่า “BOW” ได้ค่าจ้างครั้งละ 8,000 บาท ให้ไปรับรถจาก อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ และนำไปส่งในพื้นที่ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร ก่อนจะมีการถ่ายภาพยืนยันการส่งมอบ

จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการเช่าซื้อ บางคันเพิ่งทำสัญญาได้เพียงไม่กี่วัน ก่อนถูกนำเข้าสู่ขบวนการลักลอบจำหน่ายให้เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ โดยมีจุดรับรถจากกรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคกลาง และภาคตะวันออก ก่อนลำเลียงข้ามแดนไปยัง สปป.ลาว มักอาศัยช่วงเวลากลางคืนเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่
ขบวนการดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจนเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มจัดหารถหรือบุคคลเช่าซื้อ,กลุ่มขนส่งและนำทางและกลุ่มนายทุนและผู้ควบคุมสั่งการพร้อมใช้แอปพลิเคชัน LINE และ Telegram ติดต่อกันเป็นเครือข่าย มีแอดมินคอยแจ้งพิกัด เส้นทาง และช่วงเวลาขนส่งอย่างเป็นระบบ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าติ้ว ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลถึงกลุ่มนายทุนและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ทั้งนี้ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจทางหลวง กก.6 บก.ทล. สามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยได้แล้ว รวม 22 คัน หากประชาชนสงสัยว่ารถของตนเกี่ยวข้อง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 หรือ Facebook ตำรวจทางหลวง

