No menu items!
หน้าแรกการเมือง'โรม' เข้ารายงานตัวต่อศาล ถาม ถ้าการเรียกร้องเลือกตั้งเป็นความผิด จะได้มีเลือกตั้งไหม?

‘โรม’ เข้ารายงานตัวต่อศาล ถาม ถ้าการเรียกร้องเลือกตั้งเป็นความผิด จะได้มีเลือกตั้งไหม?

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย เดินทางมารายงานตัวต่อศาลและสอบคำให้การ ในคดีจัดชุมนุมเรียกร้องการเลือกตั้งที่ ถ.ราชดำเนิน เมื่อวันที่ (10 ก.พ.) ที่ผ่านมา นายรังสิมันต์ เปิดเผยก่อนการเข้าสอบคำให้การว่า วันนี้ศาลนัดสอบคำให้การในคดีที่พวกตนจัดการชุมนุมที่ ถ.ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งทางอัยการได้สั่งฟ้องแล้ว ส่วนเหตุที่มีการสั่งฟ้องตนเพียงคนเดียวก่อนคนอื่นนั้น เนื่องจากศาลมีคำสั่งฝากขังตนคนเดียว ในขณะที่คนอื่นไม่ได้ฝากขัง ซึ่งตนก็ไม่ทราบเหตุผล ทั้งๆ ที่เป็นข้อเท็จจริงอย่างเดียวกัน เมื่อมีคำสั่งฝากขัง ตนได้ยื่นประกันตัวด้วยหลักทรัพย์เงินสด 50,000 บาท ทางอัยการจึงต้องฟ้องภายใน 48 วัน และฟ้องเมื่อวันที่ (20 เม.ย.) ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าฟ้องข้อหาอะไรบ้าง ซึ่งคงจะได้ทราบคำฟ้องในวันนี้ เบื้องต้นก็คงเป็นข้อหาตามที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งคือ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เป็นอย่างน้อย

“เรายืนยันว่าเราไม่ได้ทําอะไรผิด เรายืนยันว่าสิงที่เราทําไปทั้งหมดมีเจตนาบริสุทธิ เราไม่เชื่อว่าการที่เรา ต้องการเห็นการเลือกตั้งเป็นความผิด ถ้าเกิดว่าการเลือกตั้งเป็นความผิด การเรียกร้องการเลือกตั้งเป็นความ ผิด ต่อไปนี้ในอนาคตประเทศไทยจะมีเลือกตั้งหรือเปล่า” นายรังสิมันต์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีของ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ที่ออกมายืนยันสนับสนุนรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เหมือนเดิม นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราเคยเรียกร้องว่าถ้าจะสร้างบรรยากาศทางการเมืองให้เปิด นำไปสู่การเลือกตั้งได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ทางกองทัพต้องออกจากการเมือง และทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งสามารถเกิดขึ้น ปัญหาคือตราบใดที่ทางกองทัพยังคงสนับสนุน คสช. อย่างมืดมนเช่นนี้ การที่เราจะได้เห็นบรรยากาศทางการเมืองที่นำไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็วก็คงยาก หรือหากจะมีการเลือกตั้ง ถ้าจินตนาการถึงการเลือกตั้งที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร มาคอยอัดวิดีโออยู่ตลอดเวลา คอยจับผิดอยู่ตลอดเวลาว่าสิ่งที่นำเสนอผิดกฎหมายอะไรที่ คสช.ได้กำหนดไว้หรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้เราคงไม่สามารถแสวงหาการเลือกตั้งที่เป็นการเลือกตั้งจริงๆ ได้

“ข้อเสนอที่ผ่านมาของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งคืออยากเห็นบรรยากาศทางการเมืองที่มันฟรีและแฟร์ ที่มันสามารถเปิดออกมาให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนได้ตัดสินใจด้วยตัวของเขาเอง ไม่ใช่มาคอยเซ็นเซอร์หรือกำหนดนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ อันนี้คือข้อเสนอของเรา ดังนั้นเราจึงผิดหวังแน่นอนกับการที่เราได้เห็นท่าทีของทหาร ถึงอย่างไรเสียทหารก็กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน ถึงอย่างไรเสียทหารก็เป็นลูกหลานคนไทยเหมือนกัน การที่เราได้เห็นเขามาสนับสนุน คสช.อย่างสุดลิ่มทิ่มประตูก็เป็นสิ่งที่น่าเศร้าใจ น่าผิดหวัง” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการเตรียมตัวจัดชุมนุมใหญ่กลางเดือน พฤษภาคมนี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรามี ความพร้อม ในช่วงเดือน เมษายนที่ผ่านมา หลายฝ่ายก็ได้พักผ่อน แต่สิงที่อยากให้สังเกตจับตา คือการ เลือกตั้งที่ยังไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่ การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับตีความกฎหมาย ย่อมส่งผลให้การ เลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือน กุมภาพันธ์ ปีหน้า ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดขึนได้หรือไม่ การเลือกตั้งไม่น่าจะเกิดขึนได้ ในเร็ววัน คนอยากเลือกตั้งยังคงเดินหน้าต่อไป และมีความพร้อมทีจะจัดกิจกรรมในช่วงเดือน พฤษภาคม นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สําหรับการฝากขังนายรังสิมันต์ในคดีนี้เกิดขึนเมือวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา พนักงาน สอบสวน สน.นางเลิงได้ยื่นคําร้องฝากขังนายรังสิมันต์ต่อศาลอาญา โดยแจ้งข้อหาว่าจัดการชุมนุมทางการ เมืองเกินกว่า 5 คน ในที่สาธารณะ เป็นการฝ่าฝืนคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 เรืองการรักษาความสงบ เรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ ข้อ 12 และกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอืนใดอันมิใช่ เป็นการกระทําภายในความมุ่งแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพือแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพือให้ เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื้องในหมู่ประชาชน หรือเพือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 โดยนายรังสิมันต์ได้รับการประกันตัว

ในขณะเดียวกัน นายรังสิมันต์ โพสต์ข้อความเฟสบุ๊ค โดยระบุว่า “วันนี้มาศาลอาญารัชดา เพื่อนัดสอบคำให้การและทราบคำฟ้องของอัยการ ในคดีเรียกร้องการเลือกตั้งบริเวณถนนราชดำเนินเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2561 โดยอัยการฟ้องในข้อหายุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 และ คำสั่ง คสช.ที่3/58 เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
.
ส่วนสาระสำคัญของคำฟ้องมีดังนี้
.
(1)กล่าวโจมตีปราศรัยการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ และพล.อ.ประวิตร โดยใช้เครื่องขยายเสียง
.
(2)ร่วมกันเรียกร้องให้มีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
.
(3)เรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง โดยมีการชูสามนิ้ว
.
(4)เพื่อให้เกิดภาพลบแก่รัฐบาล โดยให้ประชาชนตระหนักว่าโดนจำกัดสิทธิเสรีภาพ
.
อ่านมาถึงตรงนี้ อยากรู้จริงๆว่าสรุปว่า กระผมทำผิดอะไร หืม”

[fb_pe url=”https://www.facebook.com/rossbuch/posts/1890617247615021″ bottom=”30″]


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img