หน้าแรกการเกษตร"ขนุนหนองเหียง ชลบุรี" ต้นแบบแปลงใหญ่เข้มแข็งผลิต-แปรรูป สร้างรายได้เกษตรกรปีละ 9 แสนบาท

“ขนุนหนองเหียง ชลบุรี” ต้นแบบแปลงใหญ่เข้มแข็งผลิต-แปรรูป สร้างรายได้เกษตรกรปีละ 9 แสนบาท

ขนุนเป็นไม้ผลเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่สามารถปลูกได้ในทุกภูมิภาคของไทย ด้วยความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและให้ผลผลิตตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง และชลบุรี ซึ่งเป็นแหล่งปลูกขนุนเพื่อการค้าที่สำคัญและมีพื้นที่เพาะปลูกมากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ

ด้วยศักยภาพของขนุนไทยที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และยังเป็นโปรตีนทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการลด หรือหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ ทำให้ขนุนมีทิศทางการตลาดที่หลากหลาย ผู้บริโภคมีความต้องการเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นการส่งเสริมการปลูกขนุน อย่างมีระบบจึงเป็นแนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคการเกษตร

นางสาวนริศรา เอี่ยมคุ้ย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จ.ชลบุรี นับเป็นแหล่งผลิตขนุนที่มีศักยภาพ เกษตรกรมีการรวมกลุ่มอย่างเข้มแข็ง ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) “ขนุนหนองเหียงชลบุรี” วันที่ 24 มีนาคม 2566 ประกอบด้วย 5 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ทองประเสริฐ พันธุ์มาเลย์ พันธุ์เพชรราชา พันธุ์แดงสุริยา และพันธุ์ทองส้ม ครอบคลุมพื้นที่ปลูกและผลิตของ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ซึ่งจากการติดตามของ สศท.6 พบว่า แปลงใหญ่ขนุน ต.หนองเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี นับเป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จในการผลิตขนุนคุณภาพและแปรรูปสร้างมูลค่า โดยเริ่มดำเนินการรวมกลุ่มในปี 2560 ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูก 749 ไร่ เกษตรกรสมาชิก 74 ราย โดยมีนายสมจิตร พรหมะเสน เป็นประธานกลุ่มแปลงใหญ่ เกษตรกรนิยมปลูกพันธุ์ทองประเสริฐ เมื่อขนุนมีอายุเฉลี่ยเข้าปีที่ 3 จะเริ่มให้ผลผลิต และเมื่อขนุนมีอายุเข้าปีที่ 6 – 10 ปี จะเป็นช่วงที่ผลผลิตออกมาก เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวได้ถึงอายุเฉลี่ย 25 ปี

สำหรับสถานการณ์ผลิตในปี 2568 ได้ผลผลิตรวม 1,610 ตัน/ปี ผลผลิตเฉลี่ย 2,400 กิโลกรัม/ไร่/ปี โดยมีรอบการเก็บเกี่ยวผลผลิตออกจำหน่าย แบ่งเป็น 2 รุ่น คือ รุ่นแรก จำหน่ายช่วงเดือนตุลาคม – มกราคม (นอกฤดูกาล) และรุ่นสอง จำหน่ายช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม (ในฤดูกาล)

ส่วนการจำหน่ายผลผลิตของเกษตรกรสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ พบว่า ผลผลิตส่วนใหญ่ ร้อยละ 51.32 ส่งจำหน่ายให้กลุ่มแปลงใหญ่ รองลงมา ร้อยละ 45.12 จำหน่ายให้กับพ่อค้ารวบรวม/พ่อค้าขายส่งในจังหวัด ส่วนร้อยละ 2.33 จำหน่ายให้กับพ่อค้าล้งนอกจังหวัด และส่วนที่เหลือ ร้อยละ 1.23 จำหน่ายให้กับพ่อค้ารวบรวม/พ่อค้าขายส่งนอกจังหวัด ทั้งนี้ ภาพรวมราคาขนุนผลสดเกรดรวมของจังหวัดชลบุรี ปี 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ 10 – 12 บาท/กิโลกรัม

ขณะที่สถานการณ์ตลาดของกลุ่มแปลงใหญ่ พบว่า กลุ่มเป็นผู้รับซื้อผลผลิตจากสมาชิกเพื่อนำมาคัดแยกคุณภาพ และจำหน่ายให้แก่ผู้รวบรวม (ล้ง) ใน จ.ระยอง แบ่งเป็น เกรด A ราคาเฉลี่ย กก.ละ 12 บาท เกรด B ราคาเฉลี่ย กก.ละ 8 บาท และเกรดคละ ราคาเฉลี่ย กก.ละ 5 บาท ซึ่งล้งจะทำการคัดเกรด บรรจุกล่อง และส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ สำหรับขนุนที่มีตำหนิ ทางกลุ่มจะนำมาแกะเนื้อและแช่แข็งเพื่อจำหน่ายให้โรงงานผลิตอาหารกระป๋อง จ.ปทุมธานี และนครปฐม ในราคาเฉลี่ย กก.ละ 30 – 40 บาท ส่วนขนุนอ่อน จำหน่ายในราคาเฉลี่ย กก.ละ 6 บาท ซึ่งโรงงานจะส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศยุโรป

นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังนำผลผลิตที่ตกเกรดมาแปรรูปเป็นขนุนทอดกรอบสร้างมูลค่าเพิ่ม ภายใต้แบรนด์ “ขนุนหนองเหียงชลบุรี” จำหน่ายให้กับลูกค้าทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัด ในราคา กก.ละ 250 บาท สำหรับแบบบรรจุถุงขนาด 50 กรัม ราคาถุงละ 40 บาท และแบบแพ็ก 3 ถุง ราคา 100 บาท ทั้งนี้ จากการจำหน่ายขนุนสดและแปรรูป สามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 900,000 บาท

สำหรับการดำเนินงานของกลุ่มในระยะต่อไป ทางกลุ่มแปลงใหญ่เน้นการส่งเสริมให้สมาชิกทุกรายพัฒนาคุณภาพผลผลิตตามมาตรฐาน GAP และวางแผนด้านการผลิตและตลาด เพื่อรองรับปริมาณความต้องการของโรงงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขนุนจึงถือเป็นไม้ผลอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจ หากมีการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าการพัฒนา “ขนุนหนองเหียง ชลบุรี GI” จะสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างรายได้มั่นคงให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ และเป็นต้นแบบของการพัฒนาไม้ผลท้องถิ่นในอนาคต

อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการพัฒนาไม้ผลท้องถิ่นให้ก้าวสู่ความยั่งยืน ทั้งในด้านการผลิต การตลาด และการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืน

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img