หน้าแรกบทความย้อนรอยราคาทองทะยาน สัญญาณบ่งบอกโลกวิบัติ ? 

ย้อนรอยราคาทองทะยาน สัญญาณบ่งบอกโลกวิบัติ ? 

ทองคำ จัดเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ทุกประเทศใช้ทองคำเป็นทุนสำรองเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ รวมถึงชาวบ้านทั่วไปที่ต้องการสะสมทรัพย์สินจะซื้อทองคำเก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน               

แต่ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำกลับพุ่งทะยานแบบหักปากเซียนที่วิเคราะห์เกี่ยวกับราคาทองคำอย่างราบคาบ และราคาทะยานไม่หยุด ถ้าส่องราคาวันที่ 13 ตุลาคม ราคาขึ้น 650 บาท/บาททองคำ วันที่ 14 ตุลาคม ขยับขึ้น 1,400 บาท  15 ตุลาคม ขยับขึ้น 650 บาท 16 ตุลาคมขยับขึ้น 500 บาทและ 17 ตุลาคมขยับขึ้นถึง 1,900 บาท ราคาทะยานใกล้ 70,000 บาท/บาททองคำ           

ราคาทองคำทะยานแบบหยุดไม่อยู่เสมือนการส่งสัญญาณว่าสถานการณ์ของโลกน่าจะผิดปกติ และอาจจะกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชากรโลกแบบที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้             

สื่อโซเซียลมีการนำเสนอในลักษณะตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความผันผวนของราคาทองคำอย่างแพร่หลายในลักษณะบทความ บางบทความไม่มีระบุชื่อผู้เขียน บางบทความระบุชื่อผู้เขียน       

มีบทความหนึ่งเพื่อน ๆ แชร์ผ่านไลน์ให้ “จอมมารน้อย” ได้อ่าน เมื่ออ่านอย่างละเอียดเกิดความรู้สึกตรงใจ พยายามหาชื่อผู้เขียนทั้งเริ่มต้นบทความและตอนท้ายบทความไม่เจอ ขออนุญาตนำเสนอแบบสรุปให้ได้ใจความดังนี้         

“ทองคำกำลังส่งสัญญาณ เวลาทองคำพุ่งแรงแบบไม่มีเหตุผล มักจะหลายถึงบางอย่างในระบบกำลังผิดปกติ ทองคำคือกระจกสะท้อนความกลัว ความไม่มั่นใจและความไม่แน่นอนของโลก ครั้งที่ทองคำแตะจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์มักจะมีบางอย่างเกิดขึ้นมามาเสมอ” ผู้เขียน ระบุ       

ผู้เขียนบรรยายต่อว่า ปี 1980 เศรษฐกิจตกต่ำ เงินเฟ้อพุ่งดอกเบี้ยทะลุ 20 เปอร์เซ็นต์  ปี 2008 ทองคำขึ้นในวันเดียวกับที่ Bear Stearans ล้มตามด้วย Layman Bros.และวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ปี 2011 ทองคำทะลุ 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์ ยุโรปเข้าสู่วิกฤต แต่ปัจจุบันทะลุ 4,000 ดอลลาร์/ออนซ์แล้วจะเกิดวิกฤตอะไร       

“อย่ามองแค่ว่าทองคำกำลังขึ้นราคา แต่ให้มองว่ามันกำลังเตือนว่ามีบางอย่างในโลกการเงินกำลังเปลี่ยนอีกครั้ง อาจจะเป็นความปั่นป่วนในตลาดเครดิต เงาแห่งสงคราม หรือระลอกใหม่ของเงินเฟ้อที่ใครก็หยุดไม่ได้ หรือทุกเรื่องที่ว่ามาทั้งหมด”ผู้เขียน ระบุ และว่าแต่เรื่องใหญ่ น่าจะค่าดอลลาร์ คนที่ฟังสัญญาณออก จะรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาถามว่าทองคำแพงไปหรือเปล่า ? แต่นี่คือเวลาที่จะถามว่าโลกกำลังเจอกับอะไร 

ผู้เขียนระบุอีกว่า ทองคำไม่ได้พูดออกมา แต่เวลาขยับตัวแรงๆแต่ละครั้ง แบบไม่มีข่าวรองรับ นั่นแหละคือเสียงเตือนที่ดังที่สุดในระบบการเงินโลก ครั้งนี้ที่คนแห่เข้าถือทองคำมันแปลว่าพวกเขาไม่เชื่อระบบอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร หุ้น หรือแม้แต่เงินกระดาษที่เคยมั่นใจมาตลอดชีวิต ถ้ามองให้ลึกกว่านั้นจะเจอจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ ของความเชื่อมั่นในค่าเงิน จีน อินเดีย รัสเซีย ต่างรู้ดีว่าความมั่งคั่งที่แท้จริงต้องไม่ขึ้นอยู่กับคำสัญญาของใคร โดยเฉพาะคำสัญญาที่ชื่อว่าเงินกระดาษ         

“สิ่งที่เกิดขึ้นในรอบสี่สิบปีที่ผ่านมาคือยุคของคิงดอลลาร์ที่เริ่มหมดอายุลงช้า ๆ และสิ่งที่กำลังเข้ามาแทนคือ ทรัพย์สินจริงที่ไม่ต้องให้ใครมารับรองค่า ทองคำจึงไม่ใช่เพียงโลหะสีเหลือง แต่คือตัวชี้วัดความไว้วางใจของมนุษย์ทั้งโลก” ผู้เขียน ระบุและว่าจีนอาจไม่พูดตรง ๆ ว่ากำลังทำอะไร แต่ทองคำในห้องนิรภัยของเขากำลังพูดแทนว่าจีนกำลังสร้างเงินสำรองแบบใหม่ที่ไม่พี่งดอลลาร์ ไม่พึ่งใครและอาจจะเป็นระบบเงินโลกใหม่  

ผู้เขียนบอกอีกว่าผม (ตาสา) มองว่าเรากำลังจะได้เห็นเรื่องที่ยังไม่เคยเห็นในชั่วชีวิต มันเป็นจุดเปลี่ยนของระบบเงินโลก คนที่ทองเห็นเรื่องนี้ก่อนคือคนที่เข้าใจว่าเกมนี้ไม่ใช่เรื่องราคา เคยบอกกับเพื่อนๆว่าอย่าให้ความสำคัญกับทองคำที่ราคานัก ตั้งแต่ตอนราคาทองคำอยู่ที่ 20,000บาท/บาททองคำ เพราะวันหนึ่งคนทั้งโลกจะเข้าใจว่าระบบการเงินกระดาษทั่วโลกจะต้องถึงจุดจบ โลกต้องหันไปหา money ที่โลกเคยรู้จักมาหลายพันปี      

“แต่..ตอนนี้เงินกระดาษยังมีค่าพอที่จะแลกmoney ตัวจริงได้ได้ แต่ต้องแลกด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ลองย้อนไปยุค 60s(ช่วง1960-1969) หลายประเทศในยุโรปพากันของแลกคืนดอลลาร์เป็นทองคำเพราะไม่ไว้ใจ ตอนนั้นแค่ 35 ดอลลาร์/ออนซ์เอง แต่ตอนนี้ดอลลาร์ด้อยค่าต่อไปจากวันนี้นกว่า 100 เท่าแล้ว ตอนนี้ราคาทองคำสูงขึ้นเพราะความกลัว และความกลัวขนาดนี้เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะต้องใหญ่” ผู้เขียน ทิ้งท้าย     

ถ้าผู้อ่านได้ติดตามสถานการณ์ห้วงเวลานี้ไม่ว่าจะลุยจัดการสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของสหรัฐอเมริกา อังกฤษ เกาหลีใต้  สงครามการค้าระหว่างอเมริกากับจีน และสงครามระหว่างประเทศในหลายพื้นที่  ล้วนเป็นปัจจัยที่จะทำให้สถานการณ์โลกแปรเปลี่ยนไปในทางร้ายมากกว่าดี 

ที่นำเสนอบทความนี้เพื่อให้ผู้อ่านที่อ่านประจำหรือประชาชนทั่วไปที่บังเอิญได้เปิดอ่าน พึงระมัดระวังและเตรียมตัวเตรียมใจรับสถานการณ์ เพราะโอกาสที่จะเกิดความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกแล้วกระทบถึงการใช้ชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่ที่มีฐานะปานกลางถึงระดับรากหญ้าแน่นอน     

ยิ่งเจอกับรัฐบาลเป็ดง่อยแถมไม่ได้ให้ความสำคัญกับการผันผวนของราคาทองคำแบบเกาะติดและไร้มาตรการที่จะรองรับ ประชาชนคนธรรมดาอย่างพวกเราทำได้เพียงอย่างเดียวคือทำใจและช่วยตัวเองเท่านั้น !!!     

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img