“มวลชนคือเหยื่อเซ่นศึกชิงอำนาจ”

         มิได้อยู่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะได้นำเสนอหลายครั้งแล้วว่าโอกาสที่พรรคก้าวไกลจะถูกดีดไปฝ่ายค้านเป็นไปได้สูง พร้อมติงถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่าระวังสูตร”ฝนตกขี้หมูไหล…”

      เมื่อจับกระแสการเมืองหลังรัฐสภาโหวตไม่ผ่านญัตติไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้รัฐสภาโหวตเป็นรอบที่ 2 ได้ บทบาทจัดตั้งรัฐบาลก็ตกอยู่ในกำมือพรรคเพื่อไทย

    แกนนำเพื่อไทยเปิดเกมเร็วหวังจะโหวตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคเพื่อไทย ให้จบในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ด้วยการเชิญพรรคร่วมรัฐบาลเก่าหารือ ไล่ตั้งแต่ พรรคภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ชาติพัฒนา และชาติไทยพัฒนา เว้นพรรคประชาธิปัตย์ที่อ้างว่ายังไม่มีหัวหน้าพรรค

   จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเพื่อไทยส่อที่จะทิ้งก้าวไกล เดินเกมให้พรรครัฐบาลเก่าแสดงความเห็นบีบก้าวไกลไปในทีว่าจะไม่ร่วมกับพรรคที่มีนโยบายแก้มาตรา 112

 ครั้นหันมาจับอาการของแกนนำเพื่อไทยและแนวร่วมแล้ว ส่อว่าจะร่วมหัวจมท้ายกับพรรคร่วมรัฐบาลเก่า เพราะกริยาอาการที่พบปะกัน เต็มไปด้วยอารมณ์ชื่นมื่น  

ขณะเดียวกันแนวร่วมที่เป็นสื่อไม่ว่าจะเป็นวอยซ์ทีวี กระบอกเสียงสำคัญของเพื่อไทย รวมถึงสำนักข่าวท็อปนิวส์ กระบอกเสียงสำคัญของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะวันครบรอบก่อตั้งพล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปอวยพรถึงห้องส่ง

   ทั้งที่ผ่านมาสื่อทั้งสองสำนักผู้ประกาศและพิธีกร จะแสดงความเห็นที่ขัดแย้งกันมาโดยตลอด เมื่อสถานการณ์พลิกผันเพื่อไทยดึงพรรคร่วมรัฐบาลเก่ามาร่วมวง ผู้ประกาศและพิธีกรทั้งสองสำนักฯแสดงความเห็นเหมือนเล่นดนตรีคีย์เดียวกัน เน้นสร้างกระแสให้ประชาชนคล้อยตามด้วยการอ้างว่าต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาล เพราะปัญหาประเทศรอไม่ได้ ก้าวไกลต้องทบทวนตัวเอง

        “ยิ่งก้าวไกลยืนยันว่าไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคของพล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ และพรรคของพล.อ.ประยุทธ์ เพราะทั้งสองเป็นหัวหอกทำรัฐประหารและร่างกติกาสืบทอดอำนาจ ทางของเพื่อไทยก็สว่างโร่”

       แม้ภาพยังฉายไม่ชัดเจนนักก็คาดเดาได้เลยว่าเพื่อไทยตั้งรัฐบาลโดยไร้ก้าวไกล มีเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลเก่าที่แบะท่ารอผสมพันธุ์อยู่ ตามด้วยเสียงขานรับจากส.ว.ว่าพร้อมโหวตให้ถ้าไม่มีก้าวไกลร่วม คงสร้างความชื่นมื่นให้กับนักการเมืองที่รอผสมพันธุ์ทางอำนาจกัน

      แต่หากจับความรู้สึกของแฟนคลับไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับพันธมิตรฯ นปช. และแฟนคลับกปปส. บางส่วนอาจจะรับไม่ได้  แต่บางส่วนอาจจะรับได้โดยเฉพาะแฟนคลับกปปส.และพันธมิตร เริ่มโพสต์ผ่านโซเซียล ยินดีรับเพื่อไทยมาร่วมอุดมการณ์อนุรักษ์นิยมด้วยกัน

    หากมองย้อนไปในปี 2549 กลุ่มพันธมิตรฯบุกยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบิน แกนนำกล่าวโจมตี นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นสาดเสียเทเสียชี้หน้าขี้โกง  แฟนคลับพรรคไทยรักไทยเป็นเดือดเป็นแค้นแทนนายทักษิณ สร้างความแตกแยกถึงขั้นบาดเจ็บเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย จนเกิดรัฐประหารโค่นรัฐบาลทักษิณ ระหว่างที่นายทักษิณอยู่ต่างประเทศกลับไทยไม่ได้ต้องลี้ภัย

    ต่อมาคณะรัฐประหารจัดเลือกตั้งพรรคพลังประชาชนของนายทักษิณชนะ อยู่ได้ปีกว่าแต่มีนายกฯถึงสองคนถูกยุบพรรคก็กลายร่างเป็นพรรคเพื่อไทย อำนาจเปลี่ยนมือฝ่ายอนุรักษ์หนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี มีการประท้วงโดยกุล่มนปช.เกิดเหตุความรุนแรงฆ่ากันกรุงถึง 99 ศพ เผาสถานที่ราชการการและห้างสรรพสินค้า

     “ประชาชนแตกแยกกันอย่างรุนแรงแบ่งเป็นฝ่ายเสื้อเหลืองและเสื้อแดงอย่างชัดเจน  และบ่อยครั้งมักมีข่าวชาวบ้านทั้งสองสีมีความเห็นขัดแย้งถึงขั้นลงไม้ลงมือต่างฝ่ายต่างบาดเจ็บ บางครั้งถึงขั้นเสียชีวิต”


  เมื่อนายอภิสิทธิ์ยุบสภา เลือกตั้งใหม่พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวนายทักษิณ นั่งนายกฯ สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มอนุรักษ์นิยม มีการหาช่องทางเล่นงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ด้วยการก่อม็อบเคลื่อนไหวในนามกปปส. ซีกรัฐบาลมีกลุ่มนปช.ก่อม็อบสนับสนุน   ระหว่างชุมนุมชาวบ้านทั้งสองม็อบมีการปะทะบาดเจ็บล้มตาย เพราะเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของแต่ฝ่ายและเชื่อมั่นในผู้นำ

   ในที่สุดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถูกรัฐประหารเติมความแตกแยกในกลุ่มชาวบ้านร้าวลึกมากขึ้น ฝ่ายอนุรักษ์นิยมกุมอำนาจก็พยายามทุกทางที่จะขจัดฝ่ายตรงข้าม แกนนำบางคนถูกอำนาจมืดอุ้มหาย

   เมื่อมีการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 พล.อ.ประยุทธ์ ได้สืบทอดอำนาจต่อ ช่วงเวลาปี 2562-2566 ความเห็นต่างระหว่างฝ่ายเสรีประชาธิปไตยกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม ก่อกระแสรุนแรง  

    ต่อมามีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม  ฝ่ายประชาธิปไตย 8 พรรคชนะท่วมท้น ก้าวไกลนำอันดับ 1 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคที่หวังเปลี่ยนแปลงประเทศ

  พรรคเพื่อไทยรับไม้ต่อเดินเกมเร็วหวังตั้งรัฐบาลให้ได้ เพราะมีวาระต้องพานายทักษิณกลับบ้านซ่อนเร้นอยู่ วิ่งเข้าหาขั้วอำนาจเก่า  โดยมิได้คำนึงถึงความรู้สึกของชาวบ้านที่เชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยว่ารักประชาธิปไตยและได้ร่วมต่อสู้บาดเจ็บล้มตายมาด้วยกันแต่อย่างใด

       ถ้าเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จมีพรรครัฐบาลเก่าและส.ว.หนุน โดยไร้ก้าวไกล ชาวบ้านที่บาดเจ็บพลีชีพสู้เคียงข้างเพื่อไทยในนาม นปช.และชาวบ้านที่บาดเจ็บพลีชีพสู้เคียงข้างฝ่ายอนุรักษ์นิยมในนามพันธมิตรฯและกปปส.เพราะชังระบอบทักษิณ พึ่งสังวรไว้ว่าชีวิตพวกท่านเป็นแค่เหยื่อที่กลุ่มผู้กุมอำนาจใช้เซ่นสังเวยเพื่อรักษาอำนาจให้ยืนยาว

    เมื่อสมหวังเคลียร์ผลประโยชน์ลงตัวผสมพันธุ์ทางอำนาจกันแล้วมวลชนก็ไร้ค่า แต่จะมีค่าอีกครั้งเมื่อผลประโยชน์ขัดกัน ถึงเวลานั้นมวลมหาประชาชนโปรดตรึงตรองให้รอบด้านว่าจะยอมตกเป็นเครื่องมือนำชีวิตของตัวเองและครอบครัวไปเสี่ยงอีกหรือไม่

  โดยพิจารณาจากกระทำของแกนนำพรรคเพื่อไทยในขณะนี้เป็นบทเรียน เพราะเพื่ออำนาจแล้วสามารถทรยศต่อมิตรที่ร่วมรบกันมาแบบไม่แยแสถึงความรู้สึกแต่อย่างใด!!!


   
   

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img