กองปราบขยายผล ยุทธการประชาอุ่นใจ คนดีต้องมีที่ยืน จับกุม นายธีระพร หรือหมี ชูเมือง หรือหมี ผู้จัดหาอาวุธปืน และมือปืน เหตุยิงถล่มบ้านสมาชิก อบต.บางดี

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.6 พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน., พ.ต.ท.พงศ์ปณต ชูแก้ว, พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา, พ.ต.ท.อภิชาติ เรนชนะ รอง ผกก.6.บก.ป., พ.ต.ท.ปทักข์ ขวัญนา, พ.ต.ท.ภัทราวุธ อ่อนช่วย รอง ผกก.สสน. บก.ป.

ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พงษ์พันธ์ ศิริภัทรนุกุล รอง ผกก.6.บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ สว.กก.5. บก.ป. ช่วยราชการ กก.6.บก.ป.

ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดพังงา พล.ต.ต.ธรัชชา ถมปัทม์ ผบก.ภ.จว.พังงา, พ.ต.อ.ประเทือง ศรีละมนตรี ผกก.กก.สส.ภ.จว.พังงา, พ.ต.อ.นพดล ถิระประวัติ ผกก.สภ.โคกกลอย

ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ดนัย นิยมเดชา สว.สส.ภ.จว.พังงา, พ.ต.ท.กฤษณะ หยาดคำ สวป.สภ.เกาะยาว ปรก.กก.สส.ภ.จว.พังงา, ร.ต.อ.สมเกียรติ ฤทธิ์เดช, ร.ต.ต.มณี บุตรเล็ก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกลอย พ.ต.ท.เดโช ณ นคร สว.สส.สภ.โคกกลอย,
ร่วมกันจับกุมตัว นายธีระพร ชูเมือง หรือหมี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 ม.11 ต.บางดี อ.ห้วยยอด จว.ตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 1301/2562 ลง 28สิงหาคม 2562 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันจ้างวานฆ่า และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”พร้อมอาวุธปืนขนาด.357 กระสุน 10 นัดของกลางอีก12 รายการ

โดยจับกุม ได้ที่บ้านเลขที่ 18/12 หมู่ 8 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จว.พังงา วันที่ 22ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น.
สืบเนื่องจาก เมื่อ 11 ต.ค.62กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 300 นาย ในการฏิบัติการ ยุทธการประชาอุ่นใจ คนดีต้องมีที่ยืน เพื่อปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพล ในพื้นที่ ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ ยิงถล่มบ้านพักของสมาชิก อบต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ทีถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนสงคราม M๑๖ ยิงถล่มบ้านพัก จำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ กับ 12 มีนาคม 2562โดยสาเหตุมาจากความขัดแย้งภายใน อบต.บางดี เกี่ยวกับการทุจริตภายใน อบต.หลายโครงการ ซึ่ง สมาชิก อบต.ท่านนี้เป็นผู้เปิดโปงเรื่องทุจริตทั้งหมด ทำให้ผู้บริหารของ อบต.บางดี ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มผู้มีอิทธิพลดังกล่าวยังมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาเสพติด

จากการปฏิบัติการยุทธการประชาอุ่นใจ คนดีต้องมีที่ยืน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 10 ราย พร้อมอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และยาเสพติดจำนวนมาก ภายหลังจากการปฏิบัติการครั้งนั้น กองบังคับการปราบปรามยังคงดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุยิงถล่มบ้านสมาชิก อบต.บางดี มาดำเนินคดี

จนกระทั่ง เมื่อ วันที่ 22 ต.ค.2562เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายธีระพร หรือหมี ชูเมือง ผู้ต้องหาที่เชื่อว่ามีหน้าที่จัดหาอาวุธปืน และติดต่อมือปืน ในการก่อเหตุยิงถล่มบ้านของสมาชิก อบต.บางดี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันจ้างวานฆ่า และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ได้หลบหนีหมายจับมาประกอบอาชีพทำสวนยางพารา ในพื้นที่บ้านบางหลาม ม.๓ ต.ท่าอยู่ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา โดยสร้างที่พักอาศัยอยู่ในสวนยางกับภรรยา และบุตรชาย

จนกระทั่งวันที่ 22 ต.ค. 62 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่านายธีระพรจะเดินทางเข้ามาทำธุระในพื้นที่เขตตำบลโคกกลอย จึงได้ออกทำการสืบสวนเฝ้าสังเกตการณ์ตามถนนหนทางในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สังเกตเห็นรถยนต์เก๋งที่ขับขี่มาโดยนายธีระพรผ่านมา จึงได้ออกติดตามจนไปถึงบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 18/12 หมู่ 8 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จว.พังงา และเมื่อนายธีรพรลงจากรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าควบคุมตัวนายธีระพร นำส่งพนักงานสอบสวน กก.6.บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาขอให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา


 

บัตรเครดิต TMB ให้คุณได้มากกว่ากับแคมเปญ Fit Expert รับพิเศษ 2 ต่อ

บัตรเครดิต TMB เอาใจสายรักสุขภาพ มอบสิทธิพิเศษเมื่อมียอดใช้จ่ายที่ Fitness First, Yoga &Me, Absolute You, The Olympic Club, Divana Group และ We Fitness ทุกสาขาที่ร่วมรายการ รับพิเศษ 2 ต่อ ต่อที่1) แบ่งชำระยอดใช้จ่ายได้ด้วยตัวเอง 0% 3 เดือน TMB So GooOD เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไป/เซลล์สลิป ต่อที่2) รับบัตรของขวัญเซ็นทรัล สูงสุด 1,800 บาท ต่อเดือน เมื่อใช้จ่ายตามเงื่อนไข ยอดใช้จ่าย 15,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป รับบัตรของขวัญ 200 บาท ยอดใช้จ่าย 30,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป รับบัตรของขวัญ 600 บาท ยอดใช้จ่าย 60,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป รับบัตรของขวัญ 1,800 บาท จำกัดการรับบัตรของขวัญ 1 สิทธิ์ ต่อหมายเลขบัตร ต่อเดือน ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2562 – 31 มกราคม 2563 เฉพาะผู้ถือบัตรเครดิต TMB ประเภทบุคคลธรรมดาเท่านั้น ยกเว้น บัตรเครดิตองค์กรทุกประเภท ลงทะเบียน SMS รับสิทธิ พิมพ์ TMBKK ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต TMB 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4806026 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ TMB Contact Center โทร. 1558 และดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.tmbbank.com


 

ธนชาตเหมารอบหนังเทพนิยายฟอร์มยักษ์ Maleficent มอบความสุขขอบคุณลูกค้าบัตร FLASH Plus

????????????????????????????????????

ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) นำโดย นางสาวสมสวาท  ลิขิตปรีดา  ผู้อำนวยการ ALTERNATIVE SALES CHANNELS ธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจขนาดเล็ก จัดกิจกรรมมอบความสุขเพื่อแทนคำขอบคุณแก่ลูกค้า บัตรสินเชื่อบุคคลธนชาต FLASH Plus ที่มีประวัติการชำระดีและใช้จ่ายต่อเนื่อง ปิดโรงภาพยนตร์เหมารอบให้ลูกค้าชมหนังเทพนิยายฟอร์มยักษ์ Disney’s Maleficent : Mistress of Evil แบบเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมชิลกับ Combo set ป๊อปคอร์นและน้ำดื่ม รวมทั้งสนุกสนานกับกิจกรรมหมุนวงล้อลุ้นรับของที่ระลึกหน้างาน ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี  กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นที่โรงภาพยนตร์ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก

สนใจสมัคร บัตรสินเชื่อบุคคลธนชาต FLASH Plus สอบถามเพิ่มเติมที่ธนาคารธนชาตทุกสาขา โทร.1770 หรือ www.thanachartbank.co.th และ www.facebook.com/ThanachartBank


 

นำพวงมาลาไปถวายบังคมพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันปิยะมหาราช

วันพุธที่ ๒๓ ต.ค. ๒๕๖๒ เวลา ๐๘.๓๐ น. : พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ( ปรท.ผบช.น.) นำ ข้าราชการตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล อาทิ พ.ต.อ.มนต์ชัย ศรีประเสริฐ รอง ผบก.น.๑, พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ รอง ผ บก.น.๕ ฯลฯ, คณะกรรมการอำนวยการเยาวชนสัมพันธ์, ชมรมแม่บ้านตำรวจนครบาล, คณะวิทยากร และ เยาวชนสัมพันธ์ที่ผ่านการอบรมในปีงบประมาณ 2562 รุ่นที่ 376–384 รวม ๒๐๐ คน เขตรับผิดชอบ สน.มักกะสัน, สน.บางเขน, สน.หนองจอก, สน.หัวหมาก, สน.คลองตัน, สน.พลับพลาไชย 2, สน.บางขุนนนท์, สน.สำเหร่ และสน.แสมดำ ร่วมในพิธีนำพวงมาลาไปถวายบังคมพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เนื่องในวันปิยะมหาราช ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๒ ครบรอบ ๑๐๙ ปี ณ บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต


“รอง ยงเกียรติ” แท๊กทีมลุยสกัดจับ”แก๊งค์ ว้าเหนือ”ขณะแอบขนยาบ้า 1 ล้านเม็ด

ที่บก.ตชด.ภาค 3 อ.แม่ริม จว.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนประณีต รอง ผบช.ตชด .เปิดเผยว่าพล.ต.ท.วิชิต ปักษา ผบช.ตชด. ได้สั่งการให้ตน ร่วมบูรณาการ กับ พล.ท.สุภโชค รวัชพีระชัยผบ.ศป.ปส.ชน.. .พล.ต.ต.นพพล ชาติวงศ์ ผบก.
ตชด.ภาค 3 นายมานิต โกเมค ผอ.ปปส.ภาค 5 พ.ต.อ.โชคชัย ซูแสงผกก.ตชด.33 ,พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์วงศ์อุทัย ผกก.สภ.แม่แตง, พ.อ.ศรัณย์ รอดบุญธรรม ผบ.ฉก.ม.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 335 ออกสืบสวนหาข่าวในพื้นที่รับผิดชอบ จากการข่าว ทราบว่าจะมีกลุ่มคาราวานลักลอบลำเสียง ยาเสพติดโดยใช้เส้นทางธรรมชาติ จากบ้านแม่คะนิน ตำบลแม่นะ อำเภอเซียงดาว เพื่อหลบด่านตรวจแก่งบันเต้าแล้วลักลอบเข้าสู่พื้นที่ตอนในจึงได้วางกำลังดักซุ่มสังเกตการณ์บริเวณ ถนนเชียงใหม่-ฝาง ซึ่งทราบว่าเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายยาเสพติด

พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนประณีต

จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น ของวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึด ได้สังกตเห็นคาราวานดังกล่าวสะพายเป้เดินข้าม แม่น้ำปิง มายังถนนฯ บริเวณที่เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ และในขณะนั้นได้มีรถยนต์มิตชูบิชิ ปาเจโร่สปอร์ต สีขาว มุ่งหน้ามาจากทางอำเภอแม่แตง ลดความเร็วและกลับรถเพื่อทำการเข้าจอดในจุดที่เจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่แต่ในระหว่างนั้นคนขับรถคันดังกล่าวได้สังเกตุเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้เร่งเครื่องหนีออกจากจุดดังกล่าว พยายามขับรถขนยาเสพติดที่ลำเสียงข้ามน้ำมาเห็นสิ่งผิดปกติจึงได้ทิ้งกระสอบพลาสติก เป้สะพายมาแล้วอาศัยความมืด และความชำนาญภูมิประเทศวิ่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้จัดชุดติดตาม และตรวจสอบกระสอบพลาสติกที่ทิ้งไว้จำนวน 10 กระสอบ พบข้างในบรรจุยาบ้ากระสอบละประมาณ 100,000.เม็ด รวม ของกลางยาบ้า จำนวนประมาณ 1,000,000 เม็ด
พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนประณีต
พล.ต.ต.ยงเกียรติ ยังได้เปิดเผยอีกว่า จากการประสานข้อมูลการข่าวกับสำนักงานป้องกันและปราบปราม ยาเสพติดทราบว่ยาบดักล่าวเป็นของกลุ่มว้าเหนือ ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาภายในประเทศไทยผ่านชายแดนอำภอแม่อายไชยปราการ เชียงดาว และจะลำเลียง ต่อไปยังภาคใต้ของประเทศไทย แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ก่อน โดยได้สั่งการให้สืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการตามกฏหมายต่อไป

พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนประณีต พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนประณีต

พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนประณีต


 

‘รมว.ยุติธรรม’ เร่งผลักดัน ปราบปรามยาเสพติดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมกล่าวปราศรัยในการประชุมหัวหน้าหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (The Meeting of Heads of National Drug Law Enforcement Agencies, Asia and the Pacific: HONLEA) ครั้งที่ 43 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 25 ตุลาคม 2562 ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพมหานคร
นายสมศักดิ์ เทพสุทินการประชุมครั้งนี้ เป็นการจัดขึ้นร่วมกันระหว่างสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมระดับหัวหน้าหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก 19 ประเทศ ผู้แทนจากองค์การระหว่างประเทศ และผู้แทนจากหน่วยงานป้องกันยาเสพติดในประเทศไทย รวมกว่า 150 คน
นายสมศักดิ์ เทพสุทินในการกล่าวปาฐกถา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้ให้ที่ประชุมเห็นว่า ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิคกำลังประสบปัญหายาเสพติดที่ปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเสพติดประเภทสารสังเคราะห์ และได้ให้ความสำคัญกับ 3 ประเด็น ได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ปัญหา โดยต้องปรับปรุงข้อมูลและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันอย่างรวดเร็ว รวมถึง การเสริมสร้างศักยภาพด้านการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นให้ทันต่อสถานการณ์ ตลอดจน การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานปราบปรามยาเสพติด ผ่านการส่งเสริมให้มีความช่วยเหลือทางวิชาการด้านการควบคุมยาเสพติด ให้แก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหายาเสพติด เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการควบคุมการลักลอบผลิตและลำเลียงยาเสพติด การปราบปรามยาเสพติด และการป้องกันการใช้ยาในทางที่ผิด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
ทั้งนี้ ประเทศไทย ได้รับการยอมรับในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ภายใต้ปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย โดยเป็นต้นแบบในการใช้แนวทางการพัฒนาทางเลือก (Alternative Development) ในการดำเนินงาน ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. จะมีการประสานงานความร่วมมือกับหน่วยงานภาคี โดยมุ่งลดปริมาณยาเสพติดในภูมิภาค ผ่านการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงเคมีภัณฑ์สารตั้งตันเข้าไปยังแหล่งผลิต รวมถึงแพร่กระจายออกไปทั้งในและนอกภูมิภาค

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน


 

สืบสวน​สตม.รวบชาวเยอรมันหนีหมายจับซุกไทย​ และยังเข้ามาก่อคดีอำพรางศพหญิงชราร่วมชาติ ยัดตู้ไม้ทิ้งคลองย่านบางแสน หวังเงินเกษียณ

วันนี้​ วันอังคารที่ 22 ต.ค.62 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาธร​ กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี,พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย,พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์,พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รองผบช.สตม.,พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.ภ.2 ปฏิบัติราชการ สตม. และ พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.2 บก.สส.สตม.

ตำรวจภูธรภาค 2 นำโดย พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย​ พ.ต.อ.เทียนชัย​ เลิศมณีทวีทรัพย์ ผกก.สภ.แสนสุข,พ.ต.ท.ชัฎ บรรทัดเที่ยง รองผกก.สอบสวนฯ,พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ กู้พิมายวรกูล รองผกก.สส.สภ.แสนสุข ร่วมแถลงข่าว​ผลการจับกุม​หนุ่มเยอรมันยัดศพหญิงชราร่วมชาติใส่ลังไม้ทิ้งคลองย่านบางแสน อำพรางการตายหวังเงินเกษียณ

พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ​ กล่าว​ว่า​ ได้รับการประสานจากตำรวจเยอรมัน ให้ช่วยติดตามนาง Margund อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการเยอรมันได้รับแจ้งว่าสูญหาย โดยได้เดินทางมาพร้อมกับนาย Richard ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 ทางญาติไม่สามารถติดต่อได้เกรงว่ามารดาอาจถูกทำร้ายหรือจะได้รับอันตราย ตรวจสอบข้อมูลพบว่านาย Richard กระทำผิดลักษณะหลอกลวงผู้หญิงสูงอายุหลายครั้ง​ และมีหมายจับประเทศเยอรมันในข้อหาฉ้อโกงบัตรเครดิต 17 กระทง รวมเป็นเงิน 6,000 ยูโร (240,000 บาท)

พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ​ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวน บก.สส.สตม.ออกสืบสวนติดตามจับกุมตัวนาย Richard และสืบสวนหาตัวนาง Margund เจ้าหน้าที่​กก.2 บก.สส.สตม.ได้สืบสวนติดตามจนทราบว่านาย Richard ได้อาศัยอยู่ที่บ้านเช่า ภายใน ต.แสนสุข อ.เมือง​ จ.ชลบุรี อาศัยอยู่กับหญิงไทย จึงได้แสดงตัวเข้าพบว่าวีซ่าหมดอายุตั้งแต่ 22 มิ.ย.60 จึงได้ควบคุมตัวไปยัง สภ.แสนสุข สอบสวนปากคำ ให้การว่าได้อาศัยอยู่ด้วยกันตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560

สอบสวน น.ส.สุปราณี ภรรยานาย Richard ให้การว่านาย Richard พานาง Margund มาอยู่ด้วยกัน โดยใช้เงินที่โอนมาจากประเทศเยอรมันเดือนละหลายหมื่นบาท ซึ่งเงินดังกล่าวนาย Richard บอกว่าส่วนหนึ่งเป็นเงินเกษียณของนาง Margund ต่อมาประมาณต้นเดือนมกราคม 2562 นาง Margund ได้ล้มลงในห้องน้ำ จึงได้ช่วยกันพามานอนพัก จนทราบภายหลังว่าเสียชีวิตแน่นอนแล้ว นาย Richard จึงได้นำผ้าห่มมาห่อศพแล้วยัดใส่ตู้ลังไม้ใส่ของ จากนั้นได้นำใส่รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง (ซาเล้ง) ซึ่งนาย Richard ขี่ไปทิ้งที่คลองบางโปรง หลังสนามกีฬาเทศบาลเมืองแสนสุข​ และต่อมาปรากฏว่ามีข่าวพบศพหญิงนิรนามที่ถูกยัดใส่ตู้ลังไม้ลอยน้ำ

จากการสืบสวนพิสูจน์ทราบ​ เชื่อว่าศพดังกล่าวคือนาง Margund พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ จึงได้ประสาน ผบช.ภ.2 และตำรวจประเทศเยอรมัน ร่วมพิสูจน์หลักฐานในคดีดังกล่าว ซึ่งอยู่ในระหว่างตรวจสอบผลดีเอ็นเอ และประวัติการทำฟันของนาง Margund เจ้าหน้าที่​ตำรวจ​สภ.แสนสุข จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลจังหวัดชลบุรี ออกหมายจับนาย Richard ในข้อหา ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพฯ และได้แจ้งข้อกล่าวหา อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด

พล.ต.ท.สมพงษ์​ฯ​ ขอฝาก​ประชาสัมพันธ์​ให้ว่าการบูรณาการกับหน่วยที่เกี่ยวข้องในการระดมกวาดล้างการจับกุมคนต่างด้าวทำงานโดยผิดกฎหมายเป็นมาตรการในการป้องกันปราบปรามที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากผู้ใดพบเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซอยสวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หมายเลข 1178 หรือทางเว็บไซต์ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูง


 

ตม.เชียงใหม่​ รวบเฒ่านิวซีแลนด์เปิดร้านอาหาร เบื้องหลังค้ายา

วันอังคารที่ 22 ต.ค.62 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาธร​ กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี,พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย,พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์,พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รองผบช.สตม.,พล.ต.ต.ชำนาญ ชำนาญเวช ผบก.ตม.5,พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รองผบก.ตม.5 และ พ.ต.อ.โกเมน สุภาพ ผกก.ตม.จ.เชียงใหม่ ร่วมแถลงข่าวการจับกุม​ชาวนิวซีแลนด์ใช้วีซ่าชีวิตบั้นปลายประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตและจำหน่ายยาเสพติด

พล.ต.ท.สมพงษ์​ฯ​ กล่าว​ว่า จากการสืบสวนหาข่าวของชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปราม ตม.จ.เชียงใหม่​ สืบทราบว่า บริษัท ริมิ โฮสดิ้งส์ จำกัด ประกอบการในชื่อ ร้าน SPADES BISTRO&BAR สถานที่เกิดเหตุ ตั้งอยู่เลขที่ 207 ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ มีลักษณะเป็นธุรกิจร้านอาหาร​ และจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีคนต่างด้าวลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย

จึงได้เฝ้าติดตามดูพฤติกรรมจนพบว่า มีชายคนต่างด้าวอยู่ภายในร้านจะทำหน้าที่มาคอยดูแลลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการภายในร้าน มีการรับชำระเงินจากลูกค้า เป็นต้น จึงได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นเพื่อเข้าตรวจสอบและจับกุมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2562 เวลา 22.00 น.โดยตรวจพบคุณไมค์ หรือ MR.MICHAEL กำลังดูแลลูกค้าอยู่ ภายในร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและเอกสารการจัดตั้งบริษัท

ซึ่งตรวจพบว่า MR.MICHAEL เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2562 ได้รับการตรวจลงตราประเภทสงวนสิทธิ์การตรวจลงตราเดิม (ใช้ชีวิตบั้นปลาย) ได้รับอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 26 มีนาคม 2563 ประกอบกับตรวจพบเอกสารการจดทะเบียนนิติบุคคลจากสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดเชียงใหม่​ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า MR.MICHAEL เป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัทฯ ซึ่งวีซ่าประเภทนี้ไม่สามารถทำงานใดๆ หรือเป็นกรรมการของบริษัทได้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจสอบข้อมูลกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งอยู่ภายในร้าน โดย MR.MICHAEL แจ้งว่าไม่มีการบันทึกข้อมูล กล้องวงจรปิดที่ตรวจพบมีเพียงแค่ตัวกล้องติดตั้งเท่านั้น ไม่ได้ใช้งานเนื่องจากเป็นกล้องของผู้เช่าอาคารคนเดิมซึ่งไม่ได้ถอดออกไปด้วย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อตามที่กล่าวอ้าง จึงให้ MR.MICHAEL นำตรวจสอบบริเวณชั้น 2 และ 3

ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการบันทึกข้อมูลกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด แต่ได้ตรวจพบยาเสพติด คือ ยาอีหรือเอสตาชี 64 เม็ด,โคเคน น้ำหนักรวม 9.92 กรัม และยาเค 9.68 กรัม อีกทั้งพบถุงซิปล็อคขนาดเล็ก จำนวนหลายถุง ซุกซ่อนในลิ้นชักโต๊ะทำงาน บริเวณชั้น 3 ของร้านที่เกิดเหตุ จึงเชื่อว่า MR.MICHAEL มีพฤติการณ์มียาเสพติดให้โทษเพื่อเสพและจำหน่ายด้วย ในเบื้องต้นได้สอบถาม MR.MICHAEL ให้การว่าได้ซื้อยาเสพติดทั้งหมดจากเพื่อนผู้ชายชาวต่างชาติซึ่งไม่ได้แจ้งชื่อให้ทราบ โดยซื้อมาเป็นเงินประมาณ 45,000 บาท จากนั้นจึงได้ตรวจ สารเสพติดในปัสสาวะของ MR.MICHAEL

พบว่ามีผลเป็นบวกในกลุ่มยาเสพติดประเภทโคเคน ประกอบกับจากการสอบปากคำพยานซึ่งเป็นพนักงานของร้าน ให้การสอดคล้องต้องกันว่าเจ้าของร้าน คือ MR.MICHAEL และพนักงานบางคนเคยรู้เห็นว่า MR.MICHAEL เคยใช้ยาเสพติดบ้างเป็นบางครั้ง แต่ไม่ทราบว่าเป็นยาเสพติดชนิดใด เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ MR.MICHAEL ได้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน

“เป็นคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต”, “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน”, “เป็นคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวแต่ประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอีหรือเอสตาซี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”,“มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”, “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) โดยผิดกฎหมาย”, “มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (ยาเคหรือเคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” และจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2562 เวลาประมาณ 14.00 น. ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ นำโดย พันตำรวจโท ฐิติวัฒน์ ฤชานุกูล รองผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ และชุดสืบสวน ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการสืบสวนขยายผลการจับกุมยาเสพติดดังกล่าว จนทราบว่า MR.MICHAEL ได้เช่าบ้านพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 280 หมู่ 5 ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

จึงได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 315/2562 เข้าตรวจค้นเพื่อหาสิ่งผิดกฎหมาย​ และยาเสพติด โดยได้แสดงหมายค้นให้ นางสาวภัณฑิราฯ เจ้าของบ้าน​ และเป็นผู้ให้เช่า ผลการตรวจค้นพบอุปกรณ์ที่สันนิษฐานว่าใช้เสพยาเสพติดให้โทษ จำนวน 14 รายการ เช่น อุปกรณ์ท่อสูบทองเหลือง มีเขม่าสีดำด้านใน เชื่อว่ามีไว้เสพยาเสพติดของเหลวลักษณะข้นสีดำเชื่อว่าอาจจะเป็นยาเสพติดประเภทฝิ่น เป็นต้น จึงได้ทำการตรวจยึดและมอบให้พนักงานสอบสวนส่งตรวจพิสูจน์ที่งานตรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้การตรวจพิสูจน์ยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งจะได้ติดตามผลการตรวจพิสูจน์นำเรียนผู้บังคับบัญชาในลำดับต่อไป

พล.ต.ท.สมพงษ์​ฯ​ ขอ​ฝาก​ประชา​สัมพันธ์​ให้ทราบว่าการบูรณาการกับหน่วยที่เกี่ยวข้องในการ ระดมกวาดล้างการจับกุมคนต่างด้าวทำงานโดยผิดกฎหมายเป็นมาตรการในการป้องกันปราบปรามที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากผู้ใดพบเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซอยสวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทรกรุงเทพมหานคร 10120 หมายเลข 1178 หรือ ทางเว็บไซต์ www. immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูง