การผลิตทุเรียนและการป้องกันกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน

นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน Kick Off วันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตทุเรียนและการป้องกันกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน ณ ติด.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ว่า การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นการตรวจติดตามผลการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน ในแปลงปลูกพื้นที่จ.อุตรดิตถ์ และเป็นการ Kick off การคุมเข้มการแก้ไขปัญหาหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง เพื่อทำให้ผลผลิตทุเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการส่งออก ไม่ให้เกิดปัญหาหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนติดไปกับผลผลิตทุเรียนทั้งในการบริโภคภายในประเทศ และการส่งออกผลผลิตไปยังประเทศจีน ตามที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ได้ให้กรมวิชาการเกษตร นำองค์ความรู้ เทคโนโลยีการป้องกันกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน และเทคโนโลยีการผลิตทุเรียนที่ดี มาใช้ในการผลิตทุเรียนในพื้นที่เขตจ.อุตรดิตถ์ รวมทั้งการกำกับ และควบคุมคุณภาพตั้งแต่แปลงผลิต โรงคัดบรรจุ จนถึงหน้าด่านตรวจพืช ซึ่งจ.อุตรดิตถ์เป็นแหล่งรวบรวมผลผลิตทุเรียนและโรงคัดบรรจุที่สำคัญในเขตภาคเหนือตอนล่าง ปี 66 มีผลผลิตทุเรียนที่ส่งออกไปยังประเทศจีน 694 ชิปเมนท์ ปริมาณ 11,844 ตัน มูลค่าการส่งออก 1,398 ล้านบาท
ด้านนายละเอียด ปั้นสุข ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 กล่าวว่า ได้ประชุมประสานงานกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในจ.อุตรดิตถ์ และผู้แทนเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ในการสร้างการรับรู้ถึงผลกระทบของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน ต่อการส่งออกทุเรียน โดยมาตรการกำจัดในการผลิตทุเรียนของภาคตะวันออก ประกอบด้วยแนวทางการดำเนินงาน 5 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ร่วมจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดความตะหนักถึงผลกระทบซึ่งหากตรวจพบหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนทั้งในประเทศ และการส่งออก
ขั้นตอนที่ 2 ให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ร่วมเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ และเทคโนโลยีการผลิตทุเรียน วิธีการป้องกันกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนทั้งแบบวิธีผสมผสาน และการใช้สารเคมีทางการเกษตรอย่างถูกต้อง โดยต้องเร่งเข้าไปแนะนำให้ทันต่อช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงในการเข้าทำลายผลผลิตของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน
ขั้นตอนที่ 3 เชิญทุกภาคส่วนในแต่ละพื้นที่ที่ปลูกทุเรียน ร่วมกันรณรงค์จัดกิจกรรมการป้องกันกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนให้ขยายพื้นที่เป็นวงกว้าง (Kick off) ครอบคลุมพื้นที่ปลูกเพิ่มมากขึ้น
ขั้นตอนที่ 4 การจัดทำแปลงต้นแบบแหล่งผลิตทุเรียนที่ดี สำหรับจุดเรียนรู้ของเกษตรกรด้านเทคโนโลยีการผลิต การใช้ปัจจัยการผลิต และวิธีการจัดการต่าง ๆ ในพื้นที่อ.เมือง อ.ลับแล และอ.ท่าปลา
ขั้นตอนที่ 5 ติดตามและขยายผล การควบคุมปัญหาหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนและปัญหาทุเรียนอ่อนในพื้นที่จ.อุตรดิตถ์
นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์ในกิจกรรมกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนให้ขยายพื้นที่เป็นวงกว้าง ได้แนะนำแนวทางวิธีการกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนในแปลงปลูกแบบผสมผสาน ดังนี้
(1) การเลือกใช้สารเคมีกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนถูกต้อง และเหมาะสม ได้แก่ การฉีดพ่นสารเคมีกำจัดดักแด้ของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนที่อยู่ในดิน เมื่อดินมีความชื้นที่เหมาะสม ส่วนการฉีดพ่นสารเคมีบนต้นทุเรียนให้เริ่มฉีดพ่นในระยะผลทุเรียนตั้งแต่อายุ 6 สัปดาห์หลังดอกบาน โดยฉีดพ่นทุก 5-7 วัน และหยุดพ่นก่อนเก็บเกี่ยว 7-10 วัน
(2) การแนะนำใช้ชีวภัณฑ์ในการกำจัดดักแด้ของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนที่อยู่ในดิน ด้วยวิธีการใช้เชื้อราเขียวเมตาไรเซียม หรือเชื้อราบิวเวอร์เรีย ในรูปแบบเชื้อสดอัตรา 400 กรัมต่อไร่ ผสมน้ำฉีดพ่นลงดินรอบทรงพุ่มในช่วงดินมีความชื้นเหมาะสมหรือเมื่อมีการตกของฝนแรกในพื้นที่ปลูก
(3) แนะนำให้เกษตรกรใช้กับดักแสงไฟ (หลอดแบล็คไลท์) ในแปลงปลูก และการแขวนเหยื่อพิษที่ต้นทุเรียน ในการล่อผีเสื้อกลางคืนหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน (ตัวเต็มวัย) ซึ่งการกำจัดผีเสื้อจะช่วยลดปริมาณการเข้าทำลายของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนที่ผลผลิต การใช้ชีวภัณฑ์ในการกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน ได้แก่ การใช้เชื้อราเขียวเมตาไรเซียม เชื้อราบิวเวอร์เรีย กรมวิชาการเกษตรมีความพร้อมนำมาร่วมผลิตขยายในพื้นที่
โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอุตรดิตถ์ ร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ มีความพร้อมในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต การขยายเชื้อราเขียวเมตาไรเซียม และเชื้อราบิวเวอเรียให้กับเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร นำไปใช้กำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนพร้อมกับการสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรผลิตใช้เองต่อไป.

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#ทุเรียน#ข่าวการเกษตรวันนี้