ที่กองบังคับการปราบปราม พลตำรวจตรี จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) พร้อมด้วย พันตำรวจเอก เนติ วงษ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 5 กองปราบปราม (ผกก.5.บก.ป.),พันตำรวจโท สุพจน์ พุ่มแหยม,พันตำรวจโท เผด็จ งามละม่อม รองผู้กำกับการ 5 กองปราบปราม (รองผกก.5 บก.ป.),พันตำรวจตรี เกริก เสนาะสำเนียง สารวัตรกองกำกับการ 5 กองปราบปราม (สว.กก.5.บก.ป.)
พร้อมกันนำกำลังเข้าจับกุม น.ส.ขนิษฐา แพงมี อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลเพรชบุรีที่ 71/2562 ลงวันที่ 4 มี.ค.62 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ และ หมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ 106/2561 ลงวันที่ 24 ต.ค.61 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ของ สภ.นครศรีธรรมราช
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2561 กลุ่มผู้ต้องหาได้ใช้โปรแกรมสตาแกรมสนทนากับผู้เสียหายโดยปลายทางเป็นชาวต่างชาติผิวดำ คุยกันได้ 4 เดือนจนสนิทสนมกันบอกว่าจะมีสิ่งของภายในเป็นเงินจำนวน 4 แสนปอนด์ส่งเข้ามาในพัสดุ และจะมีขบวนการหลอกลวงต่างๆเช่น ต้องเสียค่าภาษี นำเข้าเงินตราต่างประเทศ เงินค้ำประกันใบรับรองการฟอกเงิน ใบรับรองการใช้เงินอย่างถูกต้องตามกฎหมายการเสียเงินใต้โต๊ะ
ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปให้ 7 บัญชีรวม 31 ครั้งยอดเงินทั้งหมด 2,049,500 บาท โดย น.ส.ขนิษฐาฯ เป็นหนึ่งในขบวนการ โดยทำหน้าที่รับจ้างไปเปิดบัญชีครั้งละ 5 พันบาทแล้วให้ ค่าจ้างเจ้าของบัญชีตัวจริง 2 พันบาท ต่อมาเจ้าของบัญชีตัวจริงได้แจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ขนิษฐาฯ ไว้ที่ สภ.ชะอำ จ.เพรชบุรี และมีการออกหมายจับ
โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณถนนพัฒนาการแขวงและเขตประเวศ กทม.เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา น.ส.ขนิษฐาฯ รับสารภาพว่าเป็นผู้ว่าจ้างให้ไปเปิดบัญชีจริงหลังจากได้สมุดบัญชี และบัตรเอ.ที.เอ็ม.มาแล้วก็จะส่งไปรษณีย์ไปให้กับขบวนการโดยติดต่อกันทางเฟสบุ้คไม่ทราบชื่อจริง และไม่รู้ว่าจะนำไปหลอกลวง ภายหลังจากถูกจับกุมได้ เจ้าหน้าที่กองปราบฯนำส่งตัวผู้ต้องหาให้ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง