กลุ่มธรรมศาตร์พิทักษ์ธรรม นำโดยนายอาณัศ ช้างอินทร์ อดีตนักศึกษา นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่นที่ 09 แถลงการดำเนินการเกี่ยวกับบุคคลผู้กระทำผิด ต่อเกียรติภูมิของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีการยืนตรงเคารพธงชาติ ก่อนเริ่มการแถลงข่าว โดยนายอาณัศ กล่าวว่า การที่มาร่วมกันในการจัดกิจกรรม ไม่เกี่ยวข้องกับทางการเมืองของรัฐ และทำเพื่อรักษาธรรมที่พึงกระทำ โดยชื่อของมหาวิทยาลัยบอกชัดเจนว่ามาเรียนด้วยธรรม คือการแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ ศาสตร์แห่งธรรมที่ต้องไม่ทำให้ผู้อื่น หรือตนเองเดือดร้อน ซึ่งกลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรมมี “แอก” แอกแห่งคุณธรรม รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่จะต้องแบกคุณธรรมให้สังคม เพื่อประเทศชาติบ้านเมือง
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ปิดมหาวิทยาลัย ห้ามกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุมใช้สถานที่ แต่กลับมีผู้ฝ่าฝืนทำให้คำสั่งอธิการไร้ความหมาย และอธิการเองไม่ดำเนินการในฐานบุกรุก จึงมีการยื่นรายชื่อ 626 คน ทำหนังสือถึงอธิการบดี ว่าอธิการบดีควรทำอะไรบ้าง หากดูรัฐธรรมนูญทุกฉบับ บัญญัติไว้ชัดเจนว่าประเทศไทยเป็นราชอาณาจักร แบ่งแยกไม่ได้ แต่การอ้างกฎหมายว่ามีสิทธิเสรีภาพ แต่กลับลืมว่าต้องไม่ละเมิดคนอื่น ซึ่งทางกลุ่มยึดมั่น และขอยืนยันว่าตนไม่ต้องการวิวาทกับใคร แต่ต้องการปฏิบัติธรรมให้เป็นหลักฐานว่า ทุกคนยึดมั่นในระบบชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมกับกล่าวอีกว่า ที่เดือดร้อนกันอยู่ทุกวันนี้ เพราะคนใช้มหาลัยไม่ใช่นักศึกษาทั้งหมด รวมไปถึงบางคนเรียนยังไม่จบ แต่กลับทำให้บ้านเมืองเดือดร้อนและมหาวิทยาลัยเสียหาย
ทั้งนี้ นายอาณัศ ได้อ่านแถลงการณ์ถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ 4 ข้อ คือ เรียกร้องให้อธิการบดีแจ้งความดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิด เนื่องจากอธิการเคยมีคำสั่งชัดเจน ไม่ให้ใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยในการชุมนุมหารเมืองแต่ เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้บุกรุกเข้าไปมหาวิทยาลัยฝ่าฝืนคำสั่ง ทำให้ทรัพย์สินภายในมหาวิทยาลัยเสียหาย ดังนั้นขอให้ดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในอนาคต หากปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินคดีอาจมีความผิดฐานละเส้นปฏิบัติหน้าที่ได้, เรียกร้องให้สั่งห้ามไม่ใช้ กลุ่มผู้ชุมนุม ใช้ชื่อมหาวิทยาลัยในการชุมนุมทางการเมืองที่เป็นการสร้างความอับอาย และความเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงแก่มหาวิทยาลัย และห้ามไม่ใช้ตราสัญลักษณ์และสถานที่ของมหาวิทยาลัย ในการชุมนุมทางการเมืองที่มีเนื้อหา ปฏิปักษ์ต่อสถาบันฯ, ขอให้ทางมหาวิทยาลัยลงโทษ นักศึกษาตามกฎระเบียบขอบมหาวิทยาลัย ที่ใช้เสรีภาพการชุมนุมต้องไม่ละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน และทำลายวัฒนธรรมของชาติเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างแต่นักศึกษาคนอื่นๆและขอให้มหาวิทยาลัย สั่งห้ามไม่ให้ อาจารย์ของมหาวิทยาลัย ที่สอนด้วยเนื่อหาที่ไม่เหมาะสม แฝงไปด้วยวาระทางการเมืองมีเนื้อหาเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันฯ เพื่อไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยต่อไป
โดยข้อเรียกร้องทั้งหมดจะต้องดำเนินการตามกรอบระยะเวลา ซึ่งจะมีการทวงถาม หากไม่ดำเนินการจะมีมาตรการขั้นเด็ดขาดกับการดำเนินการดำเนินคดี กล่าวโทษร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 157 ว่าด่วยผู้ใดเผ็นเจ้าพนักงงาน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสีบหายผู้ใดผู้หนึ่ง
ซึ่งกลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม เกิดจากการที่ นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตสมาชิกวุฒิสภาตั้งกลุ่มไลน์ลงชื่อเปิดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้กลุ่มชุมนุมทางการเมือง ที่มีนัยยะแอบแฝง และเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันใช้สถานที่ก่อนหน้านี้ ก่อนผันตัวมาเป็นกลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม มีจุดมุ่งหมายให้รู้ว่าธรรมศาสตร์ยังไม่สิ้นคนดี และจะคอยปกป้องสถาบัน โดยขณะนี้มีสมาชิกกว่า 700 คน
