สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯครั้งนี้ นับเป็นการวางแผนด้านการเงินเพื่อรองรับการเติบโตที่แข็งแกร่งที่ยั่งยืนในระยะยาว ของบริษัท เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของการรักษาความเป็นเบอร์หนึ่ง ของการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้านในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งรักษาการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคง
โดยบริษัทมีแผนผลักดันยอดขายเติบโตสู่ 120,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี ด้วยแผนรุกธุรกิจที่แข็งแกร่ง 3 แนวทางได้แก่ แผนการเปิดตัวโครงการใหม่ที่รัดกุมพร้อมปรับเปลี่ยนไปตามทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา การบริหารสต็อกที่ดี ปัจจุบันแสนสิริ มีสินค้าพร้อมขายมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นปริมาณที่มีความสมดุลในตลาด และการบริหารกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและสภาพคล่องที่ดี โดยได้จัดสรร Cash Flow เงินหมุนเวียนในบริษัทไว้ถึง 10,000 ล้านบาท มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจและมีความแข็งแกร่งในทุกสภาวการณ์
ทั้งนี้ บริษัทยังได้ปรับเป้ายอดขายปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 35,000 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 29,000 ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินธุรกิจเพียง 5 เดือนที่ผ่านมาสร้างยอดขายไปได้กว่า 22,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 168 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ล่าสุดบริษัทได้ปรับประมาณการเป้าหมายรายได้รวมทั้งปีเพิ่มขึ้นเป็น 32,000 ล้านบาท จากเป้าที่วางไว้เดิม 27,000 ล้านบาท จากการมองเห็นแนวโน้มรายได้และกำไรที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป
สำหรับ ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังมีแผนธุรกิจในการเดินหน้าเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่รองรับการเติบโตอีก 14 โครงการ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 6 โครงการ ทาวน์โฮมและมิกซ์โปรเจคต์อีก 6 โครงการ มูลค่ารวม 15,200 ล้านบาท รวมทั้งยังมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท