โดยในเบื้องต้น ธ.ก.ส. ได้นำร่องให้สินเชื่อแก่เกษตรกรที่มีการนำไม้ยืนต้นที่มีค่าที่ปลูกในบริเวณบ้าน มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงินแล้ว ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี วงเงินสินเชื่อจำนวน 115,000 บาท ทำให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น
ทั้งนี้ การส่งเสริมให้มีการนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการปลูกไม้ยืนต้นที่มีค่าบนพื้นที่ของตนเอง สามารถนำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อได้ โดยไม่จำเป็นต้องตัดขายเพียงอย่างเดียวอีกทั้ง ไม้ยืนต้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามการเติบโตของต้นไม้ ดังนั้น มูลค่าทรัพย์สินของเกษตรกรก็จะมีมากขึ้นด้วยเช่นกัน ยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมทั้งประเทศ การดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงและพึ่งพาตนเองให้มากที่สุด จึงเป็นวิธีการยกระดับการแก้ปัญหาที่กำลังเผชิญให้ทุเลาเบาบางลง