เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย ซึ่งระบาด ในประเทศกำลังพัฒนาและได้สนับสนุนโครงการต่างๆ ของไทยในรูปแบบของการป้องกัน ควบคุม และรักษาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 46 จนถึงปัจจุบันคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี เช่น อัตราการติดเชื้อเอชไอวีที่ลดลง รวมถึงอัตราการหายจากวัณโรคสูงขึ้น
โดยในปี 62 มีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่และที่กลับเป็นซ้ำได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติ นอกจากนี้ การสนับสนุนจากกองทุนโลกฯ ทำให้ไทยสามารถขยายการดำเนินงานไปยังกลุ่มเฉพาะได้ เช่น แรงงาน ต่างด้าว เป็นต้น และทำให้ประชาชนในประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศยากจน สามารถเข้าถึงบริการได้มากขึ้น ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงเห็นว่า การขยายเวลาการจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่กองทุนโลกฯ จะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของกองทุนโลกฯ ให้มีความคล่องตัวและต่อเนื่อง และเป็นการยืนยันว่าประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานร่วมกับประเทศสมาชิกอื่นๆ ในการจัดการกับโรคดังกล่าวและกองทุนโลกฯ พร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินงานในไทยประมาณปีละ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงขอขยายเวลาจ่ายเงินอุดหนุนต่อไปอีก 5 ปี (ตั้งแต่ปีงบฯ 63 – 67) เป็นจำนวนเงิน ปีละ 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 48 ล้านบาทโดยใช้งบประมาณประจำปี หมวดเงินอุดหนุนของกระทรวงสาธารณสุข