“กม.ไม่ตีเด็ก” ผ่านแล้ว!! “ประชาชน” ชมสภาฯ ให้ความสำคัญกับเยาวชน ชี้ต้องเร่งแพร่ความรู้ “การเลี้ยงดูลูกเชิงบวก”

287

ที่รัฐสภา วันที่ 8 มกราคม สภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือกฎหมายไม่ตีเด็ก ของวุฒิสภา ส่งผลให้กฎหมายดังกล่าว เป็นร่างกฎหมายฉบับแรกของฝ่ายค้านที่ผ่านสภาฯ โดยไม่มีร่างของรัฐบาลประกบ โดยร่างฉบับนี้ ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นผู้เสนอ และผ่านสภาผู้แทนฯ ในวาระสามแล้วเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 ก่อนส่งไปยังวุฒิสภา มีการแก้ไขเพิ่มเติม และได้ส่งคืนสภาผู้แทนฯ พิจารณา 

ภัสริน รามวงศ์ สส.กรุงเทพฯ เขต 7 พรรคประชาชน พร้อมคณะ ร่วมแถลงข่าวว่า วันนี้คือการปักหมุดสิทธิของเด็ก ขอแสดงความชื่นชมต่อสภาผู้แทนราษฎรที่ให้ความสำคัญกับประเด็นของครอบครัวและเด็ก ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคม การแก้ไขกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1567 (2) พรรคประชาชนและภาคประชาสังคมได้ตั้งใจผลักดันให้สำเร็จ กฎหมายฉบับนี้ไม่เพียงเปลี่ยนกระบวนทัศน์การเลี้ยงดูเด็ก การเลี้ยงลูกเชิงบวก เน้นเด็กเป็นศูนย์กลางของครอบครัว และยึดหลักการ The Best Interest of The Child แต่ยังเน้นย้ำความสำคัญของบทบาทบิดามารดาและผู้ปกครองในการเลี้ยงดูอย่างสร้างสรรค์ ปราศจากความรุนแรง และเน้นการปกป้องคุ้มครองเด็กในทุกมิติ

อย่างไรก็ตาม กฎหมายมาตรานี้มาตราเดียวไม่เพียงพอที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างครบวงจร รัฐยังมีภารกิจสำคัญในการสร้างพื้นที่ให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งหมายถึงการเข้าถึงการศึกษาที่ดี สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย และการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจที่เหมาะสม นอกจากนี้ รัฐต้องส่งเสริมสวัสดิการที่อำนวยให้บิดามารดาสามารถเข้าถึงบริการเลี้ยงดูเด็กที่มีคุณภาพได้อย่างครบวงจร เช่น การจัดให้มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่เพียงพอ การลาคลอดและลางานเลี้ยงดูบุตรที่เหมาะสม ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนความเป็นอยู่ของครอบครัวในทุกระดับ

สส.พรรคประชาชนกล่าวว่า ขณะเดียวกัน การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ “การเลี้ยงลูกเชิงบวก” จะช่วยสร้างความเข้าใจในครอบครัวว่าความรัก ความเคารพ และการสื่อสารคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูก เป็นรากฐานของสังคมที่เอื้ออาทรและลดความรุนแรงลงได้ ซึ่งก่อนถึงวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ตนไม่เรียกว่าเรื่องนี้คือ “ของขวัญ” เหมือนที่ผู้ใหญ่ใช้เงินซื้อและหยิบยื่นให้ในเทศกาลต่างๆ เป็นครั้งคราว หากแต่เป็น “ความระลึก” หรือความตระหนักในความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันของเด็กๆ และผู้ใหญ่อย่างเราทุกคนในทุกความสัมพันธ์ของชีวิต

ภารกิจของเรายังไม่สิ้นสุด ยังต้องร่วมมือกันต่อไปในการสร้างระบบที่ปกป้องคุ้มครองเด็กในทุกระดับ ทั้งด้านกฎหมาย นโยบาย และการเปลี่ยนแปลงความเข้าใจของสังคม ขอให้วันนี้เป็นหมุดหมายที่ดีของการเปลี่ยนประเทศนี้เพื่ออนาคตที่สดใสของเด็กและเราทุกคน เพราะเด็กในวันนี้คืออนาคตของประเทศในวันข้างหน้า

#Thaitabloid #ไทยแทบลอยด์ #พรรคประชาชน #ภัสรินรามวงศ์ #กม.ไม่ตีเด็ก