นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความวิตกกังวลเมื่อคลายล็อกแล้ว อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบ 2 รุนแรงกว่าเดิมว่า เมื่อคลายล็อกอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามลำดับขั้นตอนที่ภาครัฐกำหนดออกมาแล้ว โอกาสที่โควิด-19 อาจจะแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้นรอบ 2 หรือรักษาระดับสถานการณ์ให้คงที่หรืออาจลดลงตามลำดับก็มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น และการที่สถานการณ์โควิด-19 จะเดินหน้าไปอย่างไรขึ้น อยู่กับปัจจัยสำคัญ 3 ประการดังนี้ 1) การเตรียมความพร้อมของภาครัฐต้องรอบคอบ รอบด้าน มาตรการ ข้อควรปฏิบัติต่างๆ ที่ออกมาต้องชัดเจน ปฏิบัติได้ข้อปฏิบัติใดไม่สามารถทำได้ ภาครัฐอาจต้องเข้าไปช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ พยายามปิดช่องว่างช่องโหว่ที่อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้ง่าย

2) กิจการที่จะเปิดดำเนินการหลังคลายล็อก ต้องปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเอาจริงเอาจัง คำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดกับส่วนรวม เจ้าของกิจการต่างๆ ต้องพร้อมเปลี่ยนแปลงวิถีธุรกิจของตนเองให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

3) ประชาชนทุกคนควรปฏิบัติตามกฎ กติกา มารยาท และมาตรการผ่อนปรน 6 ประเภทกิจการและกิจกรรมอย่างจริงจัง

ขณะที่ มาตราการเว้นระยะห่างทางสังคม การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือเป็นประจำ ทำงานที่บ้านเพื่อลดความแออัดในที่สาธารณะนอกบ้าน ยังเป็นความจำเป็นที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าถ้าทุกภาคส่วนในสังคมทั้งภาครัฐ เจ้าของกิจการ และประชาชนมีสำนึกร่วมกันปฏิบัติภาระหน้าที่ ตามกฎ กติกามารยาทของการอยู่ร่วมกันในภาวะวิกฤตโควิด-19 อย่างจริงจัง จะช่วยทำให้เรานำพาประเทศไทยให้รอดพ้นภัยโควิด-19 สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ในไม่ช้าอย่างแน่นอน