วันที่ 16 ธันวาคม 2567 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานภาคี ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บก.ปส.3), กองทัพอากาศ, กองทัพเรือ, กองทัพไทย และกองกำลังผาเมือง แถลงผลการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมไอซ์ 483 กก. ซึ่งจัดหาโดยกลุ่มชาติพันธุ์จากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน เตรียมลำเลียงไปยังประเทศที่สาม เหตุเกิดที่บ้านเช่าเก็บพักยาเสพติด ใน จ.ปทุมธานี
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยรายละเอียดว่า เครือข่ายดังกล่าวมีฐานการดำเนินการในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ และใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดไปยังประเทศที่สาม โดยมีรูปแบบการจัดการเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่มีความเชื่อมโยงในหลายภูมิภาค การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการติดตามพฤติกรรมของเครือข่ายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าเครือข่ายได้จัดเตรียมยาเสพติดล็อตใหญ่ลงพื้นที่ภาคใต้และใช้บ้านเช่า ใน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นสถานที่เก็บพัก หลังจากนั้นจึงบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เข้าตรวจค้นและยึดไอซ์ 483 กิโลกรัม พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย และจากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า เตรียมลำเลียงยาเสพติดไปยังจังหวัดสงขลา โดยได้รับค่าจ้าง 1 ล้านบาท และเคยทำมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งประเทศไทยมักถูกใช้เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดจากสามเหลี่ยมทองคำไปยังประเทศอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย ไต้หวัน และฮ่องกง โดยนิยมใช้การขนส่งทางเรือ และยาเสพติดที่มักถูกลำเลียงผ่านประเทศไทย คือ ไอซ์ เฮโรอีน คีตามีน
เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกจากสำนักงาน ป.ป.ส. จะมุ่งเน้นการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตกอย่างเข้มข้นแล้ว ยังร่วมกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับความเข้มงวดในการลาดตระเวนตรวจตราพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่เป็นพื้นที่เสี่ยงในการลักลอบส่งออกยาเสพติดทางทะเลของประเทศไทย เพื่อสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปยังปลายทางประเทศที่สามโดยกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ และจะสืบสวนขยายผล รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ถึงระดับนายทุนผู้สั่งการ เพื่อขยายผลสืบหาทรัพย์สินและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดี และเตรียมปฏิบัติการยึดอายัดทรัพย์สินตามกฎหมายต่อไป