โดย กกต.ได้พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องแล้ว ได้ความว่า ในประเด็นที่ 1 และ 2 นายธนาธร ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด และประเด็นที่ 3 ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นใน 13 บริษัท ในเครือไทยซัมมิท จึงเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.
ทั้งนี้ระหว่างไต่สวนศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่านายธนาธรเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด มีผลให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธนาธรสิ้นสุดลงนั้น ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่านายธนาธรกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2560 มาตรา151 ประกอบมาตรา 42(3) ตามคำร้อง จึงสั่งให้ยุติการไต่สวนและให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายธนาธร ตามข้อกฎหมายข้างต้น ในประเด็นที่ 1และ 2ส่วนประเด็นที่ 3 ที่ถูกกกล่าวหาเป็นเจ้าของหรือถือหุ้นใน 13 บริษัทเครือไทยซัมมิท ให้รอผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน