เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ที่ห้องปฏิบัติการของศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มอบหมายให้ นายนิกร จำนง ประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ในฐานะที่ปรึกษาและคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) และนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. ในฐานะที่ปรึกษาและคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อน ศบปภ. ร่วมเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการผ่านระบบออนไลน์ไปในพื้นที่ พูดคุยกับทีม พม. หนึ่งเดียวจังหวัด และพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ระนอง ชุมพร และสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมและการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยกลุ่มเปราะบาง โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. และนางสาวสุนีย์ ศรีสง่าตระกูลเลิศ รองปลัดกระทรวง พม. พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นายนิกร กล่าวว่า ตามที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) มีความห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ซึ่งเรื่องนี้กระทรวง พม. มีการเตรียมการวางแผนไว้ก่อนแล้ว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อตรวจสอบไปยังพื้นที่ปรากฏว่าแผนที่วางไว้มีความชัดเจน และเป็นไปตามแผน สามารถเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ได้ทันท่วงทีเพื่อดูแลกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเรามีข้อมูลในมืออยู่และในวันนี้ที่มีการประชุมออนไลน์ไปยัง 4 จังหวัดภาคใต้
พบว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่ประสบภัยหนักที่สุดเนื่องจากน้ำเข้าท่วมในเขตอำเภอเมือง แม้แต่เจ้าหน้าที่ พม. เองก็กลายเป็นผู้ประสบภัยเช่นกัน และพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ด้วย ส่วนจังหวัดระนองสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ด้านจังหวัดสุราษฎร์ธานี สถานการณ์ยังทรงๆ อยู่ ซึ่งกลุ่มเปราะบางได้รับการช่วยเหลือดูแล และเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่น้ำท่วมได้อย่างปลอดภัย ไม่มีปัญหา โดยย้ายไปอยู่ศูนย์พักพิงในหน่วยงานของกระทรวง พม. ที่จัดเตรียมไว้ แต่ในบางส่วนได้เคลื่อนย้ายไปอยู่ที่บ้านญาติที่ไม่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมโดยปลอดภัย และจังหวัดชุมพร สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย รถยนต์สามารถสัญจรผ่านได้ และถนนในหมู่บ้าน แม้จะยังมีน้ำท่วมอยู่บ้างแต่เจ้าหน้าที่เราสามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางได้ สรุปโดยรวม หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มอีก สถานการณ์น่าจะคลี่คลายมากขึ้น แต่ต่อจากนี้ไป สิ่งที่เราจะต้องดำเนินการในส่วนของกระทรวง พม. คือการช่วยเหลือเยียวยา เนื่องจากมีบ้านของประชาชนกลุ่มเปราะบางหลายหลังคาเรือนที่ได้รับผลกระทบเกิดความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะบ้านของผู้สูงอายุ และคนพิการ
นอกจากนี้ สิ่งที่ผู้สูงอายุในพื้นที่ต้องการมากเป็นพิเศษ คือ ผ้าอ้อมสำเร็จรูป โดยงบประมาณส่วนนี้ได้มาจาก CSR ยังไม่ได้รับงบประมาณการช่วยเหลืออย่างอื่นที่ชัดเจน และอีกปัญหาที่สำคัญคือการขาดแคลนนมผงสำหรับเด็กเล็ก เนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานไหนบริจาคให้มา จึงขอสั่งการให้ พม. แต่ละจังหวัด เร่งประสานขอสิ่งที่ขาดแคลนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งหลังจากน้ำลดแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดต่อไปคือการช่วยเหลือเยียวยา ที่จะต้องทำต่อเนื่องไปอีกหลายเดือน เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ปัญหาขณะนี้ของกระทรวง พม. คือปัญหาด้านงบประมาณ เนื่องจากการลงพื้นที่ไปช่วยเหลือแต่ละครั้ง เราใช้งบประมาณของกระทรวง ที่พอมีอยู่บ้างไปช่วยเหลือก่อน ซึ่งงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือด้านภัยพิบัติจริงๆ กระทรวง พม. ยังไม่ได้รับ คืองบสำรองจ่าย ทาง กระทรวง จึงพยายามใช้งบที่พอมีอยู่ไปก่อน ซึ่งในอนาคตจะต้องประสานไปยังศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ที่ท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานศูนย์ฯ ว่ากระทรวง พม. จะต้องมีการบริหารจัดการสถานการณ์ตรงนี้อย่างไร เนื่องจากกลุ่มเปราะบางเวลาเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆ จะได้รับผลกระทบมากกว่าคนปกติ และต้องการได้รับการดูแลมากกว่า แม้ว่าบางรายอาจจะไม่ได้เคลื่อนย้ายไปอยู่ในศูนย์พักพิง แต่ก็ต้องมีการเคลื่อนย้ายไปอยู่บ้านญาติที่ปลอดภัย ซึ่งตรงนี้ต้องขอขอบคุณหน่วยงานในท้องถิ่นที่ให้ความช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายด้วย โดยหลังจากนี้จะต้องมีการสรุปข้อมูลให้ชัดเจนก่อนเข้าไปพูดคุยกับทางรัฐบาล