ในขณะที่การส่งออกของประเทศ คาดว่าจะติดลบร้อยละ 5 ถึงร้อยละ 10 เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ได้จำกัดเฉพาะพื้นที่อยู่ในประเทศจีนเหมือนที่ได้ประเมินไว้ แต่มีการลุกลามไปยังสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ซึ่งสหรัฐอเมริกาถือเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของประเทศไทย ทำให้การส่งออกคาดว่าจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
และสำหรับอัตราเงินเฟ้อในปีนี้คาดว่าจะติดลบร้อยละ 1.5 เนื่องจากการบริโภคในประเทศหดตัว เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด-19
นอกจากนี้ที่ประชุม กกร. ยังได้เสนอมาตรการเพิ่มเติมเพื่อที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น ในการช่วยเหลือด้านแรงงาน อาทิ การขอให้ภาครัฐออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการโรงแรมและการบริการท่องเที่ยวปิดกิจการ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกจ้างได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคมโดยผู้ประกอบการไม่ต้องแบกรับภาระไว้ทั้งหมด และเสนอให้นายจ้างจ่ายเงินสมทบเข้าประกันสังคมเหลือร้อยละ 1 เท่ากับผู้ประกันตน การขอปรับลดค่าไฟฟ้าเป็นร้อยละ 5 จากปัจจุบันที่ได้รับ อยู่ที่ร้อยละ 3 รวมถึงการขออนุญาตให้สามารถจ้างงานเป็นรายชั่วโมงได้ เพื่อป้องกันปัญหาการเลิกจ้างแรงงาน โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าจ้างเป็นรายวันขั้นต่ำวันละ 325 บาท
ซึ่งเชื่อว่ามาตรการที่จะออกมานี้ จะส่งผลดีกับทั้งนายจ้างและลูกจ้างให้ยังสามารถประคองกิจการได้ในช่วงที่เกิดวิกฤต โดยคาดว่าแรงงานในภาคบริการการ ท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการรายเล็กและรายกลาง ปัจจุบันจะได้รับผลกระทบตกงานถึง 7 ล้านคน จากแรงงานในระบบ 38 ล้านคน และหากวิกฤตยังยืดเยื้อออกไป เกิน 6 เดือนนี้ จะยิ่งมีแรงงานได้รับผลกระทบมากขึ้น จากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่อาจต้องลดกำลังการผลิตและลดพนักงานลง

