หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม “แท็กซี่หนุ่ม”อุบลฯ เก็บเงินสดกว่า 1 ล้านบาท คืน ‘สาวไทย’ เจ้าของธุรกิจร้านอาหารในญี่ปุ่น

 “แท็กซี่หนุ่ม”อุบลฯ เก็บเงินสดกว่า 1 ล้านบาท คืน ‘สาวไทย’ เจ้าของธุรกิจร้านอาหารในญี่ปุ่น

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 14 มกราคม 2563 ที่สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM 91 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร นายวิทูร จูงพันธ์ อายุ 22 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ สีเขียว-เหลือง 1มข 2890 กรุงเทพมหานคร ส่งคืนเงินสดธนบัตรสกุลเงิน ญี่ปุ่น 5,000,000 เยน พร้อมเงินบาทไทย 23,440 บาท และทรัพย์สินอื่นๆ มูลค่ารวมแล้วกว่า 1,500,000 บาท ให้กับนางธนิสรา อัตฤทธิ์ รองผู้จัดการ บริษัท  คะชิมะโกะ บิวดิ้ง จำกัด บริษัทในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งให้เช่าสำนักงานและให้เช่าที่จอดรถ  และมีธุรกิจร้านอาหารไทย ในอำเภอโทโยตะ จังหวัดไอจิ  ประเทศญี่ปุ่น หลังจากลืมไว้บนรถแท็กซี่ ขณะใช้บริการจาก สนามบินดอนเมือง ไปที่หมู่บ้าน มัณฑนา โครงการแจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ เมื่อช่วงค่ำ วานนี้ (13 ม.ค.) ที่ผ่านมา มีนางสาวไจตนย์ ศรีวังพล นางสาวจิตต์ผ่องใส ศรีวังพล นายสกล ถาวรกาญจน์ ผู้บริหารสถานีวิทยุฯ และสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยาน

นายวิทูร จูงพันธ์ อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 20 หมู่ 2 ต.ม่วงสามสิบ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี โชเฟอร์แท็กซี่ หนุ่มอุบลฯ น้ำใจงาม ขับขี่รถแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง ทะเบียน 1มข 2890 กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เมื่อเวลา ประมาณ 19.00 น. รับผู้โดยสารเป็นผู้ชาย ชาวต่างชาติ กับผู้หญิงคนไทย จากอาคาร 2 สนามบินดอนเมือง ไปส่งที่หมู่บ้าน มัณฑนา โครงการแจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์  ผู้โดยสารทั้ง 2 คน มีกระเป๋าสัมภาระหลายใบและถุงไม้กอล์ฟอัดแน่นมาเต็มรถทั้งกระเป๋าโปรงท้ายรถ และเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า เมื่อขับรถไปถึงที่หมาย ตนได้ช่วย ผู้ชาย ช่าวต่างชาติ ขนกระเป๋าลงจากรถ แล้วขับรถออกจากหมู่บ้าน กระทั่งมีผู้โดยสารอีกราย เป็นผู้หญิง เรียกใช้บริการแถวติวานนท์ซอย 3 ให้ไปส่งที่ ถนนสีลม ขณะที่ ผู้โดยสารรายดังกล่าวกำลังจะก้าวขึ้นมานั่งเบาะหน้า ก็พบกระเป๋าเดินทางวางอยู่บริเวณที่วางเท้า จึงรู้ว่า ผู้โดยสาร ชายชาวต่างชาติและหญิงไทย ลืมกระเป๋าไว้บนรถ 1 ใบ แต่ตอนนั้นไม่ได้วนกลับไปคืนของให้ เพราะคิดว่าเป็นเพียงกระเป๋าเสื้อผ้าธรรมดา จึงตัดสินใจไปส่งผู้โดยสารที่ถนนสีลมก่อน  หลังจากนั้นก็มีผู้โดยสารอีกรายเรียกใช้บริการ ให้ไปส่งที่ถนนข้าวสาร

โชเฟอร์แท็กซี่ หนุ่มอุบลฯ น้ำใจงาม กล่าวว่า  ขณะที่กำลังขับรถไปส่งที่ผู้โดยสารที่ ถนนข้าวสาร มีเจ้าหน้าที่สถานีวิทยุ สวพ.FM 91 โทรศัพท์เข้ามาหาพร้อมระบุว่า  มีผู้โดยสารลืมกระเป๋าเดินทาง หลุยส์ วิตตองไว้บนรถของตนจึงรีบขับไปส่งผู้โดยสาร แล้วนำกระเป๋าเข้ามาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่  เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. โดยเมื่อเปิดกระเป๋าตรวจสอบพบว่า ภายในกระเป๋าเดินทาง มีธนบัตรสกุลเงินญี่ปุ่น ฉบับละ 10,000 เยน มัดเป็นปึก จำนวน 5 มัด อยู่ในถุงกระดาษสีแดง-ขาว  ส่วนภายในกระเป๋าถือสีฟ้า  มีธนบัตรฉบับละ 20, 100, 500 และ 1,000 บาท จำนวนเงินรวม 23,440 บาท, เข็มขัด ยี่ห้อ หลุยส์วิตตอง, พลอย แดง จำนวน 2 เม็ดในถุงซิปพลาสติก และเสื้อผ้าสุภาพสตรี รู้สึกตื่นเต้นและตกใจมาก หลังจากทราบว่า เฉพาะเงินสด ทั้งหมดมูลค่ารวมแล้วกว่า 1,400,000 บาท แต่หากรวมมูลค่า กระเป๋า เข็มขัดหลุยส์วิตตอง  และพลอยแดง ด้วยแล้วมีค่าสูงถึง 1,500,000 บาท ขับรถมา 3 ปี

นางธนิสรา อัตฤทธิ์ อายุ  47 ปี เจ้าของธุรกิจร้านอาหารไทยและร้านนวดแผนไทย  ในอำเภอโทโยตะ จังหวัดไอจิ  ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า วานนี้ (13 ม.ค.) ตนเดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่น  ลงเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง  พร้อมกับนายอินะงุมะ จูนจิ  อายุ 64 ปี  ผู้จัดการ บริษัท  คะชิมะโกะ บิวดิ้ง จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่าสำนักงาน และให้เช่าที่จอดรถ  เรียกใช้บริการรถแท็กซี่จากสนามบินดอนเมืองอยู่หลายคันแต่ไม่มีรถคันไหนยอมไปส่งตน เนื่องจากมีกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่หลายใบ จำได้ว่าเรียกรถแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง ทะเบียน 1มข 2890 กรุงเทพมหานคร เป็นคันที่ 5 ถึงได้ขึ้นรถกลับบ้าน ตนนำสัมภาระใส่กระโปรงท้ายรถ และวางไว้หน้ารถเต็มคัน เมื่อถึงที่หมาย หมู่บ้านมัณฑนา เป็นจังหวะที่นัดกับช่างทำสวนไว้จึงรีบเข้าไปพูดคุยแล้วปล่อยให้ นายอินะงูมะ จูนจิ ขนกระเป๋ากับโชเฟอร์แท็กซี่ มารู้ตัวว่า ลืมหยิบกระเป๋า 1 ใบ ที่มีเงินญี่ปุ่น และเงินไทยไว้บนรถแท็กซี่ ตอนประมาณเกือบ 2 ทุ่ม เพราะคุยกับช่างทำสวนเสร็จและกำลังจะให้เงินเพื่อไปซื้อของ

“ตกใจมาก ตอนรู้ว่า ลืมกระเป๋าเงินล้านไว้บนรถแท็กซี่  เงินสดทั้งหมดเป็นเงินของตนที่เตรียมมาจัดการเรื่องบ้าน และส่วนหนึ่งเป็นของนายอินะงุมะ จูนจิ ที่เตรียมมาใช้จ่ายในการแข่งขัน ซีเนียร์ กอล์ฟ ไทย-ญี่ปุ่น เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของกลุ่มนักธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 มกราคม 2563 อีกทั้งมีนัดหมายร่วมตีกอล์ฟ กับ โปร ‘ประหยัด มากแสง’ และโปร ‘ถาวร วิรัตน์จันทร์’  ตนภาวนาขอให้ได้เงินสดและทรัพย์สินมีค่าคืน และเชื่อว่า แท็กซี่หนุ่ม คันที่ตนใช้บริการ จิตใจดี เพราะได้พูดคุยกันมาตลอดระหว่างนั่งรถจากสนามบิน กลับไปบ้านที่มัณฑนา แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์” นางงธนิสรา กล่าว

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img