นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณีจดหมายเปิดผนึกของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งระบุตอนหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือเผด็จการผู้สร้างประชาธิปไตย ว่า จากการที่ พล.อ.สมเจตน์ สรุปว่า พล.อ.ประยุทธ์ คือ เผด็จการผู้สร้างประชาธิปไตย ตนในฐานะประธาน นปช. ขอแสดงความคิดเห็นต่างจาก พล.อ.สมเจตน์ ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการยึดอำนาจวันที่ 19 ก.ย.49 และได้รับการแต่งตั้งเป็น สนช. และตำแหน่งอื่นใดที่คณะรัฐประหารแต่งตั้ง จนถึงการรัฐประหารวันที่ 22 พ.ค.57 พล.อ.สมเจตน์ ก็อยู่ภายใต้การแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารมาโดยตลอด ตนจึงไม่อยากจะบอกว่ามันเป็นบรรยากาศที่กำลังจะมีการแต่งตั้งวุฒิสภา (ส.ว.) ในระหว่างนี้อยู่ในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังพิจารณาถึงการแต่งตั้งตำแหน่ง ส.ว. 250 คนรอบใหม่
“วาทกรรมที่ พล.อ.สมเจตน์ ได้พูดว่า พล.อ.ประยุทธ์ คือ เผด็จการผู้สร้างประประชาธิปไตยนั้น สุภาษิตไทยได้เขียนเอาไว้ชัดเจนว่างาช้างไม่มีวันงอกจากปากหมาฉันใด ประชาธิปไตยก็ไม่มีวันออกมาจากเผด็จการฉันนั้น เพราะว่าไม่เคยมีเผด็จการที่ใดในโลกนี้ จะเป็นผู้สร้างประชาธิปไตย ผู้ที่สร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง คือ ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ประชาชนผู้ได้รับการกดขี่คือผู้สร้างประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นการสร้างวาทกรรมว่าเผด็จการคือผู้สร้างประชาธิปไตย จึงเป็นวาทกรรมที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งกำลังจะมีขึ้น เพราะฉะนั้นวันนี้ประชาชนคนไทยต้องเข้าใจเหมือนกันว่าเผด็จการไม่มีวันจะสร้างประชาธิปไตย มีแต่จะสืบทอดอำนาจของตนเอง แม้กระทั่งล่าสุดพรรคพลังประชารัฐไปพูดที่ภาคใต้ก็บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ คือ ผู้สืบทอดผลประโยชน์ของประชาชน หรือแม้กระทั่งวาทกรรม ว่า ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ แต่เป็นการสืบทอดเจตนา จนกระทั่งถึงวาทกรรมว่าเผด็จการคือผู้สร้างประชาธิปไตย จึงเป็นวาทกรรมที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ดังนั้นเป็นผลประโยชน์เฉพาะหน้า ตนไม่อาจให้เรื่องนี้ผ่านเลยต่อไปได้ ดังนั้นตนเห็นว่าวันนี้ต้องเข้าใจพร้อมกัน และตนไม่มีวันจะเห็นด้วย และขอเรียกร้องฝ่ายประชาธิปไตย วันที่ 24 มี.ค.62 ต้องออกมาร่วมสร้างประชาธิปไตย เพราะเผด็จการที่ พล.อ.สมเจตน์ ได้หยิบยกมากล่าวอ้างขึ้นมานั้น ไม่มีวันจะสร้างประชาธิปไตยได้โดยเด็ดขาด
“ความจริง พล.อ.สมเจตน์ ท่านไม่เคยอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตย ไม่เคยอยู่ในสนามการเลือกตั้งของประชาชนแม้แต่เพียงครั้งเดียว อำนาจนอกเหนือจากตำแหน่งทางราชการก็ล้วนมาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารทั้ง 2 ชุดที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นผมไม่อาจที่จะยอมรับถึงถ้อยคำของจดหมายในฉบับนี้ได้ จึงระบุชัดเจนว่าไม่เห็นด้วย และยืนยันว่างาช้างไม่ออกจากปากหมาฉันใด ประชาธิปไตยไม่มีวันที่จะงอกออกมาจากเผด็จการฉันนั้น ประชาธิปไตยต้องได้มาจากเสียงของประชาชน ดังนั้นวันที่ 24 มี.ค.62 ขอเสียงฝ่ายประชาธิปไตยเดินทางไปถึง 376 เสียง เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ และเป็นการสั่งสอนเผด็จการให้เข็ดหลาบว่าอย่าคิดกระทำการยึดอำนาจจากประชาชนอีก” ประธาน นปช.กล่าว
