เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กล่าวถึงภารกิจของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. , พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภ.8 , พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.ตชด. , พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. , พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 และคณะนายตำรวจ ในการเข้าพบเยี่ยมคาราวะ พล.ต.ท.ออง วีน อู (Pol.Lt.Gen.Aung Win Oo) ผบ.ตร.เมียนมา พร้อมคณะของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และเพื่อหารือเชิงนโยบายในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการป้องกันปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ความผิดเกี่ยวกับคนเข้าเมือง และอาชญากรรมที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศตามพื้นที่แนวพรมแดน ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ว่า
ฝ่ายไทยและฝ่ายเมียนมา ได้มีข้อหารือในประเด็นต่างๆ ประกอบด้านการประสานงานความร่วมมือกรณีคนพม่ากระทำผิดกฎหมายคนเข้าเมืองของไทย ทั้งสองประเทศจะมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
การประสานการปฏิบัติความร่วมกันในการป้องกันการนำเข้าตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด ซึ่งฝ่ายไทยและเมียนมา พร้อมให้ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารการประสานด้านการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามแนวชายแดนการหารือในการลาดตระเวนร่วมของหน่วยกำลังทั้งสองฝ่าย ทั้งทางบกและทางน้ำ เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยตามแนวชายแดนรวมทั้งพัฒนาความสัมพันธ์ ต้องมีการแลกเปลี่ยนกันการเยือนกันโดยจัดกิจกรรมร่วมกันเช่น แข่งกีฬา การทัศนศึกษา การประสานงานความร่วมมือเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจยานพาหนะที่ผ่าน เข้า – ออก ชายแดน รวมทั้งฝ่ายไทยยังขอความร่วมมือให้ฝ่ายเมียนมาในการรณรงค์แก้ไขปัญหาหมอกควันอีกส่วนหนึ่งด้วย
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า การไปเยือนคณะ ตำรวจเมียนมาในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการยกระดับความสัมพันธ์อันดีของ ตำรวจทั้งสองประเทศอย่างจริงจัง รวมทั้งเพื่อเป็นการให้คำมั่นสัญญาในการที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และเป็นการกระดับการปฏิบัติงานร่วมกัน เชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน อาทิเช่น การส่ง ตำรวจเมียนมาร์ไปเรียน ณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ การเข้าร่วมแข่งขันยิงปืนต่างๆ เป็นต้น
อีกทั้งที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ประกาศกวาดล้างปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติ ซึ่งเป็นนโยบายบริหารราชการหลัก ของ ผบ.ตร. ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา และสนองนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลซึ่งกำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติระหว่างประเทศตามแนวชายแดน เช่น การลักลอบขนคนเข้าเมือง การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมอื่นๆ
โดยจากสถิติคดีตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ในรอบ 3 เดือน( ต.ค.-ธ.ค.61) ประกอบด้วย พรบ.ยาเสพติด พรบ.คนเข้าเมือง พรบ.อาวุธสงครามและวัตถุระเบิด พรบ.ป่าไม้ฯ พรบ.ศุลกากร และ การโจรกรรมรถยนต์
ตลอดการหารือทั้งสองฝ่ายได้ตระหนักถึงปัญหาสำคัญที่กระทบต่อความมั่นคงร่วมกัน และเห็นชอบร่วมกันให้มีการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันด้านต่างๆ โดยให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล และองค์ความรู้ ให้สอดคล้องกับปัญหาอาชญากรรม และด้านความมั่นคง รวมทั้งเพิ่มความร่วมมืออย่างจริงจังในการจัดระเบียบชายแดน เพื่อป้องกัน สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด การค้ามนุษย์ และการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ความร่วมมือกันในการแก้ปัญหา ด้านแรงงาน และกลุ่มบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของทั้งสองประเทศ