ที่ กองบังคับการปราบปราม พลตำรวจตรี จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ได้สั่งการให้ พันตำรวจเอก แมน เม่นแย้ม ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.4 บก.ป.) และ พันตำรวจโท ประเสริฐ หวังบุญสร้าง สารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม (สว.กก.4 บก.ป.) ได้นำกำลังเข้าจับกุม นายเมฆ เชื้อจีน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 653 หมู่ 2 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ จ.4332/2558 ลงวันที่ 10 เมษายน 2558 ข้อหา “ร่วมกันทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาเชื่อว่าได้มีการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้น” ได้ที่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 22 ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
ทั้งนี้เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2558 นายเมฆฯ ได้รับการว่าจ้างจาก น.ส.ชนิตา กินนิส อายุ 41 ปี ที่อ้างตัวเป็นทายาทมรดกร้อยล้าน ของตระกูลปทุมวาสนา เจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ที่ถูกฆ่ายกครัว 5 ศพ เมื่อปี 2552 ให้จัดฉากสร้างเรื่องอุ้มตัว น.ส.ชนิตาฯ จากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขารามอินทรา
พาขึ้นรถแท็กซี่ไปรุมทำร้าย โดยใช้เทปใสรัดข้อมือ รัดคอ และตีด้วยของแข็งจนสลบ จากนั้นนำร่างไปทิ้งในซอยเปลี่ยวข้างสนามกอล์ฟในพื้นที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ต่อมาเจ้าหน้าที่จับกุม น.ส.ชนิตาฯ ไว้ได้โดยเจ้าตัวรับว่าที่ทำไปเพราะต้องการประชดแฟนหนุ่ม จากนั้นศาลได้ออกหมายจับนายเมฆฯ ไว้ กระทั่งชุดจับกุมสืบทราบว่านายเมฆฯ หลบหนีมากบดานใน จ.กำแพงเพชร จึงนำกำลังจับกุมดังกล่าว
สอบสวนนายเมฆฯ ให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับ น.ส.ชนิตาฯ ผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ โดยได้ติดต่อให้อุ้มนายนิวฯ ซึ่งเป็นแฟนของ น.ส.ชนิตาฯ แต่ตนไม่สามารถทำได้ นางสาวชนิตาฯ จึงเปลี่ยนแผนให้ตนทำทีเป็นลักพาตัวเองแทน ได้ค่าจ้างจำนวน 50,000 บาท
นายเมฆฯ ให้การด้วยว่า ระหว่างหลบหนียังได้ก่อเหตุฉ้อโกงหลอกขายพระเครื่อง ผ่านเฟซบุ๊กให้กับประชาชนทั่วไป โดยจะถ่ายภาพพระเครื่องลงประกาศขายในเพจกลุ่มซื้อขายพระเครื่อง หากมีผู้หลงเชื่อโอนเงินมาให้ก็จะปิดเฟซบุ๊กหลบหนี มีผู้เสียหายที่หลงเชื่อแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ จำนวน 2 ราย
นอกจากนี้ตรวจสอบพบว่า นายเมฆฯ ยังมีหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 238/2561 ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “กรรโชกทรัพย์ ” อีกด้วย จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง