ณ​ กอง​บังคับการ​ตำรวจ​สายตรวจ​และปฏิบัติ​การ​พิเศษ​ (บก.สปพ.)​ หรือ​ (191) ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ​ พลตำรวจตรี​ สำราญ นวลมา ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กอง​บัญชาการ​ตำรวจ​นครบาล​ (ผบก.สปพ.บช.น.)​ หรือ​ (191) พร้อมด้วย​ พันตำรวจเอก​ สมบูรณ์ เทียนขาว ผู้กำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กอง​บัญชาการ​ตำรวจ​นครบาล​ (ผกก.สายตรวจ​ บก.สปพ.บช.น.),พันตำรวจ​โท​ อานันท์จักร์ กนกนพวัชร์,พัน​ตำรวจ​โท​ วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ รองผู้กำกับการงานสายตรวจ​ 1ฯ, พัน​ตำรวจ​โท​ นฤวัต พุทธวิโร สารวัตรงานสายตรวจ 1​ฯ,พัน​ตำรวจ​ตรี​ จักรกริช เวียงสมุทร สารวัตร​งานสายตรวจ 2ฯ, พัน​ตำรวจ​ตรี​ อัษฎาวุธ ขวัญเมือง สารวัตร​งานสายตรวจ 3ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.สายตรวจ บก.สปพ. ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 2 คดี

1. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนหาข่าวงานสายตรวจ 1 กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ​ สามารถจับกุมผู้ต้องหา​ลักลอบผลิตและจำหน่ายแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอมและแผ่นป้ายทะเบียนรถปลอม ประกาศขายทางโลกโซเชียลออนไลน์ให้แก่บุคคลทั่วไป พร้อมขยายผลการตรวจยึดรถ แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอมและแผ่นป้ายทะเบียนปลอมจากเครือข่ายลูกค้าผู้สั่งซื้อและนำไปใช้จริง

โดยสามารถจับกุม นายพศ โภคินอัคร อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี​ ที่ จ.572/2561 ลง 29 พ.ย.61 ในข้อหา ปลอม และใช้เอกสารราชการปลอม และได้ขอหมายค้นศาลจังหวัดอุดรธานีที่ 15/2562 ลง 25 ม.ค.62 เข้าทำการตรวจค้นบ้านนายพศฯ ที่ จว.อุดรธานี สามารถตรวจยึดอุปกรณ์ต้องสงสัยในการจัดทำแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอม ได้แก่ คอมพิวเตอร์โน็ตบุ๊ค 2 เครื่อง, ปริ๊นเตอร์ 3 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง, แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีรถ ยังไม่ระบุทะเบียน 1 แผ่น, สำเนารายการจดทะเบียนรถยนต์2 แผ่น, สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม, วติ๊กเกอร์ EMS post 35 แผ่น,ซองเอกสารสีน้ำตาล 59 ซอง, กระดาษการ์ดขาว 53 แผ่น และจากการสืบสวนขยายผลจนทราบถึงพาหนะที่นำทะเบียนและแผ่นป้ายปลอมไปใช้ เป็นรถยนต์ 4 คัน และ รถจักรยานยนต์ 1 คัน นำตัวผู้ต้องหาส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

2​.เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 3 กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ​ ร่วมทำการสืบสวนจับกุม​ “แก๊งค์เฉาก๊วย​ ดอกเบี้ยโหดย่านฝั่งธนฯ” โดยได้รับแจ้งว่า มีนายทุนชื่อ นายฤาชัยหรือต่อ กอบธรรม อายุ 31 ปี “ฉายา เฉาก๊วย” นำเงินมาปล่อยกู้โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและปล่อยกู้โดยใช้รถเป็นหลักประกันไว้ ในอัตราร้อยละ 30 บาทต่อเดือน โดยใช้ชื่อนามบัตรว่า ทรัพย์มณีเงินทุน ซึ่งนายฤาชัยฯ จะมีลูกน้องร่วมทำงานในการปล่อยกู้ฯ ต่อมาจึงได้วางแผนทำการจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสุขสวัสดิ์ พร้อมจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 5 ราย และของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ 3 คัน,เอกสารกู้ยืมเงินจำนำรถ,นามบัตรทรัพย์มณีเงินทุน 3,000 ใบ,สมุดบัญชีธนาคาร,เอกสารการกู้ยืมเงิน พร้อมทั้งตรวจยึดรถที่ใช้ในการกระทำความผิดได้ 4 คัน นำตัวผู้ต้องหาส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.สำราญฯ​ กล่าวว่า​ หากประชาชนท่านใด พบเห็น หรือมีเบาะแส เกี่ยวกับการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือโทรศัพท์สายด่วน 191