นางไพรวรรณ พลวัน รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยถึงกรณีหญิงชราวัย 90 ปี ต้องรับภาระเพียงลำพังเลี้ยงดูลูกชายวัย 67 ปี ที่ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ ร่างกายพิการ ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ ทั้ง 2 ชีวิตอาศัยในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรมใกล้ผุพัง ครอบครัวมีฐานะยากจน อาศัยเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและคนพิการใช้ประทังชีวิต ที่จังหวัดพิจิตร และกรณีพบครอบครัวยากไร้ อาศัยอยู่รวมกัน 4 ชีวิต ได้แก่ หญิงชราวัย 69 ปี พิการขาทั้ง 2 ข้างอ่อนแรง ไม่สามารถทำงานได้ หญิงชราวัย 63 ปี ที่ทำหน้าที่เป็นเสาหลัก  หาเลี้ยงครอบครัว หลานสาวคนโตวัย 13 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.1 และหลานสาวคนเล็กวัย 2 ขวบ ทั้ง 4 ชีวิต อาศัยในเพิงสังกะสีสภาพเก่าทรุดโทรม บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่ง ไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา และห้องน้ำใช้ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดพิจิตร และกรณีหญิงชราวัย 80 ปี มีอาชีพเก็บของเก่าขาย เพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว และเลี้ยงดูเหลนวัย 5 ขวบ ที่ยังไม่ได้เรียนหนังสือ ซึ่งแม่ของเด็กหญิงนำมาทิ้งไว้ให้เลี้ยงดูตั้งแต่อายุเพียง 3 เดือน และทอดทิ้งหายไปไม่เคยกลับมาเหลียวแล ทั้ง 2 ชีวิต อาศัยในห้องเช่าสภาพเก่าและคับแคบ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดชลบุรี นั้น ตนได้กำชับให้ทีม One Home ทั้ง 2 จังหวัดพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าวทั้งหมด เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านเด็ก คนพิการ และผู้สูงอายุของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และอุปกรณ์ทางการศึกษา อีกทั้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยของผู้ที่ป่วยทั้งหมดอย่างใกล้ชิด และช่วยเหลือในเรื่องการศึกษาของเด็กทั้งหมดอย่างต่อเนื่องในระยะยาว รวมทั้ง การปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้มีความมั่นคง แข็งแรง ถูกสุขลักษณะ และเหมาะสม รวมทั้ง ให้คำแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม พร้อมให้คำแนะนำปรึกษาแก่ครอบครัวในเรื่องการส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคงในระยะยาวต่อไป

สำหรับกรณี 2 สามี-ภรรยาแก่ชราวัย 70 ปี และ 71 ปี อาศัยอยู่กันเพียงลำพังในกระต๊อบสภาพเก่าทรุดโทรม  ได้ประกาศตามหาลูกสาว 3 คน ที่พลัดพรากกันนานกว่า 20 ปี เนื่องจากตนเองย้ายที่อยู่อาศัย และทำเบอร์โทรศัพท์ที่ลูกให้ไว้สูญหาย จึงไม่สามารถติดต่อกันได้ ที่จังหวัดสงขลา นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของจังหวัดสงขลา (พมจ.สงขลา) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคม เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านผู้สูงอายุ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อีกทั้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการติดตามหาลูกสาวที่พลัดพรากกันทั้ง 3 คน อย่างเร่งด่วน  และการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้มีความมั่นคง แข็งแรง ถูกสุขลักษณะ และเหมาะสม พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม