เมื่อวันเพ็ญเดือนสิบสองเวียนมา ชาวนครไทยรวมใจเดินเท้าปักธงชัยบนยอดผาเขาช้างล้วง สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและศรัทธา สืบทอดตำนานพ่อขุนบางกลางท่าว—ผู้ก่อรากราชอาณาจักรสุโขทัย สะท้อนความผูกพันระหว่างผู้คน ผืนป่า และความทรงจำที่ไม่เคยเลือน

ท่ามกลางผืนป่าอันเขียวขจีของอุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก มีหน้าผาหินสัณฐานประหลาดดั่งช้างหมอบสูงตระหง่านที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่า “เขาช้างล้วง” สถานที่ที่ไม่ได้งดงามเพียงสายตา แต่ยังเปี่ยมคุณค่าทางจิตวิญญาณและประวัติศาสตร์
ที่นี่คือดินแดนตำนานของ พ่อขุนบางกลางท่าว เจ้าผู้ครองเมืองบางยางในอดีต ซึ่งต่อมากลายเป็น พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรสุโขทัย วีรกรรมครั้งสำคัญถูกเล่าขานว่า กองทัพของพระองค์ได้เข้าต่อสู้เพื่อยึดพื้นที่เมืองนครไทยจากกลุ่มชนเดิม และชัยชนะครั้งนั้นถูกประกาศบนยอดเขาช้างล้วง ด้วยการนำผ้าคาดเอวของพระองค์ผูกปลายไม้ปักบนยอดเขา เป็นสัญลักษณ์ของการประกาศศักดิ์ศรีและการกอบกู้บ้านเมือง

พิธีแห่งศรัทธาที่สืบทอดไม่สิ้นทุกปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12—ตรงกับวันลอยกระทง ชาวนครไทยจะร่วมแรงร่วมใจ ทอผืนธงสีขาวขนาดใหญ่ 3 ผืน และออกเดินเท้าขึ้นภูประมาณ 3.5 กิโลเมตร จากหน่วยพิทักษ์อุทยาน ชก.2 เพื่อปักธงชัยบนยอดทั้งสาม ได้แก่ เขาฉันเพล, เขาย่านไฮและเขาช้างล้วง
การเดินทางนี้ไม่ใช่เพียงพิธีกรรม หากแต่เป็นการรำลึกถึงต้นตระกูลสุโขทัย บ่งบอกถึงความสามัคคีของคนท้องถิ่น และเป็นเครื่องยืนยันว่าศรัทธาที่มีต่อพ่อขุนบางกลางท่าวยังไม่เคยจางหาย
ยอดหินทั้งสามสูงราว 10 เมตร ตั้งเรียงรายเหนือหุบป่า สามารถมองเห็นวิวเมืองนครไทยได้กว้างไกลสุดสายตา ยามธงสีขาวสะบัดต้องแสงลมฤดูหนาว จึงราวกับเป็นสัญญาณแห่งความสงบ กตัญญู และความเชื่อมโยงจากอดีตสู่ปัจจุบัน

วัฒนธรรมที่ไม่ได้มีไว้เพียงจดจำ — แต่ต้องเดินต่อ
ประเพณี “ปักธงชัยวันเพ็ญเดือนสิบสอง” ไม่ได้เพียงย้ำถึงความเป็นมาของแผ่นดินต้นกำเนิดสุโขทัยเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนของการเชื่อมโยงผู้คนกับผืนแผ่นดิน และการรู้คุณรากเหง้าอย่างงดงาม
ณ ดินแดนที่สายลมพัดผ่านทิวเขา ศรัทธายังคงปลิวไสวบนยอดผาเช่นเดียวกับผืนธงที่ยังไม่เคยปล่อยตก
ขอบคุณข้อมูล สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11(พิษณุโลก)

