หากใครได้ติดตามข่าวช่วงเทศกาลทอดกฐิน จะเจอข่าวฉาวจากวงการสงฆ์อย่างน้อย 2-3 ข่าวที่สื่อหลายสำนักนำเสนอว่าเจ้าอาวาสวัดหลายแห่งยักยอกเงินวัดไปใช้ส่วนตัวหลายแสนบาท บางรูปสารภาพว่านำเงินวัดไปใช้ส่วนตัวก่อนแล้วจะหามาคืน แต่ไม่สามารถหามาใช้คืนได้ ถูกชาวบ้านขับไล่ สึกหนีคดีไป

แต่ไม่ได้ปรากฏเป็นข่าวใหญ่ เพราะถูกข่าวแก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ และความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ชิงพื้นที่ข่าวไป ทำให้ข่าวพระฉาวโฉ่ถูกกลบไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะเป็นข่าวความคืบหน้าคดีสมีอลงกตที่นอนอยู่ในคุก หรือข่าวพระชั้นผู้ใหญ่ที่มีสมณศักดิ์สูงหลายรูปเกี่ยวพันกับสีกากอล์ฟ พลอยเงียบหายไปด้วย
รวมถึงข่าวพระคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี ที่พุทธศาสนิกชนทุกระดับให้ความศรัทธาในคำสอนและวัตรปฏิบัติ ถูกสีกาที่เคยใกล้ชิดแจ้งความดำเนินคดีเกี่ยวกับเงินบริจาคและวัตรปฏิบัติที่มีสีกาดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งพุทธศาสนิกชนลุ้นอยู่ว่าจะลงเอยแบบไหน เพราะนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม และนางกัญญาภัค ชไนเดอร์ ผู้แจ้งความ เข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงพฤติกรรมพระคึกฤทธิ์ใช้เงินบริจาคของวัดโดยมิชอบไปหลายสัปดาห์แล้ว
จังหวะนี้เชื่อว่าพุทธศาสนิกชนยังคงลุ้นว่า สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติและตำรวจสอบสวนกลางยังคงลุยสะสางเกี่ยวกับพระสงฆ์ที่ประพฤตินอกรีต มีเรื่องร้องเรียนกว่า 300 เรื่องอยู่หรือไม่ เพราะกรณีร้องเรียนถึงพฤติกรรมของพระรูปหนึ่ง มีสมณศักดิ์เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดดังในเมืองนครศรีธรรมราช แถมมีตำแหน่งเจ้าคณะฯ พ่วงท้าย ชาวเมืองคอนส่งเรื่องร้องเรียนไปถึงสำนักพระพุทธฯ และตำรวจไปบ่อยครั้ง รวมถึงร้องเรียนผ่านสื่อและมีการนำเสนอไปกว่า 1 เดือนแล้ว แต่ไร้ความคืบหน้า พระรูปดังกล่าวยังใช้ชีวิตแบบปกติ ทั้งเชยชมสีกาและชื่นชมบุตร ที่เป็นผู้ให้กำเนิดหลังครองผ้าเหลืองได้ไม่นาน
ผู้ร้องเรียนระบุถึงพฤติกรรมพระรูปนี้ว่า มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่งในครศรีธรรมราช พ่วงด้วยตำแหน่งเจ้าคณะฯ มีความสัมพันธ์กับสีกาจุมานานหลายปี มีบุตรชายด้วยกัน อายุประมาณ 10 ขวบ พระรูปนี้จะใช้เงินที่พุทธศาสนิกชนบริจาคทำบุญเลี้ยงดูลูกเมียเป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้เป็นที่ต้องสงสัยถึงความร่ำรวยของสีกาจุ มีการวางแผนเปิดบริษัททำธุรกิจหลายด้าน เปิดสาขาบริษัทหลายแห่งให้ญาติพี่น้องของสีกาจุบริหารจัดการ เป็นที่ทราบกันดีว่าผลประกอบการของบริษัทไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แต่มีเงินหมุนเวียนผ่านบริษัทแบบเป็นกอบเป็นกำ ซื้อบ้านหรูหลายหลังและทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนมาก
ผู้ร้องเรียนยังระบุอีกว่า เพื่อป้องกันเสียงครหาว่าสีกาจุมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจ้าคณะฯ ถึงขั้นตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ได้ว่าจ้างชายหนุ่มมาแต่งงานด้วย หลังจากคลอดลูกแล้วได้แยกทางกัน สีกาจุเลี้ยงดูบุตรชาย โดยมีเจ้าคณะฯ เป็นกำลังหนุนที่สำคัญด้านการเงิน
“ต่อมาข่าวความสัมพันธ์ระหว่างสีกาจุกับเจ้าคณะฯ แพร่สะพัดเป็นวงกว้าง แต่เจ้าคณะฯ ต้องการรักษาสถานะความเป็นพระและเจ้าคณะฯ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเงินทำบุญ ได้ว่าจ้างพระรูปหนึ่งให้ลาสิกขามาเป็นสามีภรรยาทิพย์กับสีกาจุ เพื่อกลบข่าวความสัมพันธ์กับเจ้าคณะฯ” ผู้ร้องเรียนระบุ
ผู้ร้องบอกว่ามีชาวบ้านรอบ ๆ วัดที่ทนเห็นพฤติกรรมไม่เกรงกลัวนรกของเจ้าคณะฯ และสีกาจุไม่ไหว ได้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน ทั้งตำรวจ สำนักพุทธฯ เถรสมาคม และพระวินยาธิการ (ตำรวจพระ) แต่เรื่องกลับเงียบ ไม่สามารถไปต่อได้ เพราะมีพระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชบางรูปให้การช่วยเหลือคอยปกปิดความผิดให้ เพราะเอื้อผลประโยชน์กันอยู่
ซึ่งข้อร้องเรียนนี้ หากทางตำรวจ สำนักพุทธฯ และพระชั้นผู้ใหญ่ที่มีอำนาจตรวจสอบจะดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง ทำได้ไม่ยาก เพราะมีหลักฐานทั้งเอกสารเส้นทางการเงิน และหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ด้วยการตรวจดีเอ็นเอ
ดังนั้น เพื่อไม่ให้วงการพระสงฆ์ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงทางพระพุทธศาสนาของภาคใต้มัวหมอง ขอวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสำนักพุทธฯ และตำรวจ โดยเฉพาะ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ที่ได้ฉายาว่า “มือปราบแครอท” หรือ “มือปราบอลัชชี” ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเชื่อถืออย่างสูง ช่วยเร่งตรวจสอบและขจัดมารศาสนาที่มีสมณศักดิ์ระดับเจ้าคณะฯ รูปนี้โดยเร็วด้วย
“จอมมารน้อย” เคยนำเสนอขอให้จัดการก่อนถึงเทศกาลทอดกฐิน เพราะเกรงว่าจะนำเงินกฐินไปปรนเปรอสีกาและลูก แต่ยังไร้ความคืบหน้า ดังนั้น พุทธศาสนิกชนที่ร้องเรียนต้องทำใจ เพราะเชื่อว่าเงินกฐินวัดแห่งนี้คงถูกส่งต่อไปอยู่ในมือสีกาของเจ้าคณะฯ รูปนี้เรียบร้อยแล้ว!!!


