วันนี้ (29 ส.ค. 68) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานก.ตร. สั่งปิดการประชุมไป และมีการแจ้งกำหนดนัดในวันอาทิตย์ที่ 31 ส.ค. นี้ เวลา 15.00 น. โดยในที่ประชุม ก.ตร. รับทราบกำหนดนัดดังกล่าวแล้ว ถือว่ากรรมการทุกคนรับทราบแล้ว ทั้งนี้ ตามกฎหมายวิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง การประชุมก็ยังมีการเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ นี้

“การประชุมในวันอาทิตย์นี้ เป็นวาระสืบเนื่องจากการประชุมเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นมีวาระอยู่แล้ว ส่วนการจะขยายเวลาการแต่งตั้งระดับชั้นนายพลออกไปหรือจะดำเนินการอย่างไร ก็เป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับ อะไรที่อยู่ในอำนาจของผู้มีอำนาจท่านใดก็สามารถใช้อำนาจตามกรอบกฏหมายได้ส่วนใครจะมาเป็นประธานตอนนี้ขอตรวจสอบในข้อกฎหมายก่อน เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีคณะรัฐมนตรีรักษาการ ว่าขอบเขตในการปฎิบัติหน้าที่เป็นยังไง แต่เชื่อว่าทำหน้าที่ได้ปกติ เพราะเป็นการใช้อำนาจในทางปกครอง” พล.ต.ท.อนุชา ระบุ

มีรายงานว่าวันนี้ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้นัดหน่วยงานที่เกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ มาประชุมด่วน เพื่อนำคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ กรณีให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะพ้นสภาพฯ และรายละเอียดของข้อกฏหมายในคำสั่งดังกล่าวมาพิจารณาในรายละเอียด เพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในวันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคมนี้เวลา 15.00 น. ว่าสามารถกระทำได้หรือไม่
ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน 2560 มาตรา 169 ระบุว่า “ในระหว่างที่ยังไม่มีคณะรัฐมนตรีใหม่ ข้อจำกัดของรัฐบาลรักษาการ: รัฐบาลที่พันจากตำแหน่งแล้วจะ ไม่มีอำนาจเต็มในบางเรื่อง เช่น ไม่สามารถออกนโยบายใหม่ที่มีผลผูกพันในระยะยาว ไม่สามารถแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงโดยไม่มีเหตุจำเป็น ไม่ควรใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมาก ยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน” นััน เป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ในกรณียุบสภาและการแต่งตั้งที่ต้องเข้าคณะรัฐมนตรีเท่านั้น มิได้มีข้อห้าม ประกอบกับด้วยกฎหมายตำรวจและการแต่งตั้งข้าราชการทหารโดยสภากลาโหมแต่อย่างใดที่คณะที่ประชุมใช้เวลาถกเถียงกันในข้อกฎหมาย จนได้ข้อยุติว่าสามารถกระทำได้
โดย นายภูมิธรรม จะเดินทางมาเป็นประธานหรือไม่ก็ต้องรอดู หากไม่เดินทางมา ผบ.ตร. ก็สามารถทำหน้าที่ประธานการประชุม ก.ตร. วาระการแต่งตั้งระดับ รอง ผบ.ตร. ถึง ผบก. วาระประจำปี 2568 ได้ โดยชอบตามเจตนาของกฎหมาย

สำหรับบัญชีผู้เหมาะสมนั้น มีรายงานว่าจะใช้บัญชีเดิมที่ประชุมคัดเลือกผู้เหมาะสมไว้ถูกต้องเรียบร้อยแล้วสามารถ นำมาพิจารณาในที่ประชุม ก.ตร. ได้เลย เว้นแต่หากกรรมการท่านใดหรือกรรมการส่วนมากเห็นว่าบุคคลในบางตำแหน่งไม่เหมาะสมและเห็นว่าจะต้องมีการแก้ไขเปลี่ยนตัวจะต้องนำกลับไปเข้ากลั่นกรองเพื่อทำบัญชีผู้เหมาะสมเป็นการเฉพาะรายใหม่ แล้วนำกลับมาเข้าที่ประชุม ก.ตร. เพื่อพิจารณามีมติต่อไป ฉะนั้น โดยสรุปที่ประชุมของคณะกฎหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า สามารถประชุม ก.ตร. ในวันที่ 31 ส.ค. นี้ เวลา 15.00 น. โดยใช้บัญชีผู้เหมาะสมเดิมประชุมได้ตามปกติ

