พฤติกรรมมาเฟีย.!!! ชายฉกรรจ์นับสิบ ล้อมกรอบ ขู่ยิงนักข่าวสาว อัมรินทร์ทีวี ขณะเข้ารายงานข่าวเหตุยิงกัน

เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2568 ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์รายงายว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 เม.ย.นี้ น.ส.ดาราวรรณ ขันติวงษ์ ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี เปิดเผยว่าตนได้รับมอบหมายให้ไปติดตามเกี่ยวกับคดี ซึ่งเกิดเหตุอยู่ที่พื้นที่เหตุยิงกันภายในงานคอนเสิร์ตสงกรานต์ บริเวณลานจอดรถตลาดตะวันนา 2 เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 6 เมษายน นี้
โดยคดีนี้มีคนถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งตนและทีมข่าวได้เดินทางเข้าไปตามปกติ โดยพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้มีการปิดรั้วหรือมีสัญลักษณ์บอกว่าห้ามเข้าแต่อย่างใด และมีชาวบ้านเดินเข้าออกปกติ พอเดินทางไปถึงก็มีผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 50 ปี ขี่รถจักรยานยนต์มาแล้วแสดงตัวว่าเป็นผู้จัดงาน จึงเห็นว่าเป็นเรื่องดีที่จะได้คุยว่าเกิดอะไรขึ้น โดยตนเดินไปกับชายคนดังกล่าวไปพร้อมกับช่างภาพ ซึ่งช่วงที่กำลังพูดคุยช่างภาพก็ได้ทำการเก็บภาพปกติโดยมีการห้อยกล้องไว้ข้างตัว

น.ส.ดาราวรรณ เปิดเผยต่ออีกว่า ต่อมาก็มีผู้ชายอีกคนหนึ่งใส่เสื้อสีขาวเดินมา แล้วพูดว่า “คุณแอบถ่าย” ด้วยอารมณ์โมโห ตนจึงบอกให้ใจเย็นๆ ซึ่งตอนนั้นตนยอมรับว่าก็เริ่มใจสั่น แต่พยายามบอกให้อีกฝ่ายใจเย็นๆ หากมีอะไรที่ผิดพลาดก็ต้องขอโทษด้วย แต่อีกฝ่ายยืนยันว่าให้ลบภาพ ด้วยความบริสุทธิ์ใจทีมข่าวตนก็เลยลบ ทั้งนี้ทางผู้จัดก็ได้มีการเอาเมโมรี่การ์ดของทีมไปเปิดเช็กกับโน๊ตบุ๊ก รวมถึงตอนนั้นมีทีมงานอยู่ประมาณ 10 กว่าคน โดยมีเราอยู่ตรงกลางไม่มีทางให้เราหลบออกมาได้เลย ทำให้รู้สึกกลัว แค่จะเอาโทรศัพท์ถ่ายคลิปเป็นหลักฐานยังทำไม่ได้ ได้แต่ยืนขอโทษ อีกทั้งทางผู้จัดยังมีการพูดคุยโทรศัพท์เป็นภาษาใต้ประมาณว่า “จะยิงหัวนิ….”ตนก็พยายามอธิบายกับฝั่งผู้จัดว่าเราไม่ได้จะมาสร้างความเดือดร้อน อีกทั้งข่าวที่ต้องทำเป็นเรื่องคนก่อเหตุและผู้เสียชีวิต ไม่ได้กี่ยวข้องกับผู้จัดงานเลย แต่อีกฝ่ายไม่ฟัง ถึงแม้จะไม่มีการทำร้ายร่างกาย แต่ตนเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ พอพูดขู่ขนาดนั้น ตนที่ใช้ชีวิตคนเดียวจะทำอย่างไร และทีมงานอีกสามคน ไม่รู้เลยว่าจะรอดมาจากตรงนั้นหรือเปล่า ต้องยกมือไหว้ขอโทษทั้งน้ำตา แต่เขาก็ไม่ยอม จนมีจังหวะทางผู้จัดมีการจะวิ่งไปหยิบอะไรบางอย่าง แต่มีชายสื้อขาวดึงเสื้อห้ามไว้ ตนจึงบอกว่าถ้าอย่างนั้นไม่ทำข่าวนี้แล้ว แต่ขอเวลาโทรบอกหัวหน้า และเดินออกพร้อมกับโทรแจ้งตำรวจ กระทั่งตำรวจมาถึงประมาณ 5-6 คน แต่กลับกลายเป็นว่าตนก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย พยายามบอกทางผู้จัดว่าขอโทษ แต่การข่มขู่ว่าจะยิงก็เป็นสิ่งที่รุนแรงเกินไป แต่เขาก็ยังพูดกลับมาว่า “ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนั้นเลยไหม” โดยตอนนั้นตนและทีมช่างภาพไม่อยากอยู่ตรงนั้นแล้ว เพราะรู้สึกกลัวมาก ตำรวจจึงได้แยกตนและฝั่งผู้จัดออก แล้วจะพากันออกมา ตอนนั้นตนหันไปมอง พบว่าตำรวจและผู้จัดคุยกันด้วยความสนิทสนม และตนมาทราบทีหลังว่าอีกฝ่ายเป็นถึง กต.ตร. ของ สน.ลาดพร้าว ทำให้ตนยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ จึงปรึกษากับหัวหน้า ว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะไม่ได้ตั้งจะสร้างความเดือดร้อน แค่จะเข้าไปทำข่าวตามหน้าที่ และคิดถึงแค่คนตายเท่านั้น โดยไม่ได้คิดถึงผู้จัดงานเลย…
“ยอมรับว่ารู้สึกว่าทางผู้จัดงานไม่ธรรมดา แต่เราเป็นเพียงนักข่าวตัวเล็กๆ ตอนนี้จะไปไหนก็ระแวง จะให้สู้กับผู้มีอิทธิพลนั้นคงสู้ไม่ได้ หนูเป็นแค่นักข่าว (ร้องไห้หนักมาก) รวมถึงคลิปทางผู้จัดที่ออกมามีการตัดบางส่วนออกไปด้วย ” ผู้สื่อข่าว อัมรินทร์ทีวี กล่าว“