ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับ ป.ป.ท. ป.ป.ช. เปิดปฏิบัติการเด็ดปีกขบวนการลักไก่ค่าเวนคืนที่ดินเชียงดาว

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ปปป.,พ.ต.อ.อภิชาติ โพธิจันทร์ รอง ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป.ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) ภายใต้การอำนวยการของนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.)ภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช., นายวิวัฒน์ เจริญฉ่ำ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 5 ได้มอบหมายให้ นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ นายนิรันดร ศรีภักดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่และนายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 ร่วมกันสืบสวนจับกุม และแจ้งข้อกล่าวหาข้าราชการพลเรือน สังกัดสำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) จำนวน 2 ราย ดังนี้

1.นายปารย์ฯ หรือ ปลาย อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ที่ จ.13/2568 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2568

2.นายชญานนท์ฯ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ที่ จ.14/2568 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2568
ผู้ต้องหาลำดับที่ 1 ผิดฐาน“เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149,157 และผู้ต้องหาลำดับที่ 2 ผิดฐาน “สนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และสนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149,157 และ 86
เหตุเกิด อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ต่อเนื่องกับ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างปลายเดือนธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568
สถานที่จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา สำนักงานทางหลวงที่ 1 เชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก บก.ปปป. ได้ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ท. รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เกี่ยวกับพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่สังกัดสำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) กรมทางหลวง ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จากประชาชนที่ถูกเวนคืนที่ดินในโครงการขยายถนนหมายเลข 1359 อ.เชียงดาว โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) แจ้งว่าสามารถเพิ่มการประเมินค่าเวนคืนที่ดินให้แก่ผู้ที่ถูกเวนคืนที่ดินในโครงการดังกล่าวได้ และได้เรียกรับเงินในอัตราประมาณร้อยละ 10 ของค่าเวนคืนที่จะได้รับ โดยอ้างว่าเป็นค่าช่วยเหลือในการเพิ่มค่าเวนคืนที่ดินดังกล่าวให้ ทำให้ประชาชนที่ถูกเวนคืนที่ดินจำนวนหลายรายต้องยินยอมจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้าที่สำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับการประเมินค่าเวนคืนที่ดินในอัตราที่ต่ำ และเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและทำให้ได้รับความเสียหาย จึงได้แจ้งเบาะแสเรื่องดังกล่าวต่อสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
เจ้าหน้าที่ บก.ปปป. จึงร่วมกับฝ่ายสืบสวนของสำนักงาน ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ท. รวบรวมพยานหลักฐานและพบว่ากรณีดังกล่าวมีการกระทำอย่างเป็นประบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยมีการนัดหมายให้ผู้ที่ถูกเวนคืนที่ดินมารับเช็คค่าเวนคืนที่ดินที่แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 3 ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการดังกล่าวในพื้นที่อำเภอเชียงดาว เมื่อรับเช็คแล้วเจ้าหน้าที่ของสำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) ได้แจ้งให้นำเช็คไปฝากเข้าบัญชีเงินฝากที่สถาบันการเงิน โดยมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) คอยเฝ้าติดตามอยู่ตลอดระยะเวลาที่ทำธุรกรรม และให้ถอนเงินสดมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ที่ติดตามไป เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 รายดังกล่าวข้างต้น และได้เข้าจับกุมตัวที่สำนักงานทางหลวงที่ 1(เชียงใหม่) พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้บุคคลตามหมายจับทราบ และดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย พ.ศ. 2566 โดยควบคุมตัวไปทำบันทึกการจับและส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.พงศ์ปณต บัวแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปปป. โทร. 08 6313 9845