สศท.4 เผยผลการติดตาม ‘โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริฯ บ้านกำพี้’

164

‘โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริฯ บ้านกำพี้’สศท.4 เผยผลการติดตาม ‘โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริฯ บ้านกำพี้’ ช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ครัวเรือน เกษตรกรพึงพอใจมากที่สุด

นายนพดล ศรีพันธุ์ ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 4 ขอนแก่น (สศท.4) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลการติดตาม “โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริฯ บ้านกำพี้” ซึ่งจัดตั้งขึ้น เพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.49 โดยมีหน่วยงานมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถเป็นหน่วยงานหลัก และหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภายในและภายนอกกระทรวงเกษตรฯร่วมบูรณาการสนับสนุนการดำเนินงาน และ สศท.4 เป็นหน่วยงานหลักในการติดตามผลการดำเนินงานและเสนอแนวทางในการปรับปรุงรูปแบบ กระบวนการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้โครงการดังกล่าว
สำหรับโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริฯ บ้านกำพี้ ได้ดำเนินการในพื้นที่ป่าโคกแสบง ต.กำพี้ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม 157 ไร่ 2 งาน เป็นพื้นที่จัดตั้งโครงการฟาร์มตัวอย่างฯมีเป้าหมายสำคัญคือ เป็นแหล่งจ้างแรงงานในชุมชน แหล่งผลิตอาหารปลอดสารพิษ แหล่งเรียนรู้ของชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งกิจกรรมภายใต้โครงการประกอบด้วย 1) กิจกรรมปลูกพืชผักหมุนเวียนตลอดทั้งปี อาทิ ผักบุ้งจีน ต้นหอม ข่า ตะไคร้ และกะเพรา 2) กิจกรรมการปลูกพืชไร่ ไม้ผล และนาข้าว 3) กิจกรรมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม 4) กิจกรรมปศุสัตว์ อีกทั้งยังมีการปลูกพืชอาหารสัตว์ เช่น หญ้าเนเปียร์ เพื่อให้ผู้มาเรียนรู้ด้านกิจกรรมปศุสัตว์สามารถนำไปประกอบอาชีพของตนเอง 5) กิจกรรมประมง อาทิ ปลานิล และปลาดุก บ่อดิน 6) กิจกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร อาทิ ข้าวเกรียบสมุนไพรจากพืชผักในโครงการ น้ำสมุนไพร เป็นต้น

สำหรับในปีงบประมาณ 67 สศท.4 ได้รับมอบหมายภารกิจการติดตามโครงการที่ดำเนินการในปีงบประมาณ 66 ซึ่งจากการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการและเกษตรกร ที่เข้าร่วมโครงการฯ 32 ราย ในภาพรวมเกษตรกรมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่าเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ร้อยละ 83 สามารถลดรายจ่ายในครัวเรือนได้เฉลี่ย 1,368 บาท/ครัวเรือน/ปี เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 55.19 และเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ร้อยละ 80.56 มีรายได้ทางการเกษตรเพิ่มขึ้น จากการนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากการถ่ายทอดจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การทำเกษตรผสมผสาน การปลูกผักสวนครัว การเลี้ยงไก่พื้นเมือง ในภาพรวมรายได้ทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้นเป็นการเพิ่มขึ้น ในด้านหม่อนไหม โดยจากการจำหน่ายผ้าไหม เฉลี่ย 15,276.50 บาท/ครัวเรือน/ปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 60.81จากปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายที่ลดลงและการเพิ่มของรายได้จากการเรียนรู้และนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน สามารถสะท้อนภาพของรายได้ในครัวเรือนของเกษตรกรเฉลี่ย 24,099.19 บาท/ครัวเรือน/ปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 12

ทั้งนี้ สำหรับการติดตามผลโครงการฯ สศท.4 ได้มีข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงรูปแบบหรือกระบวนการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้โครงการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อาทิ การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ของข้าว ซึ่งเป็นพืชหลักโดยกรมการข้าวจัดหาเมล็ดพันธุ์ข้าวที่สามารถทนแล้งและเหมาะกับสภาพพื้นที่มาส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก และกรมชลประทานสนับสนุนระบบน้ำชลประทานให้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ สำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดและหน่วยงานระดับท้องถิ่นช่วยรณรงค์สนับสนุนให้เกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ น้ำหมักชีวภาพ และสารชีวภัณฑ์เพิ่มขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายในด้านปัจจัยการผลิต ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ยังเปิดให้เกษตรกรและผู้ที่สนใจทั่วไปสามารถเข้ามาเรียนรู้และเยี่ยมชมได้ โดยทางโครงการได้จัดเวลาในการเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น. สัปดาห์ละ 6 วัน โดยหยุดสับเปลี่ยนวันเสาร์ – อาทิตย์ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.4 โทร 0 43261 1513 หรือ อีเมล์ zone4@oae.go.th

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#สศท.4#โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริฯ บ้านกำพี้