“รองฯต่าย” นำชุดสืบนครบาล แถลงจับอดีตนักมวย fight club เครือข่ายยาเสพติด “ปาร์ค ไทรน้อย” พร้อมของกลางยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวนกว่า 9.4 ล้านเม็ด
ในห้วงเวลาปฏิบัติการปราบปรามกวาดล้างยาเสพติด 90 วัน ของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและเป็นปัญหาชาติที่สำคัญ ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน และจริงจัง จึงมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร., พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย และ พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น.สั่งการให้ พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ, พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.สส.บก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน 2 ทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดข้อหาร้ายแรงให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม นั้น
ต่อมา เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 00.30 น.สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายสงกรานต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี สัญชาติพม่า เชื้อชาติพม่า ผู้ต้องหาที่ 1 (ทำหน้าที่ขับรถยนต์ฮอนด้า ฟรีด),นายภาณุเดช (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/106 ม.1 ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาที่ 2 (อยู่ภายในบ้านเช่า)และ นายพงษ์ชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ม.5 ต.นาหนองไผ่ อ.ชุมพลจ.สุรินทร์ ผู้ต้องหาที่ 3 (อยู่ภายในบ้านเช่า)พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 9,426,000 เม็ด ,รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า ฟรีด สีขาว หมายเลขทะเบียน 2กค 8812 กรุงเทพมหานคร (พร้อมกุญแจ) และ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อเบนซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขง 5557 ชลบุรี (พร้อมกุญแจ)
โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า ) โดยการ มีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
สถานที่จับกุม ริมถนนปากทางเข้าชุมชนทับแก้วสามัคคี ถนนสรงประภา ซอย 7 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และบ้านเลขที่ 76/181 ซอยหมู่บ้านบัวทอง 4 ซอย 3/2 ตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง นนทบุรี 11110พฤติการณ์ในการจับกุม ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ได้จับกุมผู้ค้ายาเสพติด รายย่อยภายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและทำการสืบสวนขยายผลเรื่อยมา จนได้ข้อมูลว่ามีเครือข่าย “ปาร์ค ไทรน้อย” ซึ่งเป็นเครือข่ายใหญ่ที่ทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จึงได้สืบสวนติดตามพฤติกรรมเครือข่ายนี้เรื่อยมา จนต่อมาวันที่ 28 ส.ค.67 สืบทราบว่าจะมีการรับ-ส่ง และขนย้ายยาเสพติดจากจังหวัดภาคกลางตอนบน จึงได้จัดกำลังเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด โดยแบ่งกำลังอีกชุดหนึ่งเฝ้าดูบ้านเช่าภายในหมู่บ้านบัวทอง 4 ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่พักยาบ้าไว้
จากการติดตามความเคลื่อนไหวพบว่าได้มีการใช้รถยนต์ Honda freed สีขาว เป็นพาหนะในการรับยาบ้าจากจุดนัดหมายแล้ววิ่งมาตามถนนสายเอเชีย เข้าสู่กรุงเทพมหานคร จนต่อมาวันที่ 29 ส.ค.67 เวลาประมาณ 00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรถยนต์คันดังกล่าวขับมาถึงจุดก่อสร้างถนนปากซอย สรงประภา 7 เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ จึงได้ทำการแสดงตัวเข้าจับกุมตัว นายสงกรานต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ผู้ถูกจับกุมที่ 1 พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวนประมาณ 5,786,000 เม็ด บรรทุกอัดแน่นอยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว เพื่อนำไปเก็บพักที่บ้านเช่าหมู่บ้านบัวทอง 4
ต่อมาเวลาประมาณ 01.30 น. ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฝ้าดูบ้านเช่าดังกล่าวพบว่า มีรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ สีขาว ทะเบียน ขง 5557 ชลบุรี ขับเข้ามาในบ้านดังกล่าว โดยมีชายวัยรุ่นเปิดบ้านเข้าไปและทำการขนสิ่งของคล้ายถุงบรรจุยาบ้ามาใส่ท้ายรถ จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม ผลการตรวจค้นปรากฏพบนายภาณุเดชฯ ผู้ถูกจับกุมที่ 2 และ นายพงษ์ชัยฯ ผู้ถูกจับกุมที่ 3 พร้อมของกลางยาบ้า จำนวนประมาณ 560,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ท้ายรถยนต์คันดังกล่าว และพบยาบ้า จำนวนประมาณ 3,080,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านเช่าดังกล่าว และได้ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบและนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมของกลางมาดำเนินคดีและขยายผลตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพว่าอยู่ในเครือข่าย “ปาร์ค ไทรน้อย” โดยจะทำหน้าที่ต่างกัน คือ ขับรถยนต์ เฝ้าดูแลเปิดปิดบ้านเช่า หรือนำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้าตามคำสั่งของนายปาร์ค โดยได้ค่าจ้างเป็นครั้งๆ ไป ประมาณ 10,000 – 40,000 บาท แล้วแต่งาน ตรวจสอบประวัติต้องโทษของผู้ต้องหา พบว่า นาย สงกรานต์ (สงวนนามสกุล) เคยต้องโทษ คดีจำหน่ายยาเสพติดฯ นายภาณุเดช (สงวนนามสกุล) ไม่เคยต้องโทษคดีอาญา นายพงษ์ชัย (สงวนนามสกุล) เคยต้องโทษ คดีเสพยาเสพติด, ทำให้ตกใจกลัว และครอบครองอาวุธปืนฯ