“นายผดุงศักดิ์ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระพิมล”เตรียมพร้อมรับมือฤดูน้ำหลากที่กำลังจะมาถึง โดยคลองพระพิมลราชามีความยาว 31 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างแม่น้ำท่าจีน จ.นครปฐม กับแม่น้ำเจ้าพระยา จ.นนทบุรี
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 จากกรณี ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายภณณัฏฐ์ ศรีอินทร์สุทธิ์ อดีต สส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย, นายภูมิวิทย์ นารถสกุล ผู้อำนวยการชลประทานนครปฐม, นายสุพจน์ สุวรรณจิตร ผู้อำนวยการชลประทานนนทบุรี นายผดุงศักดิ์ ผ้าเจริญ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระพิมล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของ ประตูระบายน้ำคลองพระพิมล อ.บางเลน จ.นครปฐม เพื่อเตรียมพร้อมรับมือฤดูน้ำหลากที่กำลังจะมาถึง โดยคลองพระพิมลราชามีความยาว 31 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างแม่น้ำท่าจีน จ.นครปฐม กับแม่น้ำเจ้าพระยา จ.นนทบุรี ซึ่งจะมีประตูควบคุมน้ำทั้งสองด้าน ที่ผ่านมา
นายปริญ นิทัศน์เอก นายอำเภอไทรน้อย กล่าวว่า ประเด็นนี้สืบจากเนื่องได้รับการประสานจากทางท่าน อดีต สส.ภณณัฏฐ์ ศรีอินทร์สุทธิ์ ว่าทางท่านปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประยูร อินสกุล จะลงพื้นที่มาตรวจสิบความเป็นจริง และมารับมือกับสถานะการณ์น้ำ ในพื้นที่ จ.นนทบุรี และต่อเนื่องกับทาง จ.นครปฐม ตรงช่วง บางเลน-ไทรน้อย ใน้มื่อวานทางของตนเอง ทางนายกกรมการปกครองส่วนท้องที่ และทางกำนันในพื้นที่ไทรน้อย ก็ได้ลงพื้นที่ไปดูร่วมกัยทางท่านปลัดกระทรวง ส่วนปัญหาที่พบคือตัวสายไฟที่เชื่อมต่อกับเครื่องสูบน้ำ ถูกโจรกรรมไปคาดว่า หน้าจะเกิดเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งผลก็จะทำให้การสูบน้ำไม่เต็มศักยภาพ ทางโครงการเลยนำสนอปัญหานี้ให้ท่านปลัดกระทรวงทราบ ส่วนทางท่านปลัดกระทรวงท่านก็เน้นย้ำ การเตรียมความพร้อมรับมือในสถานะการณ์น้ำหลาก ซึ่งปีนี้อาจจะมีแนวโน้มน้ำเยอะขึ้น ท่านเล็งเห็นความสำคัญและเร่งเสนอปัญหาและเสนอของบประมานเข้ามาเพื่อที่จะดำเนินการแก้ไข ให้เกิดความพร้มในการรองรับการระบายน้ำให้ได้เต็มศักยภาพ ส่วนมูลค่าความเสียหายก็ประมาน 3 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้ทางท่านปลัดกระทรวงก็ได้รับปากแล้วว่าให้เร่งเสนอขึ้นมาและท่านจะเร่งพิจารณาและแก้ไขปัญหาอย่าวเร่งด่วนให้
นายวิรัชน์ อิสมาแอล อายุ 53 ปี ชาวบ้านในชุมชนสุเหล่าโรงกระซึ่งติดกับคลองพระพิมล กล่าวว่า ตอนนี้ตนยังไม่กังวนเรื่องน้ำเพราะน้ำยังน้อยอยู่ ถ่าน้ำจะเยอะก็คือ 1 กันยายน เพราะตนเคยประสบเหตุน้ำเต็มตลิ่ง แต่ตินนี้น้ำมีแค่นิดเดียว และเมื่อปีที่แล้ว น้ำเขาจะปล่อยโฟ ซึ่งกรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำไว้ แต่เทศบาลหรือคนทางหมู่บ้านเขามาดูตอนน้ำที่ไหลแรงซึ่งประตูน้ำเปิดไว้ตลลอด น้ำก็ไหลแรงมาเรื่อยๆเพราะเปิดช่องระบายน้ำไว้ตลอดน้ำก็ไหลโฟไปข้างหลัง ก็มีชาวบ้านมาถ่าย ก็ว่าประตูที่กั้นน้ำพัง เพราะน้ำมันไหลแรง แต่จริงๆคนในพื้นที่เขาก็บอกว่าประตูกั้นน้ำไม่ได้พังเพียงแค่เขาปล่ยน้ำโฟแบบนี้มานานแล้วเพราะกรมชลเขาจัดการบริหาร จะมาปิดประตูน้ำข้างหน้าเอง พวกตนและชาวบ้าน ป้องที่อยู่ด้านหน้าไม่สุดแค่โรงเรียน และแถบใกล้ๆ ป้องจะอยู่แค่ระดับเอว ก็เอาน้ำอยู่ แต่ตนไม่รู้ว่า เพจข่าวคนนนท์เขาไปลงว่าประตูน้ำพัง แต่ความจริงแล้วเขาเปิดประตูน้ำให้ไหลโฟไว้ ส่วนคนที่มาถ่ายก็มาถ่ายอค่ประตูกั้นน้ำโดยไม่ถ่ายข้างหลังเลยว่าเขาเปิดประตูน้ำไว้เพื่อที่จะให้น้ำไหลออกไปที่แม่น้ำ และจริงๆชุมชนนี้ไม่เคยเดือดร้อนเรื่องน้ำท่วมเลย ซึ่งตรงนี้เขารียนว่าชุมชนโดงกระโจม โดยเมื่อปี 54 คืตรงนี้เป็นที่สุดท้ายที่น้ำพังทั้งหมด คือตรงนี้ที่เดียว จมไปถึงบางคูรัด ซึ่งคาดว่าน้ำหน้าจะมาไม่เยอะ ซึ่งดูจากสถานการ์น้ำปัจจุบัน ไม่หน้าจะมีถ้ามีจริงๆตอนนี้น้ำคงเยอะแล้ว