ตำรวจ ปส. ลุยไม่เลิก 1 เดือนเศษ ไล่ล่าสกัดจับไอซ์กว่า 3.4 ตัน ยาบ้า 20 ล้านเม็ด
ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นการใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ประกอบกับนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. มุ่งปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ ขยายผลเครือข่ายเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของผู้ค้า ผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมดมาตรวจสอบทุกระดับอย่างจริงจังทุกพื้นที่ ควบคู่ไปกับการทำชุมชนบำบัดเพื่อให้ผู้เสพกลับคืนสู่สังคม เลี้ยงตน เลี้ยงชีพได้อย่างมั่นคง
วันนี้ 22 ส.ค.67 เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ท.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ /รรท. รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ บช.ปส., พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1,
พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4,
พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส. และ พล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส. พร้อมด้วยผู้แทนจาก กอ.รมน. และ สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมแถลงผลการสกัดกั้นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ 14 เครือข่าย ผู้ต้องหา 49 คน
ยึดยาบ้า 20,756,403 เม็ด,ไอซ์ 3,410 กก., ไอซ์(ชนิดน้ำ) 3.2 กก., คีตามีน 309 กก., ยาอี 1,008 เม็ด, ยาอี(ชนิดผง) 1 กก. และ ไฟว์ไฟว์ 1,400 เม็ด ยึดรถยนต์ 27 คัน และ ยึดอายัดทรัพย์สิน 20,863,690 บาท บก.ปส.3
คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 ร่วมกับ บก.ขส.ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 10 คน พร้อมไอซ์ 1.5 ตัน บริเวณท่าเทียบเรือในรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.ท่าใหม่ จว.จันทบุรี ต่อเนื่องเชิงสะพานแขมหนู อ.ท่าใหม่ จว.จันทบุรี จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 ร่วมกับกลุ่มงานการข่าว บก.ขส. ได้สืบสวนกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดระหว่างประเทศซึ่งลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยส่งออกทางทะเล และได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 5 คน ตรวจยึดไอซ์และเคตามีน น้ำหนัก 2 ตัน ที่บริเวณท่าเทียบเรือ อ.บางปะกง จว.ฉะเชิงเทรา และต่อมาวันที่ 9 ธ.ค.66 ได้เปิดปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย : ยุทธการสยบไพรีปราบสมุทร (Poseidon 1) และได้ขยายผลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม 3 คน โดยมีกัปตันตุ้ย ซึ่งมีความชำนาญในการเดินเรือระดับชั้นนำของประเทศเป็นผู้สั่งการ โดยปิดล้อมตรวจค้นยึดทรัพย์สินได้กว่า 140 ล้านบาท ส่วนตัวกัปตันตุ้ยได้หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 และ บก.ขส. ยังคงร่วมกันสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่องกับบุคคลในเครือข่ายเรื่อยมาจนกระทั่งวันที่ 10 ส.ค.67 พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลดังกล่าว โดยมีนายอนันต์ เป็นผู้รับคำสั่งจากกัปตันตุ้ยร่วมกับนายจารุชัย กับพวกรวม 10 คน ได้มีการนำเรือสปีดโบตมาจอดที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.ท่าใหม่ จว.จันทบุรี และซื้ออุปกรณ์ในการแพ็คยาเสพติด เพื่อเตรียมลำเลียงลงเรือ จนกระทั่งเวลา 20.30 น. ของวันเดียวกัน พบรถยนต์กระบะตีตู้ทึบมาจอดบริเวณใกล้เรือสปีดโบตและกลุ่มผู้ต้องหาได้ช่วยกันยกลำเลียงกระสอบในตู้ทึบรถยนต์ลงเรือ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตรวจสอบ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ท่าเรือดังกล่าวได้จำนวน 7 คน ทำการตรวจค้นกระสอบที่อยู่ในตู้ทึบรถยนต์ และภายในเรือ พบไอซ์จำนวน 1.5 ตัน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้ดำเนินคดี ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกชุดได้ทำการจับกุม ผู้ต้องหา 3 คน ที่บริเวณจุดชมวิวปากน้ำแขมหนู จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 30 ก.ค.67 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้เฝ้าระวังกลุ่มบุคคลเครือข่ายผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จนพบความเคลื่อนไหวรถยนต์ของกลุ่มเครือข่ายบริเวณชายแดนเข้าพื้นที่ภาคกลาง วิ่งเข้าพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย โดยมีการบรรทุกรถจักรยานยนต์มาด้วย ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น. พบชาย 3 คน ยืนอยู่กับรถจักรยานยนต์ที่บรรทุกมากับรถยนต์ของกลุ่มเครือข่าย กระทั่งชายทั้ง 3 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไปจอดที่รถยนต์หมายเลขทะเบียน ผธ 42xx เชียงราย เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว เข้าขณะตรวจสอบ ชายที่ขับรถจักรยานยนต์ได้ใช้ความชำนาญในพื้นที่หลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวบุคคลที่อยู่รถยนต์ 2 คน พร้อมของกลางยาบ้า 6,000,000 เม็ด ก่อนนำตัวส่ง พงส.บช.ปส. เพื่อขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
คดีที่ 3 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้สืบสวนขยายผลพบกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.ฝาง จว.เชียงใหม่ เตรียมลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ ไปส่งให้กับเครือข่ายพื้นที่ตอนในของประเทศ กระทั่งวันที่ 2 ก.ค.67 จะมีการส่งมอบยาเสพติดบริเวณริมถนนทางหลวงชนบท หมายเลข 3037 บ้านห้วยป่าซาง – บ้านโป่งไฮ ต.แม่สาว อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ ต่อมาเวลา 01.00 น. เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนพบกลุ่มบุคคลแอบซุ่มหลบอยู่ที่พุ่มต้นไม้ในบริเวณดังกล่าว จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบกลุ่มชาย 2-3 คน ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าข้างทางไปได้ เบื้องต้นพบของกลางยาบ้า 5 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ใต้พุ่มไม้ที่มีกิ่งไม้และต้นกล้วย ปิดบังอำพรางไว้ รวมของกลางยาบ้า 1,000,000 เม็ด
คดีที่ 4 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้สืบสวนเครือข่ายผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จนทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จว.พะเยา มาส่งมอบให้กับเครือข่ายในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถบรรทุกสิบล้อเป็นพาหนะ ต่อมาวันที่ 12 ก.ค.67 ตำรวจ พบรถเป้าหมาย ขับอยู่ในพื้นที่ อ.งาว จว.ลำปาง มุ่งหน้าเส้นทาง จว.แพร่ – จว.อุตรดิตถ์ – จว.พิษณุโลก เมื่อรถคันดังกล่าวขับมาถึงจุดตรวจหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงบ้านป่า จึงเรียกให้หยุด พบนายสุริยา เป็นผู้ขับขี่ ตรวจค้นบริเวณห้องโดยสาร พบกระสอบต้องสงสัย 5 กระสอบ ภายในเป็นไอซ์รวม 120 ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ 120 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บของด้านหลังที่นั่งคนขับ จึงจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ก.ค.67 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปส.ภ.5 และทหาร ร่วมกัน ตรวจค้นบ้านของนายสุริยา (ผู้ต้องหา) ในพื้นที่ จว.พะเยา เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งนี้ได้ตรวจยึดอายัดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบ 11 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 10,000,000 บาท
คดีที่ 5 ตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 ได้สืบสวนการลักลอบส่งยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักรทางพัสดุภัณฑ์ กระทั่งเมื่อวันที่ 19 ก.ค.67 สืบสวนพบพัสดุระหว่างประเทศปลายทางประเทศออสเตรเลีย ต้องสงสัยว่ามีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ภายในสินค้า จำนวน 1 หีบห่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่บริษัทตรวจสอบ พบเป็นถุงฟอยส์ซุกซ่อนอยู่ในซองน้ำซุปปรุงรส จำนวน 58 ถุง จึงได้ทำการเปิดตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย มีลักษณะเป็นน้ำสีใส จึงนำตัวอย่างดังกล่าวมาทำการทดสอบด้วยน้ำยาทดสอบสารเสพติด พบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมวัตถุโดยประมาณ 11.5 กิโลกรัม ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ขยายผลหาผู้ส่งพัสดุ เพื่อทำการจับกุมต่อไป
คดีที่ 6 สืบเนื่องเมื่อวันที่ 8 ก.พ.65 ตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ส. ,กรมศุลกากร ตามโครงการความร่วมมือในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (AITF) ได้สืบสวนเครือข่ายผู้ลักลอบส่งยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักรปลายทางประเทศออสเตรเลีย และตรวจยึดพัสดุซุกซ่อนในผงปรุงรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปลายทางประเทศออสเตรเลีย จากการประสานกับร้านรวบรวมพัสดุที่ออสเตรเลีย พบมีชายชาวจีนมาติดต่อขอรับพัสดุที่ถูกตรวจยึดแล้ว ขณะขอหลักฐานชายดังกล่าวปฏิเสธการมอบหลักฐานและออกจากร้านไป ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ ต่อมาวันที่ 14 ส.ค.67 ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านเช่า ระหว่างนั้นพบบุคคลรูปพรรณสันฐานตรงตามหมายจับ ได้มาส่งพัสดุลักษณะเดิมอีกครั้ง จึงนำกำลังขอตรวจค้น พบของกลางไอซ์ชนิดน้ำ น้ำหนัก 2.85 กก. และไอซ์ 200 กรัม จึงคุมตัวผู้ต้องหามาตรวจค้นที่ห้องพักและบ้านเช่าที่เกี่ยวข้อง พบของกลางเพิ่มเติมเป็นไอซ์ ชนิดน้ำ 3.25 กิโลกรัม และไอซ์ 853 กรัม รวมถึงอุปกรณ์การบรรจุยาเสพติดจำนวนมาก และตรวจยึดเงินที่เชื่อว่าได้มาจากการการค้ายาเสพติด จำนวน 1.5 ล้านบาท ก่อนตัวส่ง พงส.บก.ปส.3 ดำเนินคดี บก.ปส.2
คดีที่ 7, คดีที่ 8 ภายหลังการจับกุม นายวิทวัส หรือแมน พร้อมพวกรวม 3 คน ของกลาง ยาบ้า 2,700,000 เม็ด บริเวณร้านข้าวต้มหัวปลากะพงหม้อไฟ ต.นางรอง อ.นางรอง จว.บุรีรัมย์ เมื่อ 26 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา ตำรวจ กก.2 บก.ปส.2 ได้สืบสวนขยายผลของเครือข่ายและเฝ้าระวังเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง จนวันที่ 6 ก.ค.67 พบรถเฝ้าระวังถูกขับเข้าไปในพื้นที่ จว.เลย
ใช้เส้นทางสระบุรี-หล่มศักดิ์ (ถนนสาย 21) อ.ศรีเทพ จว.เพชรบูรณ์ กำลังจึงเฝ้าติดตาม กระทั่งพบรถยนต์เฝ้าระวัง 2 คัน จอดบริเวณหน้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมัน ชุดจับกุมจึงแสดงตัวขอตรวจค้นจับกุม น.ส.ทิวาพร ทำหน้าที่ขับรถบรรทุกยาเสพติด, น.ส.ณัฐวัฒน์ ทำหน้าที่ขับรถนำเส้นทาง และ น.ส.สุพารักษ์ โดยสารมากับรถนำเส้นทาง ตรวจค้นรถพบยาบ้าถูกซุกซ่อน มาในรถ จำนวน 1,200,000 เม็ด ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปขยายผลจนทราบข้อมูลว่าเครือข่ายนี้จะลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากอีกครั้ง ตำรวจจึงติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด กระทั่ง วันที่ 2 ส.ค.67 พบรถในเครือข่าย 2 คัน ขับออกจาก จว.เลย และใช้เส้นทางสามแยกพุแค–เลย (ถนนสาย 21) ซึ่งเป็นเส้นทางเดิมจนมาถึงพื้นที่ จว.เพชรบูรณ์ และขับหลบเข้าไปในใบทองธารารีสอร์ท ตำรวจจึงนำกำลังเข้าแสดงเพื่อจับกุมที่ห้องพัก B1 แต่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ขัดขืน โดย 1 ในนั้นได้ถือระเบิดลูกเกลี้ยงไว้เพื่อหวังใช้ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ กระทั่งสามารถควบคุมตัวได้ ตรวจค้นในห้องพักและรถยนต์ พบของกลาง ยาบ้า 6,700,000 เม็ด,ยาอี 1,000 เม็ด, Ecstasy หรือ MDMA 10 ก้อน, ไฟว์ไฟว์ 1,400 เม็ด, ระเบิดลูกเกลี้ยง M 26 (พร้อมใช้งาน) 7 ลูก, อาวุธปืน 2 กระบอก, กระสุนปืน รวม 95 นัด, โทรศัพท์ ๕ เครื่อง จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
คดีที่ 9 จากการสืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายที่มีพฤติการณ์ลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ พบเครือข่าย นายสมศักดิ์ มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ไปส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ตอนใน ต่อมาวันที่ 6 ก.ค.67 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 ตรวจพบรถยนต์ตรงตามที่เฝ้าติดตาม วิ่งอยู่บนถนนหมายเลข 22 (ถนนนิตโย)
อ.เมืองนครพนม จว.นครพนม มุ่งหน้า จว.สกลนคร จึงติดตามมาอย่างใกล้ชิด จนรถขับมาถึงบริเวณสี่แยกสัญญาณไฟจราจรบ้านธาตุ ถนนทางหลวงหมายเลข 22 ถนนนิตโย ต.ธาตุนาเวง อ.เมืองสกลนคร จว.สกลนคร ชุดจับกุมจึงเข้าจับกุม คือ นายสมศักดิ์
ขณะขับรถกระบะตู้ทึบ ทะเบียน บห 42xx พิษณุโลก ตรวจค้นพบไอซ์วางอยู่ในตู้บรรทุกสินค้าของรถ รวม 500 กก. และยาบ้า 25 เม็ด
คดีที่ 10 เมื่อวันที่ 31 ก.ค.67 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.2 สืบทราบความเคลื่อนไหวของขบวนการค้ายาเสพติด ว่าจะมีการนัดส่งมอบยาเสพติดในเขต อ.เมือง จว.มุกดาหาร โดยพบรถยนต์เซฟโรเลต รุ่นเทลเบลเซอร์ สีน้ำตาล ทะเบียน 3ขญ xxxx กทม. บรรทุกยาเสพติดเข้ามาในเขต อ.เมือง จว.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังติดตามจนพบรถยนต์เป้าหมายขับมาจอดอยู่บริเวณลานจอดรถศาลากลาง จว.มุกดาหาร จึงได้วางกำลังสังเกตุการณ์ จนเวลา 20.30 น. มีรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีขาว ทะเบียน กต xxxx ยโสธร ขับรถเข้ามาจอดเทียบรถยนต