ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีที่มีพรรคการเมืองออกมาแสดงความคิดเห็นอยากให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปลดล็อกทางการเมืองโดยเร็ว เนื่องจากระยะเวลา 70 วันนั้นไม่เพียงพอในการหาเสียง ว่า ตนยังคงยืนยันว่าระยะเวลา 70 วันนั้นเพียงพอ เพราะพรรคการเมืองที่ยังไม่ได้ตั้งขึ้นมานั้นก็ยังมีอีกหลายพรรค ดังนั้นยังมีเวลาอีก 30 วันในการกำหนดเรื่องพรรคการเมืองที่จะจัดตั้งขึ้น อีกทั้งดำเนินการสมาชิกพรรค และการดำเนินการจัดทำไพรมารีโหวต ตนคิดว่าทันเวลาอยู่แล้ว ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ปลดล็อก 100 เปอร์เซ็นต์ก็ทำได้ในระยะเวลา 70 วัน
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย เปิดโรงเรียนการเมืองรวมพลังประชาชาติไทยนั้นจะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ในส่วนของรายละเอียดต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นคนดูแล เพราะถ้าตนพูดไปก็จะกลายเป็นว่าให้การสนับสนุนนายสุเทพ
เมื่อถามว่า หาก พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. โปรดเกล้าฯ ลงมามีผลบังคับใช้แล้ว จะมีการประชุมคสช.ทันทีหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทางรัฐบาลและคสช.ได้เตรียมการคลายล็อกไว้หมดแล้ว โดยภายใน 90 วันหลังจากนั้น ทางพรรคการเมืองก็ต้องดำเนินการประชุมพรรค รวมถึงหาสมาชิกพรรค และจัดทำไพรมารีโหวต ซึ่งทั้งหมดนี้จะดำเนินการได้ภายในเดือนธ.ค.
เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไร ที่ตอนนี้มีพรรคการเมืองออกมาวิพากษ์วิจารณ์ คสช.กันเป็นจำนวนมาก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็แล้วแต่พรรคการเมืองว่าจะมองในลักษณะใด เพราะความจริงคสช.ก็ทำดีทุกอย่างอยู่แล้ว ส่วนคนที่วิพากษ์วิจารณ์ก็มีไม่กี่คน ซึ่งก็ไม่เห็นจะมีอะไร
เมื่อถามว่าล่าสุดผลการสำรวจของสวนดุสิตโพลพบว่าประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นนายกรัฐมนตรี สะท้อนถึงอะไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่เรื่องการเมืองที่เกี่ยวข้องกับพล.อ.ประยุทธ์อย่ามาถามตน ขอให้ไปถามพล.อ.ประยุทธ์คนเดียว ตอนนี้นายกฯ ยังทำงานไม่จบ ฉนั้นต้องทำงานให้จบก่อน
ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โพสต์ข้อความโจมตีน.ส.เฌอปราง อารีย์กุล หัวหน้ากลุ่มไอดอลวง BNK48 ที่มาช่วยงานรัฐบาลในรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ว่า นายรังสิมันต์ โรมจะไปจำกัดสิทธิน.ส.เฌอปรางได้อย่างไร เขาจะทำอะไรก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล ตนก็ขอให้กำลังใจคนที่มาช่วยงานรัฐบาลและคสช. แม้ว่าส่วนตัวจะไม่เคยฟังเพลงของวง BNK48 เพราะไม่มีเวลา เนื่องจากต้องทำงาน
เมื่อถามว่า แบบนี้เป็นห่วงหรือไม่ว่าจะทำให้ดารานักแสดงไม่กล้ามาช่วยงานรัฐบาลและคสช. เพราะกลัวโดนโจมตี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า นายรังสิมันต์ โรมจะไปกำหนดห้ามเรื่องสิทธิมนุษยชนคนอื่นได้เหรอ
ส่วนกรณีที่มีทหารจับกุมนางวรรณนภา (สงวนนามสกุล) พร้อมกับเสื้อยืดสีดำมีแถบป้ายสีขาวและสีแดงบริเวณหน้าอกจำนวนมากที่ห้องพักย่านสำโรง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 6ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับควบคุมตัวไปที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ว่า เป็นเสื้อของพรรคการเมืองหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์การแบ่งแยกการปกครองเป็นสหพันธรัฐไทย ตนถามว่าทางเจ้าหน้าที่ต้องจับหรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนสอบสวนอยู่ที่มทบ.11
เมื่อถามว่าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่อนุญาตให้บุตรของนางวรรณนภาสามารถเข้าไปเยี่ยมมารดาได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวตอบสั้นๆ ว่า “อยากไปเจอ ก็ไปเจอ”
ในขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือเรียกร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร เรื่องนาฬิกา รวมถึงให้ พล.อ.ประวิตรนำนาฬิกาทั้งหมดมาชี้แจงด้วยตนเองว่า “นาฬิกาไม่ใช่ของผม เพราะยืมเขามา และก็ใส่มาเป็น 10 ปี จนใส่กี่เรือนต่อกี่เรือน ตอนนี้คืนเขาไปหมดแล้ว”