IT Talk แนะนำ OPPO Reno12 และ Reno12 Pro 5G เครื่องสวย ปรับดีไซน์ใหม่ มีฟีเจอร์ AI

765

สวัสดีผู้อ่านคอลัมน์ IT Talk ทุกท่านครับ วันนี้จะพาทุกท่านมาดูมือถือจากฝั่งของ OPPO กันบ้าง

สำหรับOPPO Reno12 5G และ OPPO Reno12 Pro 5G เปิดตัวอย่างเป็นทางการในดีไซน์ใหม่แบบหมดจด ด้วยการปรับดีไซน์ขอบเฟรม ฝาหลัง และโมดูลกล้องให้มาในรูปแบบสี่เหลี่ยมตรงตามเทรนด์ปี 2024 มาพร้อมกับไฮไลต์เด็ดอย่างกระจกจอแสดงผลที่เปลี่ยนมาใช้จอโค้ง 4 ด้านเท่าขอบมนเหมือนหยดน้ำ กับสเปคกล้องที่ถ่ายสวยเหมือนเดิม และมีลุ้นเปิดตัวในไทยด้วย เร็ว ๆ นี้

เปิดตัว OPPO Reno12 5G

OPPO Reno12 5G เปิดตัวมากับดีไซน์ตัวเครื่องที่ชวนให้นึกถึงเมื่อตอน OPPO Reno 6 Series มีความเป็นสี่เหลี่ยมตรง ลดความโค้งจากรุ่นก่อน พร้อมเปลี่ยนฐานโมดูลกล้องเป็นสี่เหลี่ยม รองรับมาตรฐานทนน้ำ IP65 ส่วนฝาหลังมีการเล่นลวดลายกึ่ง 3D ที่มีให้เลือกทั้งลายคลื่นน้ำ และลายดอกไม้ ด้านขอบเฟรมมาในพื้นผิวเงางามดูหรูหรา แถมยังบางเพียง 7.25 มม. และเบา 179 กรัมเท่านั้น

จุดที่เปลี่ยนไปที่สุดของรุ่นนี้คือจอแสดงผลที่เปลี่ยนไปใช้กระจก Gorilla Glass แบบ 3D Contour Quad Curved Screen ซึ่งถึงจะมีความโค้งอยู่บ้าง แต่ก็โค้งเท่ากันถึง 4 มุมเหมือนมือถือเรือธงหลาย ๆ รุ่นที่เปิดตัวมาในปีนี้ นอกจากกระจกจะดูดีแล้วรุ่นนี้แล้วพาเนลก็ยังเทียบชั้นเรือธงไม่แพ้กัน

OPPO Reno12 5G มากับจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2412×1080 พิกเซล) สว่างสูงสุด 1,200 nits รีเฟรชเรตลื่นไหล 120Hz รองรับการแสดงผล ProXDR ดันความสว่างเฉพาะจุด เพื่อให้ภาพสมจริงเหมือนตาเห็น แถมยังรองรับการแสดงผล HDR10+ และมีค่า PWM dimming สูงสุดที่ 2160Hz ช่วยลดอาการตาล้าหากใช้จอในที่แสงน้อย มีโหมด Rain Touch สัมผัสจอได้แม้มือเปียกด้วย

ขึ้นชื่อว่าเป็น Reno Series เรื่องกล้องก็ยังคงงามเหมือนเดิม โดยกล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องหลัก 50MP เซนเซอร์ Sony LYT-600 พร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Portrait Telephoto 50MP ซูม Optical 2x และ Digital 20x + กล้อง Ultrawide 8MP มุมกว้าง 112 องศา ส่วนกล้องหน้าให้มาจัดเต็ม 50MP รองรับ Auto Focus รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K@60FPS ได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง

รุ่นนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ AI อย่าง AI Closed Eye Repair ที่สามารถช่วยแก้ดวงตาในขณะที่มีคนเผลอหลับตา ให้ลืมตาขึ้นไปแบบเนียน ๆ สูงสุดถึง 20 คนในภาพ มี AI Elimination ลบวัตถุส่วนเกินในภาพเพียงแค่คลิกเดียว และมี AI Cutout ถึงวัตถุออกจากภาพให้เป็นสติกเกอร์ไร้พื้นหลังได้ง่าย ๆ

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AI Recording Summary ช่วยถอดสคริปต์ สรุปเนื้อหาจากเสียงที่อัดมา English Teacher AI ช่วยฝึกภาษาอังกฤษทั้งการพูด ฝึกจำคำศัพท์ และช่วยแนะนำการเขียน อีกทั้งยังมี AI Document Scanning สแกนเอกสารง่าย ๆ เซฟไฟล์เป็น PDF สะดวก สามารถสแกนสูตรคณิตศาสตร์ได้
ส่วนด้านประสิทธิภาพนั้น รุ่นนี้มากับชิปเซตตัวใหม่ MediaTek Dimensity 8250 Star Speed Edition ที่มีการปรับ NPU ให้ดีขึ้นจากรุ่นเดิมนิดหน่อย และมีการปรับ Optimized ร่วมกับ OPPO เพื่อรีดประสิทธิภาพให้ดีขึ้น ประกบคู่มากับหน่วยความจำ RAM LPDDR5x + ROM UFS 3.1 ความจุสูงสุด 16GB + 512GB รองรับการเล่น King of Glory (ROV เซิร์ฟเวอร์จีน) ได้ที่เฟรมเรตสูงสุด 120FPS ให้แบตเตอรี่มาที่ 5,000 mAh รองรับชาร์จไวสูงสุด 80W ผ่านพอร์ต USB-C

สเปค OPPO Reno12 5G

• จอภาพ : AMOLED 3D Contour Quad Curved Screen ขนาด 6.7 นิ้ว
• ความละเอียด Full HD+ (2412×1080 พิกเซล)
• สว่างสูงสุด 1,200 นิต
• อัตรารีเฟรช 120Hz
• รองรับ ProXDR, HDR10+
• ชิปเซต : Dimensity 8250 Star Speed Edition
• RAM LPDDR5x: 12GB / 16GB
• ROM UFS 3.1: 256GB / 512GB
• กล้องหลัง :
• กล้องหลัก LYT-600 50MP (f/1.8), กันสั่น OIS
• กล้องอัลตราไวด์ 8MP (f/2.2), มุมกว้าง 112 องศา
• กล้องเทเลโฟโต 50MP (f/2.0), ซูม Optical 2x / Digital 20x
• กล้องหน้า : 50MP (f/2.0) รองรับ AutoFocus
• ระบบเสียง : ไม่ระบุ
• แบตเตอรี่ : 5,000 mAh
• รองรับชาร์จไว 80W
• การเชื่อมต่อ
• 5G
• Wi-Fi 6
• Bluetooth 5.4
• NFC
• พอร์ต
• USB-C 2.0
• เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือใต้จอ, accelerometer, gyro, proximity, compass, IR Blaster
• ความทนทาน : IP65
• ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 14.1 พื้นฐาน Android 14
• ขนาด : 161.4 x 74.8 x 7.25 – 7.30 มม. (ขึ้นอยู่กับรุ่นสีที่เลือก)
• น้ำหนัก: 179 กรัม

เปิดตัว OPPO Reno12 Pro 5G

OPPO Reno12 Pro 5G เปิดตัวมากับสเปคที่คล้ายกับรุ่นมาตรฐานเกือบทุกอย่าง แต่มากับขนาดตัวเครื่องที่หนาขึ้น และหนักขึ้นเล็กน้อย เพราะได้เพิ่มในส่วนของมอเตอร์การสั่นแบบ 4D X-axis linear motor เข้ามา และมีการเปลี่ยนเซนเซอร์หลักไปใช้ IMX890 50MP ที่ขนาดเซนเซอร์ใหญ่ขึ้น และมักจะเป็นเซนเซอร์ที่ถูกใช้ในมือถือเรือธงหลาย ๆ รุ่น
อีกหนึ่งจุดที่เปลี่ยนไปคือเรื่องของชิปเซตประมวลผลที่ได้ใช้ชิปอดีตเรือธงอย่าง Dimensity 9200+ Star Speed Edition ที่มีการปรับ Optimized ให้เข้ากับรุ่นนี้โดยเฉพาะ ประกบคู่มากับหน่วยความจำ RAM LPDDR5x + ROM UFS 3.1 ความจุสูงสุด 16GB + 512GB

สเปค OPPO Reno12 Pro 5G

• จอภาพ : AMOLED 3D Contour Quad Curved Screen ขนาด 6.7 นิ้ว
• ความละเอียด Full HD+ (2412×1080 พิกเซล)
• สว่างสูงสุด 1,200 นิต
• อัตรารีเฟรช 120Hz
• รองรับ ProXDR, HDR10+
• ชิปเซต : Dimensity 9200+ Star Speed Edition
• RAM LPDDR5x: 12GB / 16GB
• ROM UFS 3.1: 256GB / 512GB
• กล้องหลัง :
• กล้องหลัก IMX890 50MP (f/1.8), กันสั่น OIS
• กล้องอัลตราไวด์ 8MP (f/2.2), มุมกว้าง 112 องศา
• กล้องเทเลโฟโต 50MP (f/2.0), ซูม Optical 2x / Digital 20x
• กล้องหน้า : 50MP (f/2.0) รองรับ AutoFocus
• ระบบเสียง : ไม่ระบุ
• แบตเตอรี่ : 5,000 mAh
• รองรับชาร์จไว 80W
• การเชื่อมต่อ
• 5G
• Wi-Fi 6
• Bluetooth 5.4
• NFC
• พอร์ต
• USB-C 2.0
• เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือใต้จอ, accelerometer, gyro, proximity, compass, IR Blaster
• ความทนทาน : IP65
• ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 14.1 พื้นฐาน Android 14
• ขนาด : 161.4 x 74.8 x 7.55 – 7.6 มม. (ขึ้นอยู่กับรุ่นสีที่เลือก)
• น้ำหนัก: 183 – 184 กรัม (ขึ้นอยู่กับรุ่นสีที่เลือก)

ราคา และการวางจำหน่าย

OPPO Reno12 5G Series เปิดให้สั่งจองอย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศจีน โดยจะเริ่มจัดส่งตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2024 เป็นต้นไป ส่วนราคา รุ่นความจุ และสีที่วางจำหน่ายมีดังนี้

ราคา OPPO Reno12 5G

สีที่วางจำหน่าย: สีเงิน Millenium Silver, สีชมพูกลีบดอกไม้ Pastel Peach, สีดำ-ม่วง Ebony Black
• 12GB + 256GB ราคา 2,699 หยวน หรือราว ๆ 13,700 บาท
• 12GB + 512GB ราคา 2,999 หยวน หรือราว ๆ 15,200 บาท
• 16GB + 256GB ราคา 2,999 หยวน หรือราว ๆ 15,200 บาท
• 16GB + 512GB ราคา 3,199 หยวน หรือราว ๆ 16,200 บาท

ราคา OPPO Reno12 Pro 5G

สีที่วางจำหน่าย: สีม่วง Silver Magic Purple, สีทองแดง Champagne Gold, สีดำ-ม่วง Ebony Black
• 12GB + 256 GB ราคา 3,399 หยวน หรือราว ๆ 17,200 บาท
• 16GB + 256GB ราคา 3,699 หยวน หรือราว ๆ 18,700 บาท
• 16GB + 512GB ราคา 3,999 หยวน หรือราว ๆ 20,200 บาท

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับข้อมูลของ OPPO Reno12 และ Reno12 Pro 5G น่าสนใจโดนใจสาวก OPPO กันมั้ยครับและเช่นเคยหากมีข้อมูลดีๆสาระดีๆแบบนี้ ทางคอลัมน์ IT Talk ก็จะนำมาฝากกันอีกแน่นอนครับ