นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่กระแสข่าวกลุ่มสามมิตรเดินหน้าดูดนักการเมืองเข้ามาร่วมงาน ว่า ขณะนี้มีคำร้องเรียนของนายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีตส.ส. ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ที่ยื่นคำร้องเข้ามา ซึ่งกกต. ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นคือทุกคนที่จะจัดตั้งพรรคการเมืองสามารถชักชวนหาผู้ร่วมก่อตั้งได้ ไม่เป็นความผิด แต่มีข้อแม้ว่าต้องไม่เสนอให้สัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเพื่อให้เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคเพราะเป็นความผิดตามมาตรา 30 ของพ.ร.บ.พรรคการเมือง
“ส่วนผู้ถูกชักชวนต้องไม่รับหรือเรียกรับ เพื่อไปเป็นสมาชิกเพราะมีความผิดตามมาตรา 31 ของกฎหมายเดียวกัน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ปรากฏว่าการทาบทามมีการเสนอหรือสัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนแต่ กกต. ก็กำลังตรวจสอบ ถ้าใครมีหลักฐาน ให้ส่งมาที่กกต. และเมื่อดำเนินคดีเสร็จแล้วผู้ที่แจ้งเบาะแสก็จะได้รับรางวัล” นายศุภชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีบุคคลที่ตกเป็นข่าวว่าจะไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ที่ได้รับตำแหน่งในรัฐบาล เช่นนายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะถือว่าเข้าข่ายความผิดนี้หรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริงว่ามีการตอบแทนผลประโยชน์หรือไม่ ส่วนที่กลุ่มสามมิตรประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปก็ถือเป็นสิทธิ แต่อย่าทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและใครที่จะกล่าวหาต้องระมัดระวังอย่ากล่าวหาเท็จ เพราะจะถูกตัดสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรคู่ขนานไปกับการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี จะเข้าข่ายผิดกฎหมายใดหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ต้องแยกแยะเพราะการลงพื้นที่ของฝ่ายบริหารมีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ราษฎร อาจเป็นเรื่องบังเอิญแต่ถ้าใครมีหลักฐานว่าสองฝ่ายนี้ร่วมมือกันให้เงินเพื่อตอบแทนให้เป็นสมาชิกพรรคก็ส่งมาให้กกต. ได้ แต่ขณะนี้พรรคก็ยังไม่ได้ตั้ง