“โฆษกสำนักนายกฯนำทีม ปปง.ร่วมกับDSI”แถลงการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกร

489

“โฆษกสำนักนายกฯ นำทีม ปปง.ร่วมกับ DSI”ร่วมแถลงผลการปราบปราบขบวนการนำเนื้อสุกรผิดกฏหมายเข้าประเทศ พร้อมคดี แต่งบัญชีหุ้น,สร้างราคาหุ้น ตั้งข้อหาหนักทุกข้อหายึดของกลาง พร้อมอายัดทรัพย์ หลายพันล้าน

วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน 2566 (เวลา 10.00 น.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสัตวแพทย์ ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ,นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี,นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน,นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน,พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ,พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้ร่วมแถลง กรณีคดีการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกร ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 283/2566 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2566 แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเร่งรัดการดำเนินการกรณีการนำเข้าเนื้อสุกรฯที่ผิดกฎหมาย

(1) DSI รับกรณีตรวจพบเนื้อสุกรค้างท่าเรือ 161 ตู้ น้ำหนักประมาณ 4,500 ตัน(4,500,000กิโลกรัม) ความเสียหายรวมภาษีมูลค่ากว่า 46 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการทำลายซึ่งของกลางยังไม่ได้จำหน่ายจ่ายโอนไปยังห้องเย็นต่างๆ มีเป็นคดีพิเศษที่ 59/2566แยกกลุ่ม ผู้กระทำความผิดเป็น 3 กลุ่ม คือ (1) กลุ่มผู้นำเข้า (Shipping) จำนวน 11 บริษัท (นำเนื้อสุกรเข้ามาแล้วกว่า 2000 ตู้ (2) กลุ่มนายทุนที่สั่งนำเข้า และ (3) กลุ่มห้องเย็นที่รับซื้อเนื้อสุกรตาม พื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

(2) เป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน โดย ปปง. ได้รับเรื่องเพื่อไปดำเนินมาตรการทางแพ่ง

(3) ได้มีการออกหมายจับและแจ้งข้อหาผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทต่างๆรวม 6 ราย ได้แก่(1) น.ส.มณีวรรณ (2) นายโดม (3) น.ส.นัทธมน (4) นายณัฐวุฒิ (5) น.ส.เจนจิรา และ (6) นายศักดา ต่อมายังได้ขยายผลออกหมายจับเจ้าของบริษัทอีก 2 ราย

(4) คดีนี้ มีการแจ้ง ปปง. เพื่อประสานความร่วมมือต่อเนื่องในการตรวจเส้นทางการเงินของผู้โอนจ่ายเงินไปยังต่างประเทศ และดำเนินมาตรการทางแพ่ง โดยในส่วนของ ปปง. ได้ทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าเป็นการนำเข้าจากบริษัทต่างประเทศจำนวน 36 บริษัท ตรวจพบเส้นทางการเงินแล้ว 11 บริษัท แยกเป็นกลุ่ม นายทุน 3 กลุ่มเช่นเดียวกับ DSI

(5) การตรวจย้อนหลัง เชื่อว่ามีการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรประมาณ 2,300 ตู้ เป็นเนื้อสุกรที่จำหน่ายไปยังผู้บริโภคแล้ว มีกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 53 บริษัท โดยในกรณีนี้จะต้องมีการดำเนินคดีเพิ่มเติม และนำกฎหมายฟอกเงินมาบังคับใช้ เพื่อติดตามยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการจำหน่ายเนื้อสุกรดังกล่าว

(6) เพื่อเป็นการป้องกันการกระทำความผิดในอนาคต จะเน้นการตรวจสอบและดำเนินคดีเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง โดยจะแยกออกดำเนินการเป็นอีกคดีหนึ่ง

สำหรับ กรณีคดีหุ้น Stark DSI รับกรณีอดีตผู้บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กระทำการทุจริตอันเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 140 ล้านบาท เป็นคดีพิเศษที่ 57/2566 ,ดำเนินคดีความผิดมูลฐานฟอกเงิน ตามมาตรา 3 (3) กรณีการฉ้อโกงประชาชนกับผู้ต้องหาครบทุกรายตามที่ กลต. กล่าวหา , ในส่วน DSI จะเร่งรัดสอบสวนดำเนินคดีในความผิดมูลฐานและสรุปสำนวนการสอบสวนภายในเดือนพฤศจิกายน ,ในส่วนของการอายัดทรัพย์สินในคดีนี้ เป็นการอายัดโดย 3 หน่วยงาน คือ DSI,ก.ล.ต. และ ปปง. โดย ปปง. จะนำเรื่องเข้าคณะกรรมการธุรกรรมภายในสัปดาห์หน้า

และ เพื่อป้องกันการกระทำความผิดในลักษณะเช่นนี้ DSI และ ปปง. จะได้ร่วมกันทำการตรวจสอบการดำเนินการของผู้สอบบัญชีอย่างเข้มงวดต่อไป

ส่วนคดี คดีหุ้น MORE ทาง DSI รับกรณีกลุ่มบุคคลรวม 32 ราย ร่วมกันสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE เป็นคดีพิเศษที่ 66/2466
และ ปปง. ยึดทรัพย์ไปแล้วกว่า 4,000.ล้านบาท

#Thaitabloid #ำนักข่าวไทยแทบลอยด์