นายกฯปลื้ม”ผบ.ตร.”จัดทัพนายพลสีกากีฉลุย !!

1621

นายกฯ”ปลื้ม”ผบ.ตร.”จัดโผ”รองผบ.ตร.-ผบช.”ฉลุย ”ก.ตร.เอก”โพสต์ ชื่นชม ถึงแม้มีปมคำถาม พตร. ..??

       
บททดสอบการแต่งตั้งโยกย้ายตามกฎหมายตำรวจฉบับใหม่ ของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ในฐานะประธานทำโผแต่งตั้งโยกย้ายระดับ รองผบ.ตร.-ผู้บัญชาการ(ผบช.) จำนวน 38 ตำแหน่ง ถือว่าผ่านฉลุย

      นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)กล่าวชื่นชมว่าจัดได้ดี และหลังประชุมระหว่างเดินทางกลับ ยังยกหัวแม่มือแสดงสัญลักษณ์ว่าเยี่ยมให้อีกต่างหาก

   ขณะที่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ยึดมั่นในหลักเกณฑ์กฎหมายโพสต์เฟสบุ๊ค ว่า “การประชุม ก.ตร.เพื่อแต่งตั้งรองผบ.ตร.-ผบช. มีการนำเสนอรายชื่อผู้สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น แสดงคุณสมบัติ อาวุโสและความรู้ความสามารถเรียงตามลำดับทุกนาย

      นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานฯเปิดโอกาสให้ ก.ตร.ทุกท่านสอบถาม แสดงความเห็นและมีมติเป็นรายๆ ระดับผบช.เลื่อนเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. 6 นายและผู้ช่วยผบ.ตร.เลื่อนเป็นรองผบ.ตร. 3 นาย  เรียงตามลำดับอาวุโสทุกตำแหน่ง  ระดับ ผบช.ว่าง 18 ตำแหน่ง โดยรองผบช.ดำรงตำแหน่ง 4-7 ปี เลื่อนขึ้น 15 นาย รอง ผบช.ดำรงตำแหน่ง 2-3 ปี เลื่อนขึ้น 3 นาย

      ภาพรวมระดับ ผบช.มีสัดส่วนกลุ่มอาวุโสมากที่ได้เลื่อนขึ้นและได้รับการแต่งตั้งไปเป็นผบช.หน่วยงานสำคัญอาทิ ผบช.ภ.1-9 เป็นผู้อาวุโสและมีความรู้ความสามารถเหมาะสมทุกนาย”

     ก่อนทิ้งท้ายว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้ดำเนินการตามที่ให้คำมั่นสัญญาไว้ว่าจะพิจารณาดำเนินการแต่งตั้งตำรวจทุกระดับให้เป็นธรรมที่สุดและนายกรัฐมนตรีปลื้ม ก.ตร.ชมว่าจัดโผวางคนได้ดีที่สุด
 
    เสียงกล่าวชื่นชมในการจัดโผแต่งตั้งโยกย้ายที่มีต่อผบ.ตร.มีไม่บ่อยหนัก เพราะตลอดกว่า 8 ปีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ครองอำนาจ นับตั้งแต่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา นรต.รุ่น 36 เป็น ผบ.ตร.ถึง 5 ปี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข นรต.รุ่น 36 ครองอำนาจ 2 ปี และพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ นรต.38 ครองอำนาจ 1 ปี แทบจะไร้เสียงชื่นชม กลับกันมีแต่เสียงวิจารณ์ในเชิงลบว่าตามใจฝ่ายการเมืองจนขาดสภาพภาวะผู้นำ

      ที่สำคัญไม่เคยเกิดปรากฏการณ์ รองผบช.อาวุโสจะพาเหรดนั่งตำแหน่งผบช.หลักเหมือนยุค พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ นายร้อยปริญญาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เลย

     เมื่อส่อง รอง ผบช.ที่ขยับเป็นผบช.สัดส่วนอาวุโส 8 นาย ประกอบ พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี รองผบช.ภ.3 เป็นผบช.ภ3  พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.ศ. เป็น ผบช.สตส พล.ต.ต.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รอง ผบช.ภ.1 เป็น ผบช.ภ6 พล.ต.ต.พิสิฐ ตันปประเสริฐ รอง ผบช.ก. เป็น ผบช.สงป. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. เป็น ผบช.ภ 1 พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รองผบช.ภ.5 เป็น ผบช.ภ5 พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น.เป็น จเรตำรวจ และพล.ต.ต.ยงเกียรติ มนประณีต รองผบช.ตชด. เป็นผบช.ตชด.

    แต่ในเสียงชื่นชมย่อมมีเสียงนินทาเล็กๆตามมาว่าในที่ประชุมคณะกลั่นกรองที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ นั่งหัวโต๊ะ มีการถกเถียงอย่างกว้างขวาง เมื่อพิจารณาถึงตำแหน่ง พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์(สบ8)ได้ไปนั่งเก้าอี้ นายแพทย์ใหญ่(สบ.8)โรงพยาบาลตำรวจ (พตร.) แทน พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหาจารุ นายแพทย์ใหญ่(สบ8)โรงพยาบาลตำรวจ ขยับเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. ถึงขั้นลงมติโหวตเสียงเท่ากัน จน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ต้องใช้สิทธิ์ประธานโหวตให้ผ่าน

    ที่ประชุมถกเถียงถึงความเหมาะสมระหว่างพล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชทิทารณ์ นายแพทย์ (สบ 8) กับ พล.ต.ต.ท.ไพบูลย์ เจียมอนุกูลกิจ รองนายแพทย์ใหญ่(สบ 7) ที่บรรดาหมอใน รพ.ต่างลุ้นให้มาเป็น พตร. แต่กลับเป็น พล.ต.ท.ทวีศิลป์ ที่มี พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ (สบ.8) คอยลุ้นเพราะทำงานคอยเกื้อกูลกันทุกรูปแบบ บวกการบริหารจัดการชั้นที่ 14 แบบไร้ที่ติ แบบกรรมการคัดเลือกหรือที่เรียกกันว่า บอร์ดกลั่นกรองโหวตเลือก 3 เสียง ต่อ 3 เสียง จึงทำให้มีเสียงชี้ขาดจาก ผบ.ตร. ให้กับผู้บริการงานชั้น 14 ผ่านแบบเส้นยาแดงผ่าแฝด  บุคลากรทางการแพทย์ ทั้งโรงพยาบาล ต่างพากันวิภาษณ์ เสียงขรม
 
ขณะเดียวกันยังมีเสียงวิภาษณ์กันจากโรงพยาบาลตำรวจอีก ว่าเป็นการวางทายาทเพื่อสางงานบางอย่างจะได้ไม่สะดุด ซึ่งนักสืบไซเบอร์กำลังจับตากันแบบไม่กระพริบ และต่อจากนี้คงจะมีอะไรที่เป็นเรื่องราวเชิงลึก ใน  รพ.ตร. มาให้ได้รู้กัน
 

     แต่เมื่อนำจุดนี้มาเปรียบเทียบกับภาพรวมแล้ว ไม่ได้ทำให้การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ถูกด้อยค่าแต่อย่างใด เพราะทุกตำแหน่งที่ออกมาต่างถูกใจชาวสีกากีและชาวบ้านที่ได้เห็นถึงความเป็นธรรม จากที่ไม่ได้เห็นมากว่า 8 ปี

     ส่งผลให้ชาวสีกากีประเมินได้ว่าการแต่งตั้งระดับรองผบช.-สารวัตร ที่คำสั่งจะทยอยออกมาตามลำดับชั้น คงจะยึดบรรทัดฐานเดียวกับการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ เพราะบรรดานายตำรวจอาวุโส ไม่ว่าระดับไหนไม่ต้องวิ่งเต้นเพื่อหนีตำแหน่งธุรการหรืออำนวยการ เพื่อชิงตำแหน่งหลักเหมือนในอดีต

     เพราะที่ผ่านมาอดีตผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มักจะจัดนายตำรวจอาวุโสให้อยู่สายอำนวยการมากกว่าให้นั่งตำแหน่งหลัก เพราะไม่สามารถสั่งให้หาประโยชน์หรือเอื้อประโยชน์ได้ เนื่องจากไม่มีบุญคุณที่ต้องทดแทนกัน

   เมื่อมองภาพรวมของการแต่งตั้งโยกย้ายรองผบ.ตร.-ผบช. ตามกฎหมายตำรวจฉบับใหม่  ถือว่าพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สอบผ่านงานบริหารบุคคลแบบฉลุย กู้ภาพลักษณ์ที่ถูกดูแคลนเป็นเจ้าแห่งการยกเว้น ให้ดูดีขึ้นทันตา

    แต่การแต่งตั้งโยกย้ายยังมีอีกหลายระดับที่รอพิสูจน์ว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จะยืนระยะสร้างมาตรฐานการแต่งตั้งโยกย้ายใหม่ที่สูงกว่า 3 อดีต ผบ.ตร.หรือไม่ หรือสร้างภาพได้แค่โผเดียว ต้องติดตามแบบเกาะติด !!!