คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ลงมติโหวตให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ไม่ทันข้ามคืน ปรากฏภาพ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ยืนจับมือโอบเอวแสดงความยินดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ถูกนำเสนอผ่านสื่ออย่างรวดเร็ว
พล.ต.อ.ต่อศักด์ อธิบายว่าได้ติดต่อให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มาพบ ทำความเข้าใจกันตามนโยบายที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร.อยากให้แก้ปัญหาภาพรวมขององค์กรตำรวจ ถ้าทะเลาะกันตำรวจชั้นผู้น้อยจะมองอย่างไร
“ผมบอกกับรองโจ๊กเสมอว่า ถ้าขาดจากพี่เอ็งหาคนที่จริงใจกับเอ็งแบบพี่ไม่ได้หรอก”
พล.ต.อ.ต่อศักด์ ระบุ และว่าเป็นคนจริงใจไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ไม่เคยยิงกระสุน ไม่แทงใครลับหลังแน่นอน พอสะท้อนได้ว่าภาพที่ตำรวจทั่วไปมองว่าทั้งสองเกาเหลากันเป็นอันยุติ
แต่ประเด็นที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ในฐานะผู้นำองค์กรจะปล่อยผ่านไม่ได้และต้องเร่งสะสางให้กระจ่างในหลายประเด็น เพราะชาวบ้านคาใจและเกิดความรู้สึกว่าองค์กรตำรวจเน่าในหมดความศรัทธา ซึ่งปกติความรู้สึกของชาวบ้านต่างมองภาพลักษณ์ของตำรวจติดลบอยู่แล้ว เมื่อเกิดเหตุตำรวจถูกยิงตายในบ้าน นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ตายต่อหน้าต่อตาตำรวจกว่า 20 คน ทำให้ศรัทธาหดหายหนัก แต่ที่หดหายหนักถึงขั้นตั้งคำถามว่าทุจริตกันทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลยหรือ ?
เมื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมาระเบิดอารมณ์ว่า”ผมจะไม่เอาคืนแต่มีข้อมูลอยู่มากถ้าเปิดเผยเมื่อไหร่ก็ตายกันหมดทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ซึ่งเกิดขึ้นหลังตำรวจไซเบอร์บุกค้นบ้านพักแบบไม่ได้ตั้งตัวจับลูกน้องคนสนิทคาบ้านพร้อมออกหมายจับทีมงานตั้งแต่ พล.ต.ต.-ชั้นประทวน 8 นาย ฐานพัวพันเว็บพนันออนไลน์และบัญชีม้า
จากนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ประกาศสู้ยิบตาถึงขั้นตั้ง นายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมตำรวจ 8 นาย ที่ตกเป็นผู้ต้องหายืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์
โดยนายอนันตชัย ถึงขั้นเปลี่ยนฉายาให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จาก “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” เป็น” โจ๊ก อัคนี”พร้อมประกาศว่าวันที่ 5 ตุลาคม มีบิ๊กเซอร์ไพรส์ ให้ชาวบ้านได้เห็นแน่นอน หลังจากแถลงข่าวเสร็จวลี”มีบิ๊กเซอร์ไพรส์”ถูกตำรวจและชาวบ้านต่างตีความไปว่าน่าจะมีการแฉพฤติกรรมในทางที่มิชอบของบิ๊กตำรวจบางคนแน่นอน
“แต่สรุปสุดท้ายเมื่อภาพ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จับมือโอบเอวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ปรากฏออก มาท่าทีดุดันของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ลดลงฉับพลันพร้อมปัดว่าไม่รู้เรื่องบิ๊กเซอร์ไพรส์”
ขณะที่ นายอนันตชัย บอกว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งให้ถอยคดี 8 ตำรวจ จึงตอบไปว่าจะถอยได้อย่างไร ส่วนเอกสารบิ๊กเซอร์ไพรส์จะแฉหรือไม่นั้น ถ้า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถอนจากทนายความที่รับผิดชอบคดีจะไม่เปิดต่อสาธารณชน
ปรากฏการณ์ที่ยกมา พออนุมานได้ว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ต้องเร่งทำความจริงให้กระจ่าง เพราะประเด็นที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบิดอารมณ์ออกมาบวกกับท่าทีของ นายอนันตชัย เตรียมแฉมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ ทำให้เชื่อได้ว่ามีระดับบิ๊กบางคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และเชื่อมั่นว่ามีหลักฐานอยู่ในมือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อย่างแน่นอน เพราะต่อไปให้นายอนันตชัย เป็นข้อมูลเพื่อวางแนวทางสู้คดีและเตรียมแฉให้สาธารณชนรับทราบ นี่คือการบ้านข้อแรก ที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ต้องแก้โจทย์ให้สำเร็จ
การบ้านอีกข้อคือการลงโทษผู้บังคับบัญชาที่ละเลยไม่สนใจความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชา ปล่อยให้ฆ่าตัวตายหรือไปประพฤติชั่วนอกลู่นอกทาง ซึ่งระเบียบที่ประกาศใช้มานาน เชื่อว่าทั้งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เคยใช้มาแล้ว ซึ่งต้องเร่งทำเพื่อกู้ภาพลักษณ์
เรื่องแรก เหตุการณ์บ้านกำนันนก ตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องกว่า 20 นาย หลายนายถูกดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทางผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งสอบสวนแล้วลงโทษผู้บังคับบัญชาของตำรวจแต่ละนายหรือยัง เพราะมีทั้ง ภูธร นครบาลและสอบสวนกลาง
เรื่องที่สอง ตำรวจ 8 นายอยู่ในทีมงาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกจับกุมฐานพัวพันพนันออนไลน์ ต้องตรวจสอบให้ลึกลงไปว่าทั้ง 8 นายมีคำสั่งให้ช่วยราชการสำนักงาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือไม่ ถ้าไม่มีผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดต้องรับผิดชอบและถูกลงโทษ แต่ถ้ามี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต้องรับผิดชอบฐานปล่อยปละเลยด้วยหรือไม่? พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ คงจำระเบียบนี้ได้ดีเพราะเคยงัดมาใช้ประจำอยู่แล้ว
นี่คือการบ้านข้อแรกๆที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ต้องเร่งแก้โจทย์จัดการให้สำเร็จโดยเร็ว เพราะนับแต่ประโยคเด็ดของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่เป็นไวรัลในโลกออนไลน์ ส่งผลให้สำนักสีกากีที่ถูกมองว่าเน่าเหม็นอยู่แล้วเน่าเหม็นหนักกว่าเดิม
ซึ่งวิธีสะสางทำได้ไม่ยากเพียงแต่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จะใช้ความกล้าหาญในฐานะผู้นำองค์กรตัดสินใจจัดการแบบเด็ดขาดจับพวกใช้เครื่องแบบสีกากีหาประโยชน์ในทางมิชอบเข้าคุกสักโขยง ชื่อชั้นของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่ถูกดูแคลนว่าเก่งแต่เรียนลัด โตด้วยข้อยกเว้น จะเลือนหายไปทันที
แต่เชื่อว่าไม่กล้าจัดการเพราะกลัวจะเข้าทำนองหยิกเล็บเจ็บเนื้อ และคงทำได้แค่เพียงมายืนถ่ายรูปโอบเอวแบบหวานๆออกสื่อพร้อมปลอบประโลมกัน
ดังนั้นหากถูกชาวบ้านวิจารณ์ว่าบิ๊กตำรวจทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแค่ จัดมหกรรมกลบขี้ หมกของเหม็นไว้ใต้พรหม ก็อย่าโทษชาวบ้าน เพราะพฤติกรรมบ่งบอกอย่างนั้นจริงๆ..!!!