ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง คณะทำงานสำนักเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และอดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเฟสบุ๊ค กล่าวเนื่องในโอกาสครบรอบ 86 ปีการเปลี่ยระบอบปกครอง โดยระบุว่า “วันนี้ เมื่อ 86 ปีที่แล้ว ประเทศของเราได้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองมาเป็น “ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” แต่ก็ช่างน่าเศร้า เพราะผ่านไปเกือบ 90 ปี แต่ระบอบประชาธิปไตยในประเทศของเรากลับยังเดินไปไม่ถึงไหน ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเผด็จการเต็มรูปแบบอยู่ ซึ่งทำให้บ้านเมืองเดินถอยหลังจนตกยุค ไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลก
ทั้งยังมีคนยุคไดโนเสาร์มาเป็นผู้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้กับคนในยุคอนาคต ซึ่งก็น่าสงสัยว่า อีก 20-30 ปีข้างหน้า เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นจากยุทธศาสตร์ดังกล่าว แล้วท่านไดโนเสาร์ทั้งหลายจะลุกขึ้นมาจากหลุมเพื่อแสดงความรับผิดชอบกับความเลวร้ายที่ได้ก่อเอาไว้ในวันนี้ไหม
แล้วทำไมคนที่ไม่รู้วิธีทำมาหากิน จึงมาเป็นผู้คิดโครงการเศรษฐกิจของประเทศ ท่านมีเครดิตแค่ไหนถึงมาคอยบอกให้ใครประกอบอาชีพอะไรหรือให้เลิกทำอาชีพอะไร
สงสัยจังว่าท่านจะสร้างงานสร้างอาชีพให้คนทั้งประเทศได้ยังไงกัน เพราะทั้งชีวิต พวกท่านก็เคยแต่แบมือรับเงินหลวงมาตลอด ตั้งแต่อายุ 15-16 ปี แค่หาเงินด้วยลำแข้งของตัวเอง พวกท่านก็ยังไม่เคยทำ แล้วจะรู้วิธีหารายได้เข้าประเทศได้อย่างไรกัน
แม้จะเกษียณไปแล้ว พวกท่านก็ยังยึดติดกับการใช้ชีวิตด้วยเงินและของหลวง ทำให้ไม่รู้จักปล่อยวาง พอสบโอกาสก็ใช้ปืนและความเป็นเฒ่าเจ้าเล่ห์ยึดอำนาจเข้ามาเป็นใหญ่เป็นโต แต่งตั้งตัวเองและพวกพ้องไปนั่งทำงานในองค์กรต่างๆ โดยเฉพาะในบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่มีเงินเดือนสูงๆ แถมยังกินเงินเดือนและเบี้ยประชุมกันคนละหลาย ๆ ทาง ได้เงินเดือนกันคนละหลายๆ แสนบาทต่อเดือน แต่ประชาชนกระเป๋าแฟบกันทั้งประเทศ
ทุกวันนี้ คนไทยส่วนใหญ่ต้องรัดเข็มขัดเนื่องจากรายได้ฝืดเคือง เศรษฐกิจไม่คึกคักเพราะบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ทั้งยังมีคนไร้วิสัยทัศน์นั่งบริหารประเทศ
คนพวกนี้ วัน ๆ จ้องแต่จะเก็บภาษีตรงนู้นตรงนี้เพิ่ม แต่ภาษีที่เก็บไป ก็ไม่ได้เอามาใช้พัฒนาประเทศ ไม่ได้คืนประโยชน์ให้ผู้เสียภาษีอย่างเป็นกอบเป็นกำในรูปของสวัสดิการ เพราะเงินส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้เพื่อซื้ออาวุธตกรุ่นจากมหาอำนาจ ถือเป็นการถ่วงความเจริญของบ้านเมืองโดยแท้
วันนี้ ความเป็นเผด็จการของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปทั่วทั้งโลก แม้แต่สื่อต่างประเทศยังตั้งฉายาให้ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า “Small Sarit” หรือ สฤษดิ์น้อย
แต่อันที่จริง พฤติกรรมระดับ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ไม่ใช่แค่ “สฤษดิ์น้อย” หรอก แต่ต้องเรียกว่า “สฤษดิ์มาก” ถึงจะถูก
อย่างไรก็ตาม ขอเป็นคนหนึ่งที่ร่วมเฉลิมฉลอง 86 ปี ประชาธิปไตยไทย แม้จะยังพัฒนาไปไม่ถึงไหน ขอเป็นกำลังใจให้หัวใจทุกดวงที่ได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและยังเฝ้ารอที่จะเห็นเสรีภาพ ความเสมอภาคและความเท่าเทียมเบ่งบานในแผ่นดินของเรา
ที่สำคัญ ขอเป็นคนหนึ่ง .. ที่จะร่วมแบกภาระในการต่อสู้นี้ไว้ เพื่อส่งไม้ต่อให้กับคนรุ่นต่อไป แบบที่คนรุ่นก่อน ๆ.ได้เคยต่อสู้และแบกรับความเจ็บปวดเพื่อคนรุ่นเรามาแล้วเช่นกัน.. เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญค่ะ”
วันนี้ เมื่อ 86 ปีที่แล้ว ประเทศของเราได้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองมาเป็น “ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”…
โพสต์โดย หมวดเจี๊ยบ Sunisa Divakorndamrong เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน 2018