หน้าแรกเศรษฐกิจ-การเงินผู้เสียหายถูกหลอกเช่ารถอีก 5 รายร้องกองปราบตามคดี หลังรถถูกขายข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านต้องใช้หนี้กว่า 7 ล้านบาท

ผู้เสียหายถูกหลอกเช่ารถอีก 5 รายร้องกองปราบตามคดี หลังรถถูกขายข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านต้องใช้หนี้กว่า 7 ล้านบาท

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ธันวาคม นายเกียรติคุณ ต้นยาง (ทนายโป้ง) ประธานชมรมทนายความจิตอาสา พร้อมผู้เสียหาย 5 คนเดินทางเข้าพบพ.ต.ท.หญิง บุญทิวา ลิ้มศิริลักษณ์ รอง ผกก. (สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อขอให้กองปรามช่วยติดตามความคืบหน้าทางคดี กรณี ถูก น.ส.วรินทร อายุ 31 ปี สาวทอม ทำทีมาขอเช่ารถ ก่อนจะนำรถยนต์ที่เช่าส่งข้ามไปขายยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีการแจ้งความเจ้าของท้องที่ไว้แล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า

น.ส.กวาง ( นามสมมุติ ) อายุ 35 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเป็นเจ้าของรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 8 กฆ 3006 กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้นำเข้าร่วมกับบริษัทรถเช่าไว้ โดยวันที่ 19 ต.ค. น.ส.วรินทร ได้เดินทางมาขอเช่ารถเพื่อที่จะกลับบ้านที่จ.ลำพูน เป็นเวลา 3 วันโดน คิดค่าเช่าวันละ 1,950 บาท เป็นเงิน 5,850 บาท กระทั่งวันที่ 21 น.ส.วรินทร ได้โทรมาขอเช่ารถต่ออีก 2 วัน พร้อมชำระค่าเช่าเพิ่ม 3,900 บาท ซึ่งตลอดระยะเวลาการเช่าตนได้ติดตาม จีพีเอส ตลอด โดย 3 วันแรก สัญญาณรถปรากฏในพื้นที่ จ.ลำพูน ตามที่น.ส.วรินทร แจ้งได้พอวันที่ 22 ต.ค. ตำแหน่งรถได้เปลี่ยนไปปรากฏในพื้นที่ จ.ตาก

ซึ่งตนก็พยายามติดต่อน.ส.วรินทร แต่ติดต่อไม่ได้ จึงตัดสินใจติดตาม จีพีเอส ไป และได้ติดต่อไปยังบริษัทที่ติดตั้งจีพีเอส ให้ช่วยตัดสัญญาณตัวรถ ซึ่งได้รับแจ้งว่าไม่สามารถตัดได้เนื่องจากเป็นรถรุ่นใหม่ ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง สัญญาณก็ไปปรากฏอยู่ที่เมียวดี ประเทศเมียนมา ติดชายแดน อำเภอแม่สอด จังหวัดตากแล้ว ซึ่งที่ผ่านมามีคนบอกตลอดว่าเส้นทางตามอนวชายแดนเป็นเส้นทางที่เดินทางลำบากการที่จะนำรถออกไปขายเป็นไปได้ยาก แต่แท้ที่จริงแล้ว จากการลงพื้นที่เองปรากฏว่าเส้นทางตามแนวชายแดนไม่ได้ลำบากเลยเพราะเป็นช่องทางที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปมาตามปกติ ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องง่ายที่กลุ่มมิจฉาชีพจะใช้เส้นทางชาวบ้านในการนำรถออกไปขายประเทศเพื่อนบ้าน

ตอนนี้ตนลำบากมากอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามรถมาคืนเพราะทุกวันนี้ต้องรับภาระหนี้ที่จะต้องผ่อนกุญแจรถไปอีก 3 ปี เดือนละ 23,060 บาท รวมกว่า 8 แสนบาท

ด้านนายเกียรติคุณ ต้นยาง (ทนายโป้ง) เปิดเผยว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะรับเรื่องไว้ก่อนแล้วจะส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชา พิจารณา เนื่องจากคนร้ายรายนี้เป็นคนร้ายที่ทางกองปราบปรามต้องการตัวเนื่องจากกลุ่มคนร้ายรายนี้มีการทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันชัดเจน โดยมี น.ส.วรินทร หรือ น้ำ ทำหน้าที่เป็นคนหาเช่ารถ ตามที่ได้รับออเดอร์มา ก่อนจะนำส่งต่อให้ผู้ร่วมขบวนการนำรถที่เช่ามาออกขายยังประเทศเพื่อนบ้าง ซึ่งมีผู้เสียหายเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากตน 5 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 7 ล้านบาท และยังมีผู้เสียหายอีกกว่า 10 รายที่ยังตกเป็นเหยื่อ

อย่างไรก็ตาม น.ส.วรินทร หรือน้ำ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันฉ้อโกงหรือรับของโจร ที่สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ไปแล้ว

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img