หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมร้องกองปราบตามจับตัวหนุ่มแสบหลอกแต่งงานปอกลอกทรัพย์สินจนหมดตัวก่อนชิ่งหนี สุดท้ายจนมุมคาคอนโดย่านราษฎร์บูรณะ

ร้องกองปราบตามจับตัวหนุ่มแสบหลอกแต่งงานปอกลอกทรัพย์สินจนหมดตัวก่อนชิ่งหนี สุดท้ายจนมุมคาคอนโดย่านราษฎร์บูรณะ

วันนี้ (7 ม.ค.) ที่ กองปราบปราม  เมื่อเวลา 10.30 น. ผู้เสียหายเป็นหญิงสาวจำนวน 3 คน เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อร้องขอให้ช่วยติดตามจับกุมตัว นายภัควรรธน์ วัฒนานนท์ หรือ หนึ่ง ชาว จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ 449/2562 ลงวันที่ 25 พ.ย.2562 ข้อหา “ฉ้อโกง” หลังมีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายแต่งงานก่อนหลอกลวงเอาเงินและทรัพย์สินมีค่าของผู้เสียหายไป

น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ผู้เสียหายรายแรก กล่าวว่า เมื่อประมาณเดือนเมษายน 2562  นายภัควรรธน์ ได้ทำทีเข้ามาตีสนิทตนในเชิงชู้สาวผ่านทางโปรแกรมหาคู่ของเฟซบุ๊ก โดยอ้างตัวว่าเป็นนักธุรกิจเพาะพันธุ์สุนัข และช่างภาพอิสระ มีฐานะดี ตนเห็นว่าเป็นคนมีบุคลิกดี ดูน่าเชื่อถือ ประกอบกับพูดจาดี จึงคบหาดูใจกันได้ประมาณ 3 เดือน จากนั้นนายภัควรรธน์ ก็ได้ให้แม่ของเขามาสู่ขอแต่งงาน พร้อมทั้งบอกว่าเรื่องสินสอดไม่มีปัญหา แต่พอถึงวันแต่งงานจริงกลับบอกว่าไม่ได้เตรียมเงินสินสอดมา เนื่องจากติดปัญหาบางอย่าง จึงให้ตนออกค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งไปก่อนจำนวน 3 แสนบาท โดยอ้างว่าจะโอนเงินคืนให้ภายหลัง ซึ่งตนเห็นว่าไม่อยากให้งานแต่งมีปัญหาจึงยอมจ่ายให้ก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่มีการโอนเงินคืนให้

น.ส.เอ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในช่วงที่คบหากันนั้น นายภัควรรธน์ ยังได้ขอยืมเงินจากตนอีกรวม 1.5 แสนบาท โดยบอกว่าแม่ป่วยต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล รวมถึงยังหลอกให้ตนดาวน์รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์อีก 1 คันให้ แต่ให้ออกเป็นชื่อของตน ไม่ใช่ชื่อของนายภัควรรธน์ ส่วนค่าผ่อนรถเขาจะรับผิดชอบเอง แต่เมื่อถึงกำหนดจ่ายค่างวดรถ นายภัควรรธน์ กลับไม่ยอมจ่าย  เมื่อทวงถาม นายภัควรรธน์ ก็พยายามบ่ายเบี่ยง โดยอ้างว่ากำลังรอเงินจากการขายที่ดินมูลค่า 20 ล้าน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา โดยนำข้อความสนทนาผ่านแชทเฟซบุ๊กกับคนในครอบครัวที่พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องซื้อขายที่ดินมาให้ตนดู แต่ เมื่อทวงถามบ่อยครั้งเข้า นายภัควรรธน์ ก็เริ่มทำตัวออกห่างมากขึ้น โดยบอกว่าจะไปทำงานข้างนอก เป็นแบบนี้เรื่อยมาจนกระทั่งเดือน ส.ค. นายภัควรรธน์ ก็ได้ออกจากบ้านตนไป  ปล่อยให้ตนแบกรับภาระหนี้สินที่ก่อขึ้นไว้อยู่คนเดียว

“ตลอดเวลาที่คบหากันนั้นหนูสูญเสียเงินไปกับนายภัควรรธน์ เป็นเงินเกือบ 5 แสนบาท พร้อมกับเป็นหนี้อีก 2 ล้านบาท จึงได้ไปแจ้งความเอาผิดกับนายภัควรรธน์ ไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ในข้อหา ฉ้อโกง จนมีการออกหมายจับไว้ดังกล่าว” น.ส.เอ กล่าว

ด้าน น.ส.บี (นามสมมติ) ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ถูกนายภัควรรธน์ หลอกลวงเอาเงินในลักษณะเดียวกันกับผู้เสียหายรายแรก โดยตอนแรกนายภัควรรธน์ จะเข้ามาทำทีตีสนิทตนผ่านโปรแกรมหาคู่เฟซบุ๊ก โดยช่วงแรกที่พูดคุยจะอ้างว่าเป็นช่างภาพอิสระ และเป็นเจ้าของบริษัทออร์แกไนซ์แห่งหนึ่งเพิ่งเลิกกับภรรยา ต้องการคบหากับตนแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยความที่เห็นว่าเป็นคนบุคลิกดี มีรถยนต์ บ้าน ดูมั่นคง พูดจาเอาใจเก่งจึงเริ่มหลงรักและคบหากัน จากนั้นไม่นานนายภัควรรธน์ ก็ทำทีให้แม่มาสู่ขอแต่งงานเหมือนกับผู้เสียหายรายแรก แต่ตนเห็นว่าพึ่งคบหากันได้ไม่นานจึงขอคบหากันแบบนี้ไปก่อน จากนั้นต่อมานายภัควรรธน์ ก็ได้ทำทีมาขอยืมแหวนทองตนไปขายโดยอ้างว่าจะนำเงินไปใช้เคลียร์ปัญหากับภรรยาเก่า หากแบ่งทรัพย์สินกับภรรยาเก่าได้แล้วจะนำมาคืนให้ ก่อนหนีหายไป

ขณะที่ น.ส.ซี (นามสมมติ) ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า นายภัควรรธน์ ได้เข้ามาทำทีตีสนิทตนผ่านเฟซบุ๊กโดยอ้างตัวเป็นนักธุรกิจเจ้าของออแกไนเซอร์  และเป็นช่างภาพอิสระ ได้รับค่าจ้างจากค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นกว่า 10 ล้านบาทต่อปี และเป็นบุคคลชั้นสูงอ้างรู้จักและสนิทสนมกับคนมีชื่อเสียงมากมาย ทั้งในแวดวงการเมือง และสังคมชั้นสูงอีกหลายคน รวมถึงยังอ้างเป็นเซียนพระชื่อ “หมอก เมืองสมุทร” รู้จักเซียนพระระดับประเทศ ก่อนหลอกนำพระเครื่องราคาแพงไปขาย และได้มีการยักยอกพระเครื่องหลายองค์ กรอบพระทองคำ และสร้อยทองคำไป รวมค่าเสียหายประมาณ 600,000 บาท

“ที่เรารวมตัวกันมาแจ้งความกับทางกองปราบในวันนี้ก็เพื่อต้องการให้ตำรวจช่วยเร่งติดตามจับกุมตัวเพราะเกรงว่าหากยังคงปล่อยไว้ นายภัควรรธน์ ก็อาจจะไปก่อเหตุหลอกลวงหญิงสาวรายอื่นอีก เนื่องจากพฤติกรรมของนายภัควรรธน์ นั้นเข้าข่ายเป็นภัยต่อสังคม” น.ส.ซี กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ก่อนหน้านี้ นายภัควรรธน์ เคยถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุม เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 ในคดีฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และใช้ยศโดยไม่มีสิทธิ หลังจากเมื่อปี 2556 นายภัควรรธน์ ได้แอบอ้างตัวเป็นนายแพทย์ของโรงพยาบาลศิริราช ทำทีตีสนิทหญิงสาวคนหนึ่ง ก่อนจะขอยืมรถยนต์จากผู้เสียหายแล้วเชิดรถหนีไป เหตุเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังเคยแอบอ้างเป็นนายทหารยศร้อยโท หลอกลวงผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง โดยทำทีว่ามีรสนิยมทางเพศแบบชายรักชาย จากนั้นขอหยิบยืมเงินจากผู้เสียหายเป็นจำนวน 40,000 บาทก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดใน กทม.

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกันนี้ ภายหลังจากที่ผู้เสียหาย 3 รายล่าสุด เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนกับทางตำรวจกองปราบได้ไม่นาน นายภัควรรธน์ นั้นก็ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.8 ติดตามจับกุมตัวได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านราษฎร์บูรณะ ก่อนจะนำตัวเข้าทำการสอบปากคำต่อที่ สน.บางรัก ซึ่งขณะนี้อย่างระหว่างการควบคุมตัวสอบปากคำ


 

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img