ที่ลานแถลงข่าวชั้นล่างบช.น. พลตำรวจโท สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พลตำรวจตรี นิตินันท์ เพชรบรม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.),พลตำรวจตรี สมนึก น้อยคง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 (ผบก.น.3) พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์,พันตำรวจเอก นพรัตน์ สินมา รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 (รองผบก.น.3),พันตำรวจเอก พรเทพ สูติปัญญา ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี (ผกก.สน.มีนบุรี),พันตำรวจโท นิเวชร์ งามลาภ รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี (รองผกก.สส.สน.มีนบุรี),พันตำรวจโท ทัศพล สุขไพบูลย์ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี (สว.สส.สน.มีนบุรี) และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี (สน.มีนบุรี)
ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุตัดสายเคเบิ้ลทีโอทีในพื้นที่บก.น.3 โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 2 คนคือ นายสมบูรณ์ หรือแหน จงเจริญ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 6 ต.แจนแวน อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ และนายอุเทน หรือโคล่า จงเจริญ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 6 ต.แจนแวน อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์
โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2562 เวลาประมาณ 17.30 น. ได้ที่บริเวณหน้าบริษัททิพากร ถ.สุวินทวงศ์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยของกลาง สายเคเบิ้ลโทรศัพท์ (ทีโอที) ขนาด 600 X 0.4 AP) ความยาวประมาณ 31 เมตร (มูลค่า 25,000 บาท) จำนวน 1 เส้น,บันไดไม้ไผ่ จำนวน 2 อัน (ใช้ปีนตัดสายเคเบิ้ล),คีมตัดสายเคเบิ้ล จำนวน 5 อัน (ใช้ในการตัดสายเคเบิ้ล),มีดคัดเตอร์ จำนวน 1 อัน (ใช้ตัดสายเคเบิ้ล),รถยนต์กระบะ (แค็ป) ยี่ห้อเชฟโรเล็ตโคโลลาโด้ สีแดง หมายเลขทะเบียน 2 ฒฆ 9916 กรุงเทพมหานคร (ใช้ขนสายเคเบิ้ลหลบหนี) จำนวน 1 คัน พร้อมกุญแจรีโมท 1 ดอก”
พ.ต.อ.พรเทพฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี ได้รับแจ้งจากบริษัททีโอที ว่ามีคนร้ายลักลอบตัดสายเคเบิ้ลของทางบริษัทฯ ในเขตพื้นที่ สน.มีนบุรี จำนวนหลายจุด และเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และแจ้งเบาะแสว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมักจะแต่งกายคล้ายกับพนักงานของบริษัท ทีโอทีฯ หรือพนักงานของการไฟฟ้าฯ และใช้รถยนต์กระบะในการก่อเหตุ จึงได้ออกตรวจพื้นที่เพื่อเฝ้าระวัง ขณะออกตรวจพื้นที่มาถึงบริเวณหน้าบริษัททิพากร ถ.สุวินทวงศ์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สังเกตุเห็นชายจำนวน 2 คน แต่งกายคล้ายพนักงานของการไฟฟ้าฯ กำลังปีนบันได และดึงลากสายเคเบิ้ล ลงจากเสาไฟฟ้าแล้วนำม้วนสายเคเบิ้ลที่ตัด ขึ้นใส่ไว้ในกระบะรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเล็ต คันดังกล่าว ที่จอดอยู่จึงเข้าทำการตรวจสอบนายสมบูรณ์ฯ และนายอุเทนฯ เป็นผู้ก่อเหตุ
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การว่าไม่มีผู้ใดในบริษัท ทีโอทีฯ และการไฟฟ้าฯ สั่งให้มาดำเนินการติดตั้ง,ซ่อมแซม หรือตัดสายเคเบิ้ลบริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ประสาน นายชัยรัตน์ จุลคง อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่บริษัท ทีโอทีฯ ทางโทรศัพท์ทันที ได้รับแจ้งว่าทางบริษัท ทีโอทีฯ ไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการติดตั้ง,ซ่อมแซม หรือตัดสายเคยเบิ้ล บริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด
จึงเชื่อได้ว่าชายทั้ง 2 คน เป็นคนร้ายที่มาลักลอบตัดสายเคเบิ้ล พบบันไดพาดอยู่ที่เสาไฟในที่เกิดเหตุ 1 อัน อยู่บนรถยนต์ของกลาง 1 อัน พบคีมตัดสายเคเบิ้ล,มีดคัดเตอร์ และอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุอยู่ในรถยนต์ของกลาง จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม และตรวจยึดของกลาง นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางมายัง สน.มีนบุรี
ต่อมา นายชัยรัตน์ฯ เจ้าหน้าที่บริษัททีโอที มาชี้ยืนยันของกลางและชี้ยืนยันให้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จึงได้ทำการตรวจยึดสิ่งของซึ่งผู้ต้องหาได้มาจากการกระทำความผิด และใช้ในการกระทำความผิดซึ่งของกลางดังกล่าวอยู่ในความครอบครองของผู้ต้องหา ได้มาได้ใช้จากการกระทำผิดจริง
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงอาศัยอำนาจตาม ป.วิอาญา มาตรา 78 (3) ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน โดยไม่มีหมายจับ พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อพ้นการจับกุม หรือรับของโจร” และแจ้งสิทธิของผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาให้ทราบในขณะจับกุมแล้วนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป