นายกฯ มอบนโยบาย 77 จังหวัด ตั้งเป้าสังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด

160

นายกฯ มอบนโยบาย 77 จังหวัด ตั้งเป้าสังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติดให้ใช้ฐานข้อมูล ทุกหน่วยงานดำเนินการต่อเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาลอย่างจริงจังและเด็ดขาด

วันพุธที่ 18 ธันวาคม 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้เกียรติเป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการติดตาม เร่งรัด การบำบัดรักษา และฟื้นฟูสภาพทางสังคม ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศปก.ครส.) ครั้งที่ 2/2567 ณ ห้องประชุมชิดชัย วรรณสถิตย์ สำนักงาน ป.ป.ส. โดยมี พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ให้การต้อนรับ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ส. และติดตามผลการดำเนินงานด้านยาเสพติด สำหรับการประชุม ศปก.ครส. ครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชยันต์ เมืองสง

รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร และนายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง รวมถึงคณะกรรมการ ศปก.ครส.

โดยมี พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ทำหน้าที่ผู้อำนวยการ ศปก.ครส. และนายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ทำหน้าที่รองผู้อำนวยการ ศปก.ครส. พร้อมคณะที่ปรึกษา นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนจากส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมประชุม ได้แก่ นายศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ พล.ต.ท. สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจรักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายธนาธิป นวรัตนวรกุล อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ส. และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมย้ำว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยสั่งการให้เร่งขับเคลื่อนและต่อยอดความสำเร็จจากปฏิบัติการ 90 วันใน 25 จังหวัดเป้าหมาย และยกระดับให้ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเน้นการทำงานเชิงบูรณาการทุกมิติ ตั้งแต่การสกัดกั้นยาเสพติดระหว่างประเทศ เพิ่มมาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้า รวมถึงปราบปรามและยึดทรัพย์ผู้ค้า นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการค้นหาผู้เสพในชุมชนเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาและฟื้นฟู ส่งเสริมการฝึกอาชีพและการศึกษา พร้อมจัดระบบติดตามดูแล เพื่อป้องกันการกลับเข้าสู่วงจรยาเสพติด มุ่ง “คืนคนคุณภาพสู่สังคม” และสร้างสังคมไทยปลอดยาเสพติด ยิ่งไปกว่านั้น นายกรัฐมนตรียังมอบหมายผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบหลัก (CEO) ด้านยาเสพติดของจังหวัด กำชับให้ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งตำรวจ สาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะ 10 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ เชียงใหม่ สกลนครประจวบคีรีขันธ์ นราธิวาส อุทัยธานี ปทุมธานี นครพนม ระยอง นครศรีธรรมราช และตรัง ให้ใช้โมเดลความสำเร็จจาก อ.ท่าวังผา จ.น่าน และ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.ต.อ. ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้กำกับดูแล พร้อมทั้งสั่งการให้เร่งพัฒนาแพลตฟอร์มการแจ้งเบาะแสยาเสพติดที่สามารถรักษาความลับผู้แจ้ง เพื่อให้ประชาชนแจ้งข้อมูลได้โดยตรง ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่

สำหรับการติดตามผลการดำเนินงาน นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงการรายงานข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ โดย พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเสริมว่า ระบบสารสนเทศยาเสพติดจังหวัด หรือ NISPA PLUS มี Dashboard เป็นเครื่องมือสำคัญในการแสดงข้อมูลและผลการดำเนินงาน โดยแสดงผลตัวชี้วัดที่สำคัญ (KPI) ทั้งภาพรวมของประเทศ และรายจังหวัด ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลกลางให้ทุกฝ่ายรับทราบข้อมูลร่วมกัน และยังมีข้อมูลสถิติที่สำคัญ เช่น สถานการณ์ยาเสพติดผลการจับกุม การบำบัดรักษา และงบประมาณ ทั้งนี้ การแสดงผลแบบ Real-time ของระบบ NISPA PLUS จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน และติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#นายกฯอุ๊งอิ๊ง#ปปส.