กรมส่งเสริมการเกษตร ประกาศวันเก็บเกี่ยวทุเรียน 3 จังหวัดภาคตะวันออก ปี 67 พร้อมดำเนินการมาตรการควบคุมและป้องกันทุเรียนอ่อน ส่งเสริมเกษตรกรผลิตทุเรียนคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ให้ความสำคัญกับการผลิตทุเรียนไทยที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นฤดูกาลทุเรียนปี 67 นี้ จะดำเนินงานตามมาตรการควบคุมและป้องกันทุเรียนอ่อนอย่างเข้มงวด ที่ผ่านมาภาคตะวันออกมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาหลายปี ถึงแม้ปีที่ผ่านมาจะได้ผลไม่น่าพอใจ อย่างไรก็ดีการเฝ้าระวังความเสี่ยง ปัญหาทุเรียนอ่อนซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อราคาทุเรียนทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งส่งผลด้านลบต่อภาพลักษณ์ทุเรียนไทยในสายตาผู้บริโภค และสร้างความเสียหายต่อธุรกิจการค้าทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่การผลิตทุเรียน
กรมส่งเสริมการเกษตรพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมกันป้องกันทุเรียนอ่อน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ มีผลผลิตออกสู่ตลาดก่อนพื้นที่อื่น ในขณะที่ช่วงต้นฤดูผลผลิตยังน้อย แต่ผู้บริโภคมีความต้องการซื้อสูง โดยร่วมกับหน่วยงานภาคีทั้งภาครัฐ เอกชน และเกษตรกรวางแนวทางการบริหารจัดการทุเรียนเพื่อการส่งออกภาคตะวันออก กำหนดวันเก็บเกี่ยวทุเรียนภาคตะวันออก ปี 67 เพื่อใช้เป็นกรอบระยะเวลาในการดำเนินงานตามมาตรการฯ เพื่อให้ผลผลิตทุเรียนที่ออกสู่ตลาดมีคุณภาพ คือ พันธุ์กระดุม วันที่ 15 เม.ย. พันธุ์ชะนี และพวงมณี วันที่ 5 พ.ค. พันธุ์หมอนทอง วันที่ 20 พ.ค. โดยกำหนดค่าเฉลี่ยของเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียนแต่ละสายพันธุ์ไว้ ดังนี้ 1) พันธุ์กระดุม ไม่น้อยกว่า 27 % 2) พันธุ์ชะนี
ไม่น้อยกว่า 30 % 3) พันธุ์พวงมณี ไม่น้อยกว่า 30 % และ 4) พันธุ์หมอนทอง ไม่น้อยกว่า 32 % อ้างอิงตามมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง ทุเรียน (มกษ. 3-2556)
นายพีรพันธ์ กล่าวอีกว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดจะเป็นหน่วยรับผิดชอบในการจัดทำประกาศร่วมกับจังหวัดต่อไป ในส่วนของเกษตรกร กรมฯได้ขอความร่วมมือก่อนจะเก็บเกี่ยวตามวันประกาศฯ ให้นำตัวอย่างผลทุเรียนที่จะทำการเก็บเกี่ยวมาให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ณ สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสถานที่ที่กำหนด เพื่อทำการตรวจวัดเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียนเพื่อออกใบรับรอง สำหรับใช้แนบไปกับรถขนส่งทุเรียนไปที่ล้ง/โรงคัดบรรจุ ซึ่งแต่ละจังหวัดอาจมีกำหนดระยะเวลาดำเนินการที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ จึงขอให้ดำเนินการตามประกาศของแต่ละจังหวัด
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรให้ความรู้เกษตรกรชาวสวนทุเรียนในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและปรับปรุงข้อมูลในทุกปี เพื่อให้ภาครัฐสามารถวางแผนการผลิต การตลาด ส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และจัดทำโครงการตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกร พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรมีการขอรับรองมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) เพื่อให้ได้ผลผลิตทุเรียนที่มีคุณภาพ ปลอดภัยต่อเกษตรกรและผู้บริโภค และยังส่งผลดีต่อการส่งออกทุเรียนไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศคู่ค้าที่สำคัญอย่างสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีข้อกำหนดขั้นตอนการส่งผลไม้สดจากไทยไปจีนที่เข้มงวด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อคู่ค้าและผู้บริโภค ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และวิธีการขอใบรับรองมาตรฐาน GAP ได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย