บรรทัดฐานคุมตัว”น.ช.แม้ว”
แนะยกเลิกมาตราสิทธิเท่าเทียม

        เรียบร้อยโรงเรียนเพื่อไทยกับสองภารกิจสำคัญ นำนักโทษชาย(น.ช.)ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านกับโหวตเลือกนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีแบบม้วนเดียวจบ
         ที่ต้องใช้คำว่า น.ช.นำหน้าจากเดิมที่เคยใช้คำว่านายทักษิณ เพราะที่ผ่านมานายทักษิณและแนวร่วมไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม เพราะมองว่าถูกเผด็จทหารครอบงำและจัดฉาก

       แต่เมื่อนายทักษิณกลับมาขึ้นศาลน้อมรับคำพิพากษา ถูกนำตัวเข้าคุกนามนำหน้าก็ต้องเปลี่ยนจากนายเป็นน.ช.

    ย้อนกลับมาที่ความเคลื่อนไหวทั้งสองกรณี พลันที่เครื่องบินส่วนตัวนายทักษิณ แตะรันเวย์สนามบินดอน ก็พบกับการต้อนรับแบบสมเกียรติ ตามที่นายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมืองผู้มากบารมี และอดีตคนสนิท น.ช.ทักษิณ เจ้าของวลีมันจบแล้วครับนาย ที่กลับมาเป็นคนสนิทดังเดิม  มาเคลียร์พื้นที่ดูความเรียบร้อยก่อน 1 วัน

     ภาพที่ปรากฏผ่านสื่อทุกแขนงคือลูกๆพร้อมหลานๆน.ช.ทักษิณ คอยต้อนรับอยู่ในห้องรับรองอย่างอบอุ่น ก่อนที่จะถูกตำรวจคุมตัวอย่างพินอบพิเทาไปขึ้นศาลฎีกาเพื่อรับฟังคำพิพากษา แล้วส่งไม้ต่อให้กับเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ที่อยู่ในอาการเดียวกับตำรวจนำไปคุมขังที่แดน 7 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

     เมื่อตัดฉากไปที่รัฐสภา สส.และสว.ต่างอภิปรายถึงคุณสมบัติของนายเศรษฐา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หลายคนอภิปรายแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยแล้วลงมติโหวตแบบม้วนเดียวจบ

    ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้ว่าล้อเครื่องบินแตะรันเวย์เมื่อใดหมายถึงว่าโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีก็ผ่านฉลุย เพราะสัญญาณนี้ได้สะท้อนมาตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม ที่นัดโหวตนายกรัฐมนตรีถูกเลื่อนออกไป โดยอ้างศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลชิงนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ได้หรือไม่

   “แต่เหตุผลหลักมีเสียงนินทาว่า เพราะการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ลงตัวเนื่องจากนายทุนพรรคต้องการคุมกระทรวงพลังงาน เพื่อเอื้อธุรกิจ ทำให้การเลื่อนกลับประเทศของน.ช.ทักษิณ ในวันที่ 10 สิงหาคม ต้องเลื่อนออกไป เมื่อเกมต่อรองผลประโยชน์ลงตัวก็เกิดปรากฏการณ์ตามที่เห็น”

    เมื่อภารกิจในรัฐสภาเสร็จสิ้นลง แต่กระบวนการดูแล น.ช.ทักษิณ ยิ่งกว่าไข่ในหินของกรมราชทัณฑ์ก็ดำเนินต่อ บิ๊กกรมราชทัณฑ์ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงแนวทางดูแล น.ช.ทักษิณ หลังหมอโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตรวจพบสารพัดโรค แบบย้อนแย้งกับอาการที่ น.ช.ทักษิณ โชว์ผ่านสื่อโซเซียลแบบร่างกายฟิตเปรี๊ยะ

  จากนั้นก็ส่งไปควบคุมที่แดน 7 ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต่างทราบกันดีว่าเป็นห้องพักรับรองอย่างดีเพียงแต่มีแค่พัดลม น.ช.ทักษิณอยู่เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถูกโรคตรวจพบรุมเร้าต้องนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจกลางดึก โดยอ้างว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ดีกว่าห้องพักก็แสนสบาย

 ส่งผลให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนัก จนหมอโรงพยาบาลตำรวจต้องออกมาแถลงแก้เกี่ยวว่าเคยเป็นห้องที่รักษาผู้ป่วยโควิด ไม่ได้สุขสบายเพราะแอร์เสีย จนถูกตั้งคำถามจากสังคมว่าเปิดช่องเพื่อนำไปรักษาที่โรงพยาบาลพระราม 9 ของตระกูลชินวัตรหรือไม่

    “จากพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐในการดูแลน.ช.ทักษิณ ประชาชนก็พอมองออกว่าได้เตรียมการอย่างดีและวางไว้หลายแนวทาง มีการปูกระแสผ่านสื่อโซเซียลของน.ช.ทักษิณมาตลอดนับแต่ปี 2563”

   หากย้อนดูกฎกระทรวงยุติธรรม ในปี 2563 ที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน คนใกล้ชิดน.ช.ทักษิณ นั่งกุมบังเหียน มีการออกกฎกระทรวง กำหนดสถานที่คุมขัง 2563 โดยระบุว่าอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 วรรคหนึ่งและมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมออกกฎระทรวงไว้ โดยสรุปดังนี้

   ข้อ 1 ในกฎกระทรวงนี้”สถานคุมขัง”หมายความว่าสถานที่อื่น ที่ไม่ใช่เรือนจำซึ่งเป็นสถานที่ของทางราชการหรือเอกชนที่เจ้าของหรือผู้ปกครองดูแลรักษาสถานที่อนุญาตหรือยินยอมให้ใช้ประโยชน์ในการควบคุมผู้ต้องขัง

   ข้อ 2 การกำหนดอาณาเขตสถานที่คุมขัง จะกำหนดอาณาเขตของอสังหาริมทรัพย์ทั้งแปลง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งที่ตั้งอยู่บนอสังหาริมทรัพย์ก็ได้ พร้อมกำหนดคุณสมบัติไว้อาทิมีขอบเขตแน่นอน อาคารสิ่งปลูกสร้างมีลักษณะเป็นการถาวร เป็นต้น

 ข้อ 3 สถานที่คุมขังต้องมีวัตถุประสงค์ในการใช้คุมผู้ต้องขังเพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง อาทิการปฏิบัติตามระบบจำแนกและการแยกคุมขัง และการรักษาพยาบาลผู้ต้องขัง เป็นต้น

 ข้อ 5 สถานที่คุมขังกำหนดไว้ 6 ประเภท อาทิสถานที่ราชการหรือหน่วยงานของรัฐใช้ประโยชน์ในการจัดทำบริการสาธารณะ  วัด มัสยิด และสถานที่ทำการหรือสถานประกอบการของเอกชน เป็นต้น

   กฎกระทรวงให้อำนาจอธิบดีกรมราชทัณฑ์ดำเนินการจัดทำสถานที่คุมขัง ซึ่งนายสมศักดิ์ ลงนามไว้เมือวันที่ 25 กันยายา 2563 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 137ตอนที่ 84 ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2563

    ถ้าอ่านกฎกระทรวงฉบับนี้ให้จบสิ้นกระบวนความคงไม่ต้องสงสัยว่าการกลับของน.ช.ทักษิณ ได้เตรียมการไว้หลายแนวทาง หากแนวทางแรกที่ดำเนินการอยู่พลาดการอขออภัยโทษถูกลากยาวน.ช.ทักษิณ ก็สามารถอยู่ในสถานที่คุมขังที่เอกชนสร้างขึ้นได้เลย

  “แต่บังเอิญว่ากระบวนการรับและคุมตัวน.ช.ทักษิณ ขั้นแรกมิได้สะดุด อยู่ในห้องพัดลมเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ไปนอนห้องแอร์โรงพยาบาลตำรวจสบายใจเฉิบ จนมีข่าวสะพัดว่านอนที่นี่เพื่อสะดวกในการประสานวางตัวรัฐมนตรี รัฐบาลนิด 1”

   เมื่อมองบริบทโดยรวมสะท้อนได้อย่างชัดเจนว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะจากนักการเมือง เจ้าหน้ารัฐ เสมือนดูถูกประชาชนว่ามีหัวไว้แค่สวมหมวก กินหญ้ามากกว่ากินข้าว ที่สำคัญคือเป็นการตอกย้ำอย่างชัดเจนที่คนไทยเชื่อมาตลอดว่าคุกมีไว้ขังคนจนเท่านั้น

  ดังนั้นเพื่อลดข้อครหาว่าคนมีเงิน มีอำนาจ มีอิทธิพล คืออภิสิทธิ์ชน ขอฝากสมาชิกรัฐสภาช่วยแก้รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายในมาตราที่ระบุว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันทางกฎหมาย เป็นคนจนต้องถูกบังคับใช้กฎหมายกันอย่างเท่าเทียม ยกเว้นคนมีอำนาจ มีเงิน มีอิทธิพล ไม่ต้องดำเนินคดีในทุกคดีที่กระทำผิด

  เชื่อว่ามาตรานี้แก้ได้แน่นอนเพียงแค่น.ช.ทักษิณ กระดิกเท้า เพราะการกลับมาครั้งนี้ได้กุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จแล้วแม้แต่ สว.ที่ชังหนักชังหนายังสิโรราบ !!!

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img