นายองอาจ คล้ามไพบูลย์

<!--[CDATA[ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ กกต. ยืนยันว่า พร้อมเลือกตั้งท้องถิ่น และมีความพร้อมมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ดังนั้นรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการมหาดไทย จึงไม่ควรมีข้ออ้างอะไรอีกที่จะเหนี่ยวรั้งเตะถ่วงการเลือกตั้งท้องถิ่นออกไปแบบไม่มีกำหนด ทั้งนี้กฎหมายกำหนดไว้แล้วว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้ง 4 แบบ คือ อบจ. อบต. เทศบาล และองค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ 2 แห่ง...

<!--[CDATA[ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การใช้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม จากผลกระทบของโควิด-19 วงเงิน 400,000 ล้านบาทว่า ในวันที่ 8 ก.ค. พรุ่งนี้ ครม. จะมีการพิจารณาอนุมัติงบเงินกู้ที่ผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองฯ มาแล้ว ลอตแรกประมาณ 80,000 ล้านบาท ขอฝากให้ ครม....

<!--[CDATA[ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ไม่มีงบประมาณจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นเพราะถูกโยกงบมาใช้แก้ปัญหาโควิด-19 ว่า นับเป็นเรื่องดีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่ามีงบประมาณจัดเลือกตั้งท้องถิ่นอยู่ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 แล้ว ไม่ได้มีปัญหาเรื่องงบเลือกตั้งท้องถิ่นแต่อย่างใด จึงต้องขอบคุณนายวิษณุ ที่ยอมรับความจริง ยืนยันว่ามีงบเลือกตั้งท้องถิ่น ถึงแม้เมื่อ 2-3 วันก่อน เคยบอกว่าไม่มีงบเลือกตั้งท้องถิ่นเพราะเอางบไปแก้ปัญหาโควิด-19 หมดแล้วก็ตาม...

<!--[CDATA[ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ยอมรับว่าการจัดเลือกตั้งมีปัญหาเรื่องงบประมาณ เพราะงบประมาณถูกโยกมาแก้ปัญหาโควิด-19 ว่า การอ้างไม่มีงบประมาณเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น ที่อ้างว่าต้องเอางบประมาณ ไปแก้ปัญหาโควิด-19 ยิ่งตลกเข้าไปใหญ่ เพราะงบประมาณที่ใช้เรื่องแก้โควิด-19 รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากโควิด-19 ก็มี พ.ร.ก. 3 ฉบับ ที่สามารถมีงบประมาณมาใช้จ่ายในเรื่องที่เกี่ยวกับโควิด-19 อยู่แล้ว รวมทั้งขณะนี้ก็จะมีงบประมาณจาก...

<!--[CDATA[ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ว่า จากการพิจารณา พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เอสเอ็มอีที่ผ่านการพิจารณาเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว ได้มี ส.ส. หลายคนอภิปรายถึงปัญหาอุปสรรคที่เอสเอ็มอีขนาดย่อมจำนวนมากเข้าไม่ถึงเงินกู้ที่ พ.ร.ก.ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยจัดซอฟท์โลนดูแลเอสเอ็มอี 5 แสนล้านบาท ที่ให้เอสเอ็มอีกู้ผ่านธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐ เพื่อเสริมสภาพคล่อง เพราะเอสเอ็มอีส่วนหนึ่งไม่ใช่ลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ ที่ไปยื่นเรื่องขอกู้ ธนาคารหลายแห่งก็จะไม่ปล่อยกู้เพราะกังวลเรื่องหนี้เสีย ถึงแม้กระทรวงการคลัง จะจ่ายชดเชยให้ธนาคารแห่งประเทศไทย...